การทำสมาธิได้รับการยอมรับมานานแล้วว่าเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการลดความเครียด เพิ่มสมาธิ ข้อดีคือฝึกได้ทุกเพศทุกวัย และรูปแบบการฝึกสมาธิก็มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น วิธีที่น่าสนใจที่ LIFE อยากชวนลองทำคือสิ่งที่เรียกว่า Shower Meditation ซึ่งเป็นการทำสมาธิในระหว่างที่เราอาบน้ำนั่นเอง หลายคนอาจเคยได้ยินวิธีคล้ายๆ กันของการทำสมาธิทำนองนี้ เช่น Shower Power และ Waterfall Meditation ซึ่งมีหลักการคล้ายๆ กันในการรวบรวมสมาธิ เพ่งสิ่งที่สนใจไปยังจุดโฟกัสบริเวณต่างๆ ของร่างกาย นับเป็นอีกหนึ่งวิธีฝึกสมาธิที่สามารถหลอมรวมเข้ากับกิจวัตรประจำวันได้เป็นอย่างดี ทำให้ทุกครั้งที่เราอาบน้ำคือทุกครั้งที่ได้ฝึกสมาธิ ต่อไปนี้เป็น 9 วิธีฝึกสมาธิแบบ Shower Meditation ที่จะเปลี่ยนการอาบน้ำธรรมดาๆ ให้เป็นประสบการณ์ที่สดชื่นอย่างล้ำลึก คุณจะสามารถเปลี่ยนการอาบน้ำในแต่ละวันให้เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน ดูแลตัวเอง และสร้างเสริมจิตใจที่แจ่มใสได้ แล้วจะค้นพบว่าการทำสมาธิด้วยการอาบน้ำไม่เพียงแต่ทำความสะอาดร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยชำระความวุ่นวายของจิตใจและจิตวิญญาณได้ในเวลาเดียวกันด้วย
เริ่มต้นด้วยความตั้งใจ
ก่อนก้าวเข้าสู่ห้องอาบน้ำ ให้ตั้งใจในการทำสมาธิอย่างชัดเจน กำหนดเป้าหมายว่าจะเน้นไปที่อะไรระหว่างการอาบน้ำสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นการคลายเครียด การรวบรวมสมาธิที่จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
การหายใจอย่างมีสติ
เริ่มด้วยการใส่ใจกับลมหายใจ หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ และรู้สึกถึงอากาศที่เข้าและออกจากร่างกาย ในขณะที่คุณหายใจเข้า ให้จินตนาการว่ากำลังหายใจอย่างสงบและผ่อนคลาย และเมื่อคุณหายใจออก ให้คลายความตึงเครียด
รับรู้ถึงประสาทสัมผัส
กระตุ้นประสาทสัมผัสระหว่างการอาบน้ำทำสมาธิ ลองสัมผัสถึงน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นที่ไหลลงมาเหนือผิว ให้ฟังเสียงน้ำไหลที่ผ่อนคลาย ชื่นชมกลิ่นหอมของผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่คุณใช้ ความรู้สึกเหล่านี้สามารถช่วยให้อยู่กับปัจจุบันและตั้งสติได้
ฝึกการจินตนาการ
ลองจินตนาการว่าน้ำที่ไหลลงมาบนตัวคุณไม่เพียงแต่ทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดเท่านั้น แต่ยังชำระล้างความคิดด้านลบ ความกังวล หรือความเครียดอีกด้วย ลองจินตนาการถึงความกังวลเหล่านี้ที่ถูกพัดพาไปกับสายน้ำ ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น
ย้ำเตือนด้วยความคิดเชิงบวก
ระหว่างอาบน้ำที่มีน้ำไหลผ่านร่างกาย ให้ใช้ใจที่เป็นสมาธิจินตนาการถึงข้อความยืนยันเชิงบวกกับตัวเองซ้ำๆ เพื่อป้อนมายด์เซ็ตดีๆ เข้าไปในความรู้สึกนึกคิดของคุณ การยืนยันซ้ำๆ สามารถช่วยให้เปลี่ยนทัศนคติไปในทางบวกได้
สำรวจร่างกาย
ขณะที่คุณอาบน้ำในแต่ละส่วนของร่างกาย ให้สแกนร่างกายทางจิต เริ่มจากนิ้วเท้าและไล่ขึ้นไปที่ศีรษะ โดยให้ความสนใจกับบริเวณที่ตึงเครียดหรือไม่สบายตัว เมื่อระบุความตึงเครียดได้ ให้คลายความตึงเครียดอย่างมีสติ เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
ขอบคุณความสุขที่ได้รับจากการอาบน้ำ
ให้แสดงความขอบคุณสำหรับความสุขง่ายๆ ของการอาบน้ำอุ่น และการได้ทำความสะอาดร่างกายจากสิ่งสกปรกและเหงื่อไคล ลองคิดถึงสิ่งต่างๆ มากมายที่ผ่านมาในชีวิตคุณ ให้รู้สึกขอบคุณ สัมผัสได้ถึงความสุข และจดจำความรู้สึกนี้ไว้
คิดว่าน้ำคือพลังงานฮีลกายฮีลใจของคุณ
ให้คิดว่าน้ำในห้องอาบน้ำของคุณเป็นแหล่งพลังงานบวกและความสดชื่น ลองฝึกจินตนาการว่ามันช่วยฟื้นฟูร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของคุณ เมื่อน้ำไหลผ่านตัวให้โฟกัสจากศีรษะจรดปลายเท้า และคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือพลังงานด้านบวกที่กำลังเยียวยาคุณ
ปล่อยวางความคิด
ระหว่างอาบน้ำคุณอาจพบว่าจิตใจเริ่มว่อกแว่ก นี่เป็นเรื่องธรรมชาติ เมื่อใดก็ตามที่เริ่มสังเกตเห็นความคิดล่องลอย ให้ค่อยๆ มุ่งความสนใจไปที่ความรู้สึกของการอาบน้ำ ลมหายใจ อุณหภูมิที่อบอุ่น หรือน้ำที่เย็นสบาย ให้ค่อยๆ ฝึกดึงสติกลับคืนมาและจดจ่ออยู่กับปัจจุบันขณะ