“ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่? ทำไมเงียบหาย หรือว่าติดงาน? เขาอาจจะกำลังยุ่งก็ได้ แต่นี่ก็จะหมดวันแล้วนะ…” หากคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ขอให้รู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียว และมันไม่ผิดสักนิดที่คุณจะรู้สึกแบบนี้
เมื่อเทียบกับการเดตในยุคก่อนแล้ว เราคงพูดได้เต็มปากว่ายุคนี้อะไรก็ง่ายกว่าเยอะ ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่เอื้ออำนวยทุกทาง และสิ่งที่ทำได้ง่ายชนิดที่แทบไม่ต้องใช้ความพยายามก็คือการ ‘ส่ง ข้อความ หากัน’ (Texting)
เมื่อคนแปลกหน้าสองคนถูกใจกันและขยับสถานะมาเป็นคนคุย แน่นอนว่าสเตจของการทำความรู้จักกันในช่วงแรกเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น สมกับที่ใครต่างก็เรียกว่าเป็นช่วงโปรโมชัน ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ ของกันและกัน ทุกอย่างดูดีไปหมด จนกระทั่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มมีใจมากขึ้น ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเริ่มถอยห่าง
ขณะที่นั่งทำงานก็ได้แต่มองหน้าจอซ้ำๆ เมื่อไร ข้อความ จะเด้งขึ้นมา แต่ละนาทีที่ผ่านไปใจยิ่งร้อนรน คิดไปต่างๆ นานาว่าเขาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน แต่ก็ได้แต่เก็บไว้ในใจ เพราะสถานะ ‘คนคุย’ มันค้ำคอ
Nobody is too busy
ความกังวลที่สั่งสมทุกวันเริ่มทำให้ผู้หญิงเราหาเหตุผลและความเป็นไปได้ 108 อย่าง ถึงการที่เขาไม่ส่งข้อความหาหรือตอบกลับ ซึ่งคำตอบที่เราพบเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ ‘ยุ่งจนไม่มีเวลา’
สิ่งที่เราอยากจะบอกอาจไม่ถูกใจคนบางส่วน แต่ประโยคที่ว่ายุ่งจนไม่มีเวลานั้น ไม่มีอยู่จริง…หากคุณคือคนที่สำคัญกับเขามากพอ
นอกเสียจากว่าคนที่คุณกำลังเฝ้ารอกำลังอยู่ในช่วงเดินทาง ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถใช้เครื่องมือสื่อสารได้ หรือเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่สามารถติดต่อได้จริงๆ
He’s just not that into you
เราเคยถามผู้ชายที่แต่งงานแล้วถึงช่วงที่จีบภรรยาแรกๆ ว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่ใช่ เขาตอบอย่างเรียบง่ายว่า “ถ้าเราสนใจใคร เราจะรู้ชัดเจนในใจว่าต้องการอะไร เราก็แสดงออกแบบตรงๆ ถ้าอยากคุยเราก็จะแสดงออกว่าอยากคุย อยากไปหาเราก็จะไปหา ไม่อ้อมค้อม ไม่ต้องเล่นเกมให้เสียเวลา”
เหล่า Relationship Coach ในสังคม TikTok ก็ล้วนแชร์ประเด็นนี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า
“ผู้ชายไม่ใช่เพศที่ซับซ้อนอะไร การที่เขาไม่ตอบหรือหายไปเป็นวัน ก็เพราะเขาแค่ไม่สนใจคุณขนาดนั้น”
“การยุ่งจนไม่มีเวลานั้นเป็นข้ออ้างล้วนๆ มันใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีในการเท็กซ์หาคุณ ถ้าคุณสำคัญกับเขามากพอ เขาจะไม่มีเวลาให้คุณขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ต่อให้ยุ่งแค่ไหน มันก็ต้องมีเวลาจับโทรศัพท์บ้างแหละ และการเท็กซ์มันก็เป็นอะไรที่ใช้ความพยายามน้อยที่สุดแล้ว”
“ถ้าเขาดูแลคุณไม่ดี…ก็เปิดโอกาสให้คนอื่นที่เขาพร้อมจะดูแลคุณดีกว่านะสาวๆ”
โค้ชบางคนให้คำแนะนำว่า เราควรจะให้เวลาเขาสัก 3 วัน เพื่อที่จะตัดสินใจว่าควรคุยต่อหรือไม่ บางคนยื่นคำขาดว่าห้ามส่งข้อความหาก่อนเด็ดขาด
ทั้งนี้ เราเชื่อว่าไม่มีคำแนะนำไหนที่เป็นสูตรสำเร็จตายตัว เพราะไม่มีใครเข้าใจสถานการณ์และความรู้สึกคุณได้ดีเท่าตัวคุณเอง ดังนั้นถ้าคุณอยากรู้ว่าเขาหายไปไหนจนรอไม่ไหวก็ให้ถามไปตรงๆ หรือถ้าพอใจอยากจะรอให้ครบวันตามที่คุณรู้สึกสบายใจก็รอ เพราะท้ายที่สุดคุณคือคนที่ต้องรับผลจากการตัดสินใจของคุณอยู่ดี ไม่ใช่ใครอื่น
Know Your Worth
ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด สิ่งที่คุณไม่ควรลืมคือ ‘การรักตัวเอง’ ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ แต่วันใดที่เริ่มทำให้คุณสูญเสียความเป็นตัวเอง มีคนให้รักแต่กลับมีทุกข์มากกว่าตอนไม่มี ทุ่มเทให้กับคนที่ไม่พร้อมจะทุ่มเทให้กับคุณ มันคงเป็นความรักที่เหนื่อยน่าดู
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ขอให้คุณเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเองและรักตัวเองให้มากเสมอ แล้วคุณจะรู้เองว่า อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ภาพ: กราฟฟิกแบบวาดเอง