3 ขั้นตอนอยู่บ้านยังไงช่วยให้ลด Burnout 

ทุกวันนี้ หลายคนเริ่มรู้สึกว่าแม้อยู่บ้านก็ยัง “เหนื่อย” ได้ไม่ต่างจากตอนออกไปข้างนอก เพราะบ้านที่เคยเป็นที่พักใจ กลับเต็มไปด้วยหน้าจอ เสียงรบกวน ความรก และความวุ่นวายเล็กๆ น้อยๆ ที่สะสมกลายเป็นความเครียดโดยไม่รู้ตัว สิ่งนี้เรียกว่า overstimulation หรือการที่ประสาทสัมผัสและสมองรับข้อมูลมากเกินไป จนกลายเป็นอาการเบิร์นเอาท์ในระยะยาว โดยเฉพาะกับคนที่ทำงานจากบ้าน หรืออยู่คอนโดพื้นที่จำกัด การจัดบ้านให้เหมาะกับการฟื้นฟูจึงกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราหยุดพักจากโลกที่วิ่งเร็วเกินไป

ลดเสียงรบกวนและความรกในสายตา

เริ่มง่ายๆ ด้วยการลดเสียงรบกวนและความรกในสายตา เช่น ใช้ผ้าม่านทึบ พรมซับเสียง หรือแค่จัดของให้เป็นระเบียบ การเลือกสีผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ในโทนเย็นอย่างสีฟ้า น้ำตาลอ่อน หรือเขียวหม่น ก็ช่วยให้รู้สึกสงบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งบ้านเรียบเท่าไหร่ สมองยิ่งได้พักมากขึ้นเท่านั้น ลองสร้าง “มุมนิ่ง” เล็กๆ สำหรับนั่งนิ่งๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ แค่เปลี่ยนแสง ปรับเสียง และจัดเฟอร์นิเจอร์ใหม่ บ้านก็ช่วยเยียวยาใจได้แล้ว

สร้างกิจวัตรที่ช่วยให้สมองพักได้จริง

การมีตารางชีวิตที่เป็นกิจวัตร เช่น เวลาตื่นนอน ทำงาน และพักผ่อนที่แน่นอน ช่วยลดความเหนื่อยล้าทางสมองจากการต้องตัดสินใจทั้งวัน และถ้าเริ่มรู้สึกว่าหัวฟุ้งหรือใจลอย เทคนิค grounding อย่าง “5-4-3-2-1” ก็ช่วยได้เสมอ คือ มองหาสิ่งที่เห็น 5 อย่าง สัมผัสได้ 4 อย่าง ได้ยิน 3 อย่าง ดมกลิ่น 2 อย่าง และรับรส 1 อย่าง เป็นวิธีง่ายๆ ที่ดึงเราให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันและรู้สึกมั่นคงมากขึ้น

พักจากข้อมูลด้วยการจัดโซน Digital Detox

หลายคนติดกับดักของการอยู่หน้าจอเกือบตลอดวัน ไม่ว่าจะเป็นมือถือ ทีวี หรือคอมพิวเตอร์ วิธีง่ายที่สุดคือกำหนดพื้นที่ “ปลอดหน้าจอ” เช่น โต๊ะกินข้าวหรือเตียงนอน แล้วตั้งกติกาให้ตัวเองไม่หยิบมือถือขึ้นมาในจุดเหล่านั้น การ batch งาน เช่น เช็กอีเมลหรือไลน์แค่วันละ 2-3 รอบ ก็ช่วยให้สมองไม่ต้องสลับโฟกัสบ่อย ลดความเหนื่อยล้าลงอย่างเห็นผล แถมยังมีเวลาเงียบๆ ให้ใจได้ฟื้นตัวมากขึ้นด้วย