บ้านที่เงียบสงบ คือจุดเริ่มต้นของชีวิตเวลเนส
เมื่อพูดถึง “บ้านเพื่อสุขภาพ” ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัวของใครหลายคนมักเป็นบ้านที่มีต้นไม้เยอะๆ แสงธรรมชาติสวยๆ หรือมุมจิบชาหลังเลิกงาน แต่มีองค์ประกอบหนึ่งที่เงียบจนหลายคนหลงลืม ทั้งที่สำคัญมากต่อสุขภาพใจและกาย นั่นคือ “เสียง”
ในยุคที่เราต้องทำงานจากบ้าน ใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น เสียงรบกวนที่แทรกเข้ามาตลอดวัน ไม่ว่าจะจากถนน เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่เสียงแจ้งเตือนมือถือ ล้วนส่งผลต่อระดับความเครียด สมาธิ และคุณภาพการนอนโดยตรง จนองค์กรสุขภาพโลก (WHO) เคยระบุว่า เสียงรบกวนในเวลากลางคืนไม่ควรเกิน 30 เดซิเบล เพราะอาจกระทบต่อระบบประสาทโดยไม่รู้ตัว
อันที่จริงเสียงที่ดีไม่จำเป็นต้อง “ไม่มีเสียงเลย” เสมอไป แต่อาจหมายถึง “เสียงที่ตั้งใจให้เกิด” เช่น เสียงน้ำนิ่งไหลในสวน หรือแม้แต่ white noise จากเครื่องเสียงเพื่อการนอนหลับที่ชวนให้ใจสงบโดยไม่ต้องเปิดเพลง บางทีการทำให้บ้านเงียบทั้งหลังอาจจะดูเป็นเรื่องที่ไกลตัวไป แต่เราสามารถเริ่มต้นได้ที่มุมใดมุมหนึ่งของบ้านได้ เพื่อให้มุมนั้นเป็นเหมือนที่พักใจ
ซึ่งเราเลยอยากจะมาแนะนำว่า หากอยากทำให้บ้านเงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวนสามารถใช้วิธีไหนได้บ้าง
เปลี่ยนผ้าม่านเป็นแบบหนา หรือแบบกันเสียง เช่น ม่านผ้าทึบหลายชั้น หรือม่านผ้ากำมะหยี่ เพื่อดูดซับเสียงสะท้อนจากภายนอก
เพิ่มพื้นผิวดูดเสียง เช่น พรม ผ้าคลุมโซฟา เบาะนั่ง หรือเฟอร์นิเจอร์บุผ้า เพื่อไม่ให้เสียงกระทบพื้นผิวแข็งจนสะท้อนกลับ
จัดชั้นหนังสือให้เป็นกำแพงซับเสียง โดยเฉพาะผนังที่ติดกับห้องข้างเคียงหรือแหล่งเสียงจากนอกบ้าน
ติดแผ่นอะคูสติก เช่น แผ่นโฟม PET รีไซเคิล หรือไม้ระแนงแบบมีช่องว่างช่วยกระจายและดูดซับเสียงได้ดี ติดง่ายไม่ต้องเจาะหนัก
ซีลขอบประตูหน้าต่าง ด้วยแถบกันเสียง (rubber seal strip) เพื่อปิดรอยรั่วที่เสียงแทรกเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
เพิ่มต้นไม้ในห้อง โดยเฉพาะต้นไม้ใบใหญ่ที่ช่วยดูดเสียงและลดการสะท้อน เช่น ไทรใบสัก ปาล์ม หรือลิ้นมังกร