Wasteland การกลับมาของบาร์สายยั่งยืน ที่ใช้ค็อกเทลเล่าเรื่อง ‘โลก-ป่า-ขยะ’

ใครที่เป็นนักดื่มหรือสายฮอปบาร์ย่อมต้องเคยได้ยินชื่อ Wasteland มาบ้างไม่มากก็น้อย บาร์สายยั่งยืนที่ใช้เครื่องดื่มเป็นสื่อกลางในการเปลี่ยนบทสนทนาหน้าบาร์ให้กลายเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม นวัตกรรม และอนาคตของวงการกินดื่มอย่างจริงจัง Wasteland เปิดตัวครั้งแรกในช่วงกลางปี 2563 เป็นบาร์เล็กๆ ที่เชื่อในแนวคิด Closed-Loop Cocktails และการบริหารจัดการบาร์อย่างยั่งยืน ภายใต้การดูแลของ ‘กอล์ฟ-กิติบดี ช่อทับทิม’ และ ‘ท็อท-ธรัฐ หุ่นจำลอง’ แม้ห่างหายจากการมีหน้าร้านไปพักใหญ่ แต่พวกเขายังเดินหน้าพัฒนาโปรเจกต์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Wasteland กลับมาอีกครั้งพร้อมโลเคชันใหม่ในซอยสุขุมวิท 71 พร้อมค็อกเทลซิกเนเจอร์มากถึง 21 ตัว ที่เล่าเรื่องโลก ป่า และขยะ ผ่านวัตถุดิบท้องถิ่น เหลือใช้ และอัปไซเคิล

The Vibe

การจะมา Wasteland จะเรียกว่าบาร์ลับก็ไม่ผิด เพราะถ้ามองผิวเผินคุณต้องไม่รู้แน่ว่าละแวกนี้มีบาร์ดีซ่อนอยู่ แนะนำให้เดินตามแผนที่ใน Google แล้วมองหาทางเข้าตึกแถวเล็กๆ ที่มีป้ายสีน้ำเงินเหนือประตู จากนั้นเดินขึ้นมายังชั้น 2 คุณก็จะพบกับดินแดนรกร้าง

พื้นที่ใหม่ของ Wasteland เป็นอาคาร 5 ชั้นที่ไม่สมมาตร ไม่มีด้านไหนที่เหมือนกันเลย และนั่นคือความตั้งใจ ทุกชั้นมีบทบาทในตัวเอง ชั้น 2 เป็นบาร์หลัก ที่จะพาเราสำรวจรสชาติใหม่ๆ ชั้น 3 คือแล็บทดลองและพื้นที่เวิร์กช็อปในอนาคต และชั้น 5 คือพื้นที่หมักปุ๋ยและเตรียมการสำหรับสวนดาดฟ้า

เมื่อเป็นบาร์ที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม การตกแต่งบาร์จึงเน้นนำเอาเหลือใช้ที่ผู้คนไม่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ โครงสร้างชั้นทำจากซากตู้เย็น ของเหลือจากกำแพงบางส่วนนำไปทำเป็นที่รองแก้ว วัสดุทุกชิ้นเล่าเรื่องการอัปไซเคิล และทุกพื้นผิวมีความเป็นมาที่นี่ไม่มีความ ‘หรูหราแบบบาร์ทั่วไป’ มีแต่ความดิบ ความจริง และความตั้งใจที่จับต้องได้

The Taste

สำหรับเมนูซีรีส์แรกที่ของ Wasteland ยุคใหม่ เลือกนำเสนอคอนเซปต์ WWW หรือ World Wild Waste โดยแบ่งออกเป็น 3 หมวดหลัก คือ ‘World’ นำค็อกเทลคลาสสิกมาทวิสต์ใหม่ในแบบฉบับของตัวเอง, ‘Wild’ ชูวัตถุดิบท้องถิ่นที่หาได้ธรรมชาติและการ forage และสุดท้าย ‘Waste’ นำวัตถุดิบที่มักถูกมองข้าม ซึ่งเป็นของเหลือตามร้านอาหารหรือการหมักดองมาเป็นวัตถุดิบหลักในการทำเครื่องดื่ม โดยแต่ละหมวดจะมีเครื่องดื่ม 7 แก้ว เสิร์ฟทั้งแบบ Full Glass และ Tasting Serve สำหรับผู้ที่อยากชิมหลายตัว หรือลดของเหลือจากการดื่มไม่หมด

สำหรับแก้วที่น่าสนใจและอยากให้ชิม ได้แก่ ‘Wrong Island’ คลาสสิกค็อกเทล Long Island ที่แทนโคล่าแบบเดิมด้วย Cacao Cola สูตรทางร้าน, Ant-idote แก้วนี้อยู่ในหมวด Wild เด่นด้วยการใช้ไข่มดแดงและแม่เป้งเป็นวัตถุดิบ, Blurred Cheese เครื่องดื่มที่เล่นคำกับคำว่า Blue Cheese โดยใช้ลูกยอให้รสแทนบลูชีส

ส่วนใครอยากลองเครื่องดื่มสาย Waste ที่เน้นเอาของเหลือเขามาเป็นวัตถุดิบเรา ต้องลอง Fossil Fuel แก้วนี้ใช้เปลือกปูและก้างปลามาเป็นวัตถุดิบหลัก, Morning After Espresso ดึงกลิ่นรสจากเปลือกและกากกาแฟที่เหลือใช้ตามคาเฟ่ หรือ Field Trip ใช้ของเหลือจากการทำสาโทมาเป็นส่วนผสม

นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำ ไร้แอลกอฮอล์ เหล้าท้องถิ่น และโปรดักต์ตามฤดูกาลที่เกิดจากการคอลแลบกับเครือข่ายครีเอทีฟด้วย

Good for

สำหรับใครที่อยากหาไอเดียเกี่ยวกับค็อกเทลใหม่ๆ พื้นที่ยั่งยืนหรือความเป็นไปได้ในโลกเครื่องดื่ม ลองแวะมาพูดคุยกับทีม Wasteland ได้ที่บาร์ หรือจะแวะมาแฮงเอาต์กับเพื่อนเพื่อเอาประสบการณ์ก็ได้ ที่นี่ไม่พยายามให้ใครดูเท่ แต่พยายามสร้างพื้นที่ที่ทุกอย่างอยู่ร่วมกันได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเมือง คนทำงานศิลป์ หรือคนอยากดื่มอะไรบางอย่างที่มีเรื่องราว