เมื่อปีก่อนกรุงโซลเป็นเจ้าภาพจัดงานประกาศรางวัล Asia’s 50 Best Restaurants เป็นครั้งแรก และในปีนี้กรุงโซลก็เป็นโฮสต์อีกครั้งติดกันเป็นปีที่ 2 จากที่เราได้รับเชิญให้ไปเข้าร่วมทั้งกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟและงานประกาศรางวัลใหญ่ เรารู้สึกได้เลยว่ากรุงโซลกำลังผลักดันวงการอาหารและเชฟในประเทศเกาหลีใต้ให้ไปไกลถึงระดับโลกอย่างจริงจัง และพวกเขาต้องทำได้แน่นอน
เอาเป็นว่า…ประเทศเกาหลีใต้กำลังตามพวกเรามาแบบติดจรวดเลยก็ว่าได้
เพราะถ้าพูดถึงเรื่อง ‘อาหาร’ ประเทศในแถบเอเชียที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ ก็ต้องยกให้ประเทศไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม หรือไต้หวัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ประเทศเกาหลีใต้เป็นที่รู้จักด้านสถานที่ท่องเที่ยวตามซีรีส์และอุตสาหกรรมดนตรีมากกว่า
ทว่าหลังจากเริ่มมีการสนับสนุนด้านวัฒนธรรมอาหารอย่างจริงจังประมาณเมื่อ 17 ปีก่อน อาหารเกาหลีก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนคนต่างชาติเริ่มรู้จักคำว่า กิมจิ ต๊อกบกกี และรามยอน แถมยังเรียกชื่อพวกมันโดยใช้ศัพท์เกาหลีอีกต่างหาก อีกทั้งอาหารเกาหลียังกลายเป็นอีกเหตุผลใหญ่ที่ทำให้หลายคนอยากบินไปเที่ยวประเทศนี้ซ้ำๆ ด้วย
#ภายในงานมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นบ้าง
Asia’s 50 Best Restaurants 2025 จัดโดย รัฐบาลกรุงโซล (SMG), กระทรวงเกษตรและกิจการชนบทของประเทศเกาหลีใต้ (MAFRA) และ สถาบันส่งเสริมอาหารเกาหลี (KFPI) ร่วมกับสถาบัน 50 Best โดยเราได้รับการเชิญเพื่อไปเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่จัดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของงานประกาศรางวัลในปีนี้ อาทิ ‘50 Best Talks: The Asian Wave’ เวทีพูดคุยเกี่ยวกับวงการอาหารในเอเชีย ซึ่งเวทีนี้มีเชฟหญิงชาวไทย แพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ จากร้าน Potong ผู้เพิ่งคว้ารางวัล The World’s Best Female Chef 2025 หลังกลับจากเวทีนี้ขึ้นพูดด้วย โดยเชฟแพมพูดเกี่ยวกับตัวตนของอาหารไทยให้ชาวต่างชาติฟัง
นอกจากนี้ยังมี เชฟฟราบิโอ เฟอร์รารี (Fabrizio Ferrari) เชฟชาวอิตาเลียนที่ออกจอโทรทัศน์ของเกาหลีใต้บ่อยๆ หรือหลายๆ คนอาจคุ้นหน้าตาเขามาจากรายการแข่งขันทำอาหารบน Netflix โดยเชฟมาเล่าให้ฟังว่า ทำไมรายการอาหารในเกาหลีใต้ถึงได้รับความนิยมนัก?
“ผมจะบอกให้ นั่นก็เพราะทุกอย่างมัน Real อย่างไรละ ทุกสิ่งที่ทุกคนเห็น มันลำบากแบบนั้นจริงๆ พวกเราทำมันจริงๆ เพราะฉะนั้นรายการพวกนี้ไม่ได้ให้ความรู้แค่ผู้เข้าร่วมรายการ คนดูก็ได้เรียนรู้จริงๆ ไม่ต่างกัน” เชฟฟาบริโอที่ผ่านมาหลายรายการเรียลิตี้บอก
เช่นเดียวกับ Jay Khan เจ้าของบาร์ดังจากฮ่องกงอย่าง Coa ที่เคยคว้าตำแหน่งบาร์อันดับ 1 ของเอเชียติดกัน 3 ปีซ้อน เขามาแชร์ไอเดียว่าทำไมบาร์ของเขาครีเอตค็อกเทลที่ใช้วัตถุดิบเอเชียบ่อยๆ แถมพวกมันยังได้รับฟีดแบ็กดีมากด้วย ซึ่งเฉลยก็คือเรื่องความซับซ้อนของรสชาติที่พวกเราชาวเอเชียทำได้ไม่เหมือนใครจริงๆ
นอกจากนี้ยังมี ‘Seoul Table: Discover the Taste of Seoul’ อีเวนต์รวมตัวเชฟเกาหลีใต้รุ่นใหม่ที่ฝีมือน่าจับตามอง นำโดยเชฟคังมินกู (Kang Min Goo) แห่งร้าน Mingles ร้านอาหารแห่งแรกในเกาหลีใต้ที่คว้ารางวัล 3 ดาวมิชลิน โดยเขาชวนเชฟรุ่นน้องมาแสดงฝีมือให้ทั้งคนเกาหลีและคนต่างชาติได้ชิม ซึ่งเชฟที่เข้าร่วมมาจากร้านต่างๆ ได้แก่ Muoki, Dresden Green, Original Numbers, Harris, Perigee, Patisserie Mur แถมยังมีค็อกเทลจาก Bar Charm มาเสิร์ฟในงานด้วย
งานนี้ทั้งเชฟและบาร์เทนเดอร์ได้โชว์รสชาติ วัตถุดิบ และฝีมือของพวกเขาไปแบบเต็มๆ แถมยังมีกิจกรรมอื่นๆ อย่างเวิร์กช็อปทำคิมบับและสอนทำ ‘คังจอง’ ขนมโบราณของคนเกาหลีด้วยอีกต่างหาก
#คนทั่วโลกจะต้องรู้จักฮันชิก
อีกสิ่งที่กรุงโซลกำลังพยายามทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกก็คือคำว่า ‘ฮันชิก (Hansik)’ ซึ่งแปลว่า อาหารเกาหลี พวกเขาจัดกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ ‘Adventurous Table: HANSIK’ ที่พาทุกคนไปเดินตลาดสด Gyeongdong Market เพื่อทำความรู้จักวัตถุดิบเกาหลีด้วยกัน นำทัวร์โดย เชฟโจเซฟ ลิดเจอร์วูด จากร้าน Evett ในกรุงโซล โดยเขาเป็นชาวออสเตรเลียที่ตกหลุมรักอาหารเกาหลี จึงตัดสินใจย้ายมาทำอาหารที่ประเทศนี้ด้วยการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของชาวเกาหลีใต้ในการทำอาหารไฟน์ไดนิ่ง แถมยังได้รางวัล 2 ดาวมิชลินประดับร้านด้วย
แล้วยังมี Hansik Workshop คลาสสอนวิธีจัดโต๊ะอาหารแบบชาวเกาหลีแท้ๆ นำโดยเชฟโจฮีซุก (Cho Hee Suk) ผู้ได้รางวัล Asia’s Best Female Chef ปี 2020 ก่อนตามด้วย Hansik Talk & Hansik Market เวทีพูดคุยเกี่ยวกับอาหารเกาหลีที่มีเชฟจากหลายร้านอาหารดังๆ มาเสิร์ฟเมนูพิเศษให้ชิมภายในงาน อาทิ กิมจิหลายชนิด เครื่องดื่มคราฟต์แบบไร้แอลกอฮอล์ หรือข้าวยำสไตล์เกาหลี
ส่วนในงานประกาศรางวัลใหญ่ที่มีเชฟและคนในวงการอาหารและเครื่องดื่มมากมายมารวมตัวกันจากหลายประเทศทั่วโลกก็มีโซนอาหาร The Seoul Gourmet Zone ‘Taste of Korea, Taste of Seoul’ ที่นำอาหารเกาหลีมาเสิร์ฟให้แขกภายในงานชิมได้แบบไม่อั้นด้วย ซึ่งบูธที่โดนใจเราสุดๆ ก็คือบูธชินรามยอน แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลีที่ดังไปทั่วโลกและยกมาเสิร์ฟให้คนในงานได้ชิมด้วย
#เราเรียนรู้อะไรบ้างจากเวทีนี้?
เรามองว่ากรุงโซลเรียนรู้จากการจัดงานครั้งแรกว่างานระดับเอเชียอย่าง Asia’s 50 Best Restaurants เป็นเวทีที่จะทำให้สปอตไลต์ส่องมาที่เมืองเมืองนั้น รวมถึงมีเชฟและคนในวงการอาหารบินมาเข้าร่วมงานมากมายด้วย นี่จึงเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้โชว์ของ ผลักดันทั้งวัฒนธรรมอาหาร เชฟ หรือการท่องเที่ยวเชิงอาหารในประเทศตัวเองให้ผู้คนอยากเดินทางมาเที่ยวมากขึ้นกว่าเดิม
ด้วยเหตุนี้ การจัดงานในปี 2025 กรุงโซลจึงทำการผลักดันกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น เพื่อทำให้คนทั่วโลกได้รู้ว่าถ้าเป็นเรื่องอาหารพวกเขาก็มีอะไรเจ๋งๆ อีกเพียบ แถมยังเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะอาหารเกาหลีใต้ที่แท้จริงค่อนข้างครบรส หลากหลาย และจะไปโผล่ในซีรีส์เรื่องไหนก็กลายเป็นเมนูดังทั่วโลกได้ทุกครั้ง
นี่แหละ…ซอฟต์พาวเวอร์ของจริง
*ภาพทั้งหมดถ่ายด้วยกล้อง Canon PowerShot G7 X Mark III