“Gratitude มันเป็นมากกว่าแค่ ‘การขอบคุณ’ แต่เป็นเครื่องมือที่สื่อสารว่า เราแคร์ เราเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาทำ เหมือนเป็น Mood Booster ที่ทำให้คนรู้สึกดี พอเขามีความสุข ก็มีพลังงานในการทำงาน”
การจะสร้าง ‘Workplace’ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่ทุกคนรู้สึกมีความสุข ปลอดภัย และเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ มองแค่เรื่องสวัสดิการหรือพื้นที่ทำงานไม่พออีกต่อไปในวันที่ ‘มนุษย์ทำงาน’ ทุกวัยกำลังเหนื่อยล้าท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย งานที่ถาโถม และปัญหาส่วนตัว
จูน-โฉมชฎา กุลดิลก หัวหน้าสายงานกลยุทธ์แบรนด์และสื่อสารองค์กรแห่ง SC Asset จะพาทุกคนเปิดประตูเข้าไปดู ‘Workplace’ พื้นที่ทำงานของ ‘SC Asset’ ที่ถูกสร้างให้กลายเป็น ‘พื้นที่ของทุกคน’ ด้วย ‘Gratitude Mindset’ ความรู้สึกซาบซึ้งต่อสิ่งเล็กๆ รอบตัวผ่านคำขอบคุณและการ ‘ส่งดาว’ ให้กันและกัน ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงการมีคุณค่าและการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ผ่าน 5 บทเรียน ที่นำไปปรับใช้ได้ทันที
1. Well-being Starts at Workplace
“SC Asset เราไม่ได้สร้างแค่ ‘ที่ทำงาน’ แต่สร้าง ‘พื้นที่ที่ดูแลคน’ ให้เติบโตทั้งกาย ใจและความคิด เพราะความสมดุลของคน คือจุดเริ่มต้นขององค์กรที่แข็งแรง”
นิยามคำว่า Workplace ในแบบของ SC Asset นอกจากจะหมายถึง ‘สถานที่’ ที่ออกแบบมาให้พนักงานที่มีความหลากหลายสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานใหญ่หรือตามไซต์งานต่างๆ
Workplace ยังถูกมองในเชิงความรู้สึกที่สร้างและออกแบบขึ้นมาจากวัฒนธรรมองค์กร ผ่านโปรแกรม สวัสดิการ หรือกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมให้พนักงานมีพฤติกรรมหรือความรู้สึกบางอย่างที่ตรงกับวัฒนธรรมที่องค์กรต้องการ
“เราใช้วิสัยทัศน์องค์กร ‘For Good Mornings’ สร้างเช้าที่ดีให้กับลูกค้าทุกคนเป็นสารตั้งต้นในการสร้างให้เกิดวัฒนธรรม คำถามคือ แล้วคนแบบไหนที่จะสามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ได้”
ซึ่งการจะสร้างคนที่มีพลังงานดีๆ และมีวัฒนธรรมแบบที่องค์กรต้องการ โฉมชฎา บอกว่าอาจต้องเริ่มจากการสร้างพื้นที่ที่ดี เพราะ ‘พื้นที่’ จะออกแบบ ‘กิจกรรม’ ซึ่งส่งผลต่อ ‘พฤติกรรม’ และนำไปสู่ ‘ค่านิยม’ เมื่อทำอย่างใส่ใจและต่อเนื่องมันจะหล่อหลอมเป็น ‘วัฒนธรรม’
“วัฒนธรรมองค์กรต้องสร้างมาจากทุกคน และต้องทำเข้าใจก่อนว่าองค์กรของเราประกอบไปด้วยคนกลุ่มไหน ที่ SC Asset เราใช้วิธีให้ตัวแทนแต่แผนกมาเป็น ‘Change Maker’ หรือที่เราเรียกว่า ‘Robin’ มาช่วยกันมาช่วยปั้น Core Value องค์กร รวมถึงการทำ Focus Group เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แชร์ว่าอะไรจะช่วยให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนมีส่วนในการสร้างพื้นที่การทำงานที่เป็นของพวกเขาเอง”
2. Gratitude Mindset พลังเล็กๆ ที่สร้างพลังความสุขที่ยิ่งใหญ่
ที่ SC Asset เรื่อง Mental Health สำคัญเสมอ โฉมชฎาบอกว่าโดยเฉพาะปีนี้ ที่เต็มไปด้วยเรื่องท้าทายจิตใจ ทำให้ทุกคนต้องการพื้นที่เซฟใจที่ทำให้รู้สึกถึงการมีคุณค่า เป็นความโชคดีที่พนักงาน SC Asset ทุกคนมี ‘Gratitude Mindset’ เลยทำให้สุขภาวะกายใจของคนในองค์กรแข็งแรง
หนึ่งในวัฒนธรรมที่พิสูจน์ว่า Gratitude Mindset จับต้องได้จริง คือการส่งดาวผ่านแอปพลิเคชันภายในองค์กร ทุกเช้าพนักงานทุกคนจะได้รับดาว 4 ดวง แทน Core Value 4C คือ Care, Courage, Collaboration และ Continuous Improvement สามารถส่งให้ใครก็ได้ที่รู้สึกอยากชื่นชมและขอบคุณ
“Gratitude มันเป็นมากกว่าแค่ ‘การขอบคุณ’ แต่เป็นเครื่องมือที่สื่อสารว่า เราแคร์ เราเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาทำ เหมือนเป็น Mood Booster ที่ทำให้คนรู้สึกดี พอเขามีความสุข ก็มีพลังงานในการทำงาน”
“คำขอบคุณ มันสร้างความรู้สึกดีทั้งคนให้และคนรับ เวลาที่เราได้รับคำขอบคุณ เราก็อยากขอบคุณเขาเช่นกันที่เขามองเห็นเรา พอมันเกิดความรู้สึกดีในใจบ่อยๆ เราก็อยากให้คนอื่นรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน เกิดเป็นการส่งต่อพลังดีๆ ไม่มีที่สิ้นสุด”
3. Care is the Culture พลังบวกที่ทำให้คนในองค์กรใกล้ชิดกัน
หัวใจสำคัญที่ทำให้ ‘Gratitude Mindset’ ของคนในองค์กรทรงพลังเสมอเพราะทุกคนมี ‘ความแคร์’ เป็นรากฐาน
นอกจากการส่งดาวยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ตอกย้ำว่าคน SC Asset แคร์กันและกัน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม Check-in เพื่อ Check-up การทำงานและความรู้สึกระหว่างคนในทีมที่ต้องทำทุกไตรมาส หรือ HR Clinic ส่งตัวแทนจากทีม HR ลงพื้นที่พูดคุยกับพนักงานทุกแผนกเพื่อรับฟังปัญหาและความรู้สึก รวมถึง Town Hall ที่นอกจาก CEO จะอัปเดตทิศทางองค์กรยังกล่าวขอบคุณพนักงานเสมอ
“ทุกกิจกรรมหรือในทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการส่งดาว การพูดขอบคุณกัน การเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้แชร์ความรู้สึก มันสะท้อนว่าเราแคร์กันและกัน และทำให้เรากลายเป็นองค์กรที่มีความใกล้ชิด ทุกคนรู้สึกว่านี่คือพื้นที่ของเขา”
4.Freedom to be Our Best: เป็นตัวเองเพื่อเติบโตอย่างดีที่สุด
จากการวิจัยภายในองค์กร เพื่อค้นหาสิ่งที่พนักงานต้องการและสิ่งที่องค์กรคาดหวัง ทำให้พบคำสำคัญ คือ ‘Freedom’ อิสระที่พนักงานมองหา และ ‘Best’ การทำให้ดีที่สุด นำไปสู่แนวคิด ‘Freedom to be Our Best’ สร้างองค์กรที่ทุกคนสามารถเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุด
โฉมชฎา เล่าว่าที่ SC Asset ให้อิสระในการเป็นตัวเอง ไม่มีกฎระเบียบที่เข้มงวดในเรื่องที่ไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตัว เวลาเข้างาน หรือการออกแบบสไตล์การทำงานที่เป็นตัวเองที่สุด และมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด
“เราให้อิสระในการทำงานและการตัดสินใจ โดยแลกเปลี่ยนกับการที่เขาต้องส่งมอบผลงานที่ดีที่สุดกลับมา ทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นฐานของความเชื่อใจ ทำให้พนักงานเคารพซึ่งกันและกันและยังรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่”
โฉมชฎา ยกตัวอย่าง Co.Lab พื้นที่ทำงานที่ออกแบบมาสะท้อนแนวคิด ‘Freedom to be Our Best’ ได้อย่างชัดเจน ทุกคนมีอิสระในการเลือกมุมทำงานที่ตัวเองชอบ มีมุมพักผ่อนเพื่อให้เกิดการพูดคุย การออกแบบพื้นที่ที่ยืดหยุ่นยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการทำงานร่วมกันและเกิดความคิดสร้างสรรค์ที่สดใหม่
“อีกทั้งการมี Gratitude Mindset ทำให้เสรีภาพนั้นไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นการสนับสนุนกันเพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกัน เพราะคำว่า ‘Our Best’ ไม่ได้หมายถึงผลงานของคนใดคนหนึ่ง แต่คือความสำเร็จร่วมกันของทีมและองค์กร”
5. Workplace ที่ดีต้องทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเขามีประสิทธิภาพและมีสุขภาพกายใจที่ดี
“การทำงานที่ยากที่สุดคือการทำงานกับคนที่แตกต่างหลากหลาย โดยเฉพาะการออกแบบพื้นที่ทำงานมันไม่สามารถ ‘One size fit all’ ได้จึงไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จอย่างตรงไปตรงมาเหมือนยอดขาย”
เป้าหมายของการทำองค์กรที่ดี ในมุมมองของโฉมชฎา จึงเป็นการทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองมีประสิทธิภาพสูงสุด มีความสุขทั้งกายใจ พร้อมที่จะใส่ให้กับองค์กรอย่างเต็มที่
“พอเป้าหมายมันประกอบไปด้วยคนกว่า 1,200 คน แน่นอนว่ามันไม่ง่าย มีปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์ของมันเปลี่ยนตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือ อย่าหยุดทำ เดือนนี้ไม่สำเร็จ เดือนหน้าอาจจะสำเร็จก็ได้ แต่เราสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น”
Gratitude Mindset ฝึกได้ ฝึกง่าย แค่เริ่มจากตัวเอง
‘ใครก็มี Gratitude Mindset ได้ แต่ต้องฝึก การฝึกคือหมั่นทำสม่ำเสมอ กระบวนที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นจะทำให้คุณเริ่มสังเกตเห็นความดีงามเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวที่น่าขอบคุณไม่หมด พอคุณเริ่มทำ คนใกล้ตัวจะเปลี่ยนตาม ฝึกที่ไหนกับใครก็ได้ กับคนรอบตัว ครอบครัว พนักงานรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน ค่อยๆ เรียนรู้ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นแล้วคุณจะอยากทำมันต่อไปเรื่อยๆ”
สร้าง ‘พื้นที่เซฟใจ’ ในที่ทำงานด้วยตัวเอง
ในความเป็นจริง ไม่ใช่ทุกออฟฟิศที่จะมีพื้นที่เพื่อให้เราสามารถผ่อนคลายระหว่างชั่วโมงการทำงานได้ โฉมชฎา แนะ 3 เทคนิคที่ช่วยให้ทุกคนสร้างพื้นที่เซฟใจในที่ทำงานด้วยตัวเอง
- เปิดอกคุยกับหัวหน้า ถ้ารู้ว่าเข้าใกล้จุด Breakdown บอกหัวหน้าเลยว่าคุณรู้สึกอย่างไรและอะไรจะทำให้คุณรู้สึกดีบ้าง
- พักผ่อนคือกลยุทธ์ หลายคนจะรู้สึกว่าต้องทำงานหนักๆ ก่อนจนถึงจะพักได้ แต่ความจริงแล้วการพักผ่อนเป็น ‘กลยุทธ์’ มันคือการ Taking a break จากความตึงเครียด
8 นาทีก็เพียงพอ: งานวิจัยชี้ว่าการได้ระบายความรู้สึกแค่ 8 นาทีก็ทำให้รู้สึกดีได้ ลองตั้งกฎนี้กับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า ถ้าเมื่อไรที่บอกว่า ‘มีเวลา 8 นาทีมั้ย’ ต้องแสดงตัวเป็นเพื่อนที่ดีและหัวหน้าที่ดีให้เวลา 8 นาทีนั้นทันที
ถ้าอยากรู้จัก “Gratitude Mindset” ในแบบ SC Asset มากกว่านี้ ไปติดตามแคมเปญ “ขอบคุณ…ที่ทำงาน” ได้ที่ https://m.scasset.com/iRxz หรือเพจ Inside SC