THE STANDARD LIFE ชวนทุกคนมาเปิดประตูสู่โลกแห่งความงามในแบบฉบับเกาหลีกับแบรนด์ที่หน้าตาสุดมินิมัลอย่าง Then I Met You ซึ่งเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่ก่อตั้งโดย Charlotte Cho ผู้หลงใหลในวิธีการดูแลผิวแบบดั้งเดิมของเกาหลีใต้ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยพัฒนาผสานเข้ากับนวัตกรรมความงามสมัยใหม่ จนเกิดเป็นแบรนด์ดูแลผิวพรรณที่ครองใจสาวเกาหลีใต้ และแน่นอนว่ากำลังจะเข้าครอบครองใจสาวไทยยุคใหม่ด้วยเช่นกัน
What is it?
Charlotte Cho ผู้ก่อตั้งแบรนด์เล่าเรื่องราวของแบรนด์ซึ่งเริ่มต้นจากการที่เธอเติบโตในยุค 90 ที่แคลิฟอร์เนียตอนใต้ ในความคิดของเธอตอนนั้นความงามคือการที่เธอได้ทาลิปกลอสเงาวับและมีผิวสีแทนเข้ม จนกระทั่งเธอใช้ชีวิตที่เกาหลีใต้ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อแม่ของเธอเป็นเวลา 5 ปี เธอจึงได้สัมผัสกับมนตร์เสน่ห์ของการดูแลผิวแบบเกาหลีด้วยตัวเอง เธอสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับวัฒนธรรมและผิวของตัวเอง และพัฒนาความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับรากเหง้าความเป็นเกาหลีใต้ มันเปลี่ยนชีวิตเธอ และเป็นแรงผลักดันที่ทรงพลัง โดยเธอใช้เวลา 10 ปีในการคัดสรรสินค้าให้กับ Soko Glam ซึ่งเธอเปิดตัวธุรกิจบิวตี้ในปี 2012 และศึกษาอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปรากฏการณ์ K-Beauty แต่เธอไม่อยากหยุดอยู่แค่นั้น กับแบรนด์เธอจะเจาะลึกยิ่งขึ้นในการเสาะแสวงหา ไม่ใช่แค่การคัดสรร แต่ยังรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่แท้จริงอันน่าทึ่ง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนรักผิวต่อไป
แบรนด์จึงได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่ผสมผสานภูมิปัญญาความงามแบบเกาหลีกับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างลงตัว Charlotte ใช้เวลาถึง 5 ปีในการศึกษาและค้นคว้าเคล็ดลับความงามของชาวเกาหลี ก่อนจะนำมาพัฒนาเป็นสูตรต่างๆ ในแบรนด์ของเธอ ส่วนผสมที่เป็นไฮไลต์ของแบรนด์ล้วนได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นอย่างยาวนาน
The Ingredients
ส่วนผสมเด่นๆ ในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ประกอบด้วยเพอร์ซิมมอน, โสม และข้าวหมัก แต่ถูกนำมาปรับใช้ด้วยวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการดูแลผิว นอกจากตัวส่วนผสมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากธรรมชาติแล้ว Then I Met You ยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดจากซากุระ, ชาเขียว, องุ่น, Centella Asiatica, Jojoba Oil และสารสกัดจาก Snail Mucin ที่อุดมไปด้วยสรรพคุณบำรุงผิวอย่างล้นเหลือ
The Product Range
เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ในดวงใจของสาวๆ แบรนด์นี้ ก็ต้องยกให้ Living Cleansing Balm ครีมทำความสะอาดเนื้อบาล์มนุ่มละมุน และ Birch Milk Refining Toner โทนเนอร์สูตรน้ำนมเบิร์ชที่มอบการ Peeling ผิวอย่างอ่อนโยน ส่วน Bong² Bounce Cream มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา และ Giving Essence เอสเซนส์บำรุงผิวเนื้อนุ่มชุ่มชื่น ก็ขายดีไม่แพ้กัน
The Sustainability Efforts
ที่สำคัญแบรนด์ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แพ็กเกจหลักทำจากพลาสติก PETG และแก้วที่นำกลับมารีไซเคิลได้ กล่องขนส่งก็ทำจากกระดาษรีไซเคิล 100% ไม่มีถุงพลาสติกเพิ่มขยะ ยิ่งไปกว่านั้น แบรนด์ยังพยายามใช้วัสดุให้คุ้มค่าที่สุด เช่น นำขวดเก็บครีม Living Cleansing Balm ไปใช้ใส่แผ่นสำลีเวลาเดินทาง หรือใช้เป็นถ้วยดื่มชาจากขวดเทียนหอม Cup of Glow เป็นต้น