จากความสำเร็จของ อยากทำแต่ไม่อยากกิน และ อยากย่าง วันนี้ เชฟบิ๊ก-อรรถสิทธิ์ พัฒนเสถียรกุล เจ้าของตำแหน่ง Top Chef Thailand Winner 2023 ปลูกปั้นสิ่งใหม่ให้เราได้ตื่นเต้นกันอีกครั้งกับ Patt Bangkok ประสบการณ์ไฟน์ไดนิ่งระดับมาสเตอร์พีซในรูปแบบ Contemporary French ที่สะท้อนความเป็นไทย-จีนอย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งสถานที่ก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล แต่เป็นโรงพิมพ์ที่เปรียบเสมือนมรดกสำคัญของครอบครัวที่ดำเนินกิจการมายาวนานกว่า 41 ปี
เพียงก้าวเข้าประตูร้านก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์โรงพิมพ์ขนาดย่อมตั้งแต่ยุคแรกสู่ปัจจุบันให้ได้เดินชมกันเพลินๆ ก่อนขึ้นสู่ห้องอาหารที่ชั้น 3 ที่เหมือนหลุดไปอีกโลก
ห้องอาหารมีความโอ่อ่าหรูหราแบบ Opera House ด้วยเพดานสูงโปร่ง 7 เมตร ให้ความรู้สึกราวอยู่ในโรงละคร
กวาดสายตามองก็จะเห็นว่าแต่ละองค์ประกอบล้วนมีความเชื่อมโยงกับโรงพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรบนผนังที่เป็นกิมมิกให้เราลองหาคำปริศนาเล่นๆ, แสตมป์, ระบบ Letterpress, ประตูห้องพิมพ์ห้องแรกของโลกที่ไฮเดลเบิร์ก, ภาพวาดจากซีอิ๊วและน้ำส้มสายชูกัดบนทองแดงที่สื่อถึงการเจริญงอกงามจากโรงพิมพ์
ชื่อ Patt ได้แรงบันดาลใจหลักมาจากนามสกุลของตัวเชฟเอง สะท้อนถึงความผูกพันกับรากเหง้าของครอบครัว และยังเป็นชื่อของโรงพิมพ์ที่ตั้งร้านอาหาร ‘Pattana Graphic Print’ เพื่อให้สถานที่แห่งนี้มีชีวิตใหม่และบอกเล่าเรื่องราวที่ต่อยอดจากอดีต
นอกจากนี้ยังเป็นเหมือนตัวแทนเส้นทางที่เชฟได้เดินและเติบโตในเส้นทางของวงการอาหาร เนื่องจาก ‘Patt’ ยังเป็นชื่อที่ทุกคนใช้เรียกในช่วงที่เชฟเรียนและทำงานที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และในขณะเดียวกันก็ยังสื่อถึง ‘การพัฒนา’ ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญาการทำงานของตัวเชฟในการสร้างสรรค์อาหารที่ไม่เพียงคงเอกลักษณ์ไทย-จีน แต่ยังหลอมรวมเทคนิคชั้นสูงของอาหารฝรั่งเศสเข้าไปด้วย
Patt Bangkok นำเสนอประสบการณ์รสชาติที่โดดเด่นผ่าน Tasting Menu ในรูปแบบ 6 Courses: Best of Patt (3,468++ บาท) และ 8 Courses: Patt’s Experience (4,468++ บาท) โดยเราสามารถเพิ่ม Wine Pairing หรือ Juice Pairing เพื่อยกระดับทุกจานให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นได้
แน่ทีเดียวว่าหัวใจสำคัญของเชฟคือคุณภาพของวัตถุดิบที่ผ่านการคัดสรรอย่างละเอียดอ่อน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบท้องถิ่นที่มี Geographical Indication (GI) สะท้อนอัตลักษณ์เฉพาะของแต่ละภูมิภาคในไทย หรือวัตถุดิบนำเข้าชั้นเลิศจากทั่วโลก
ไม่ว่าจะเป็นจานไฮไลต์อย่าง Hotate Chawanmushi ที่เชฟได้แรงบันดาลใจจากเมนูฝรั่งเศสคลาสสิกอย่าง Royale โดยใช้วิธีการตุ๋นไข่กับน้ำสต็อกผสานความหวานละมุนของหอยเชลล์โฮตาเตะที่นำมาปั่นรวมกันจนได้เนื้อสัมผัสเนียนละเอียด เสิร์ฟพร้อมกับหอยหวาน หอยลาย หมึกย่าง กระเพาะปลาที่เชฟคัดสรรมาเป็นแบบพรีเมียมที่มีความหนานุ่มละมุน ยิ่งกินกับคาเวียร์ด้านบน เสริมด้วยความกลมกล่อมจากกังป๋วยแล้วอูมามิสุดๆ
Baby Chicken Pithivier อกไก่ยัดไส้เห็ดมอเรลในพายสไตล์ฝรั่งเศสที่อบได้หอมกรุ่นเตะจมูก เนื้อไก่มีการเลเยอร์ด้วยผักชีและผักโขมชั้นบาง เสริมอโรมาด้วยข่าอ่อนและกระวานดำ และยังมาพร้อมกับน่องไก่หมักตะไคร้ที่นำไปย่างบนถ่านบินโจตัน เสิร์ฟคู่กับน้ำซุปคอนซอมเมไก่ที่มีรสเปรี้ยวอ่อนๆ จากโกจิเบอร์รี ช่วยตัดเลี่ยนได้ดี
อีกจานที่สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยคือ Baked Crab Rice ข้าวอบปูท็อปด้วยไข่ปูทะเลเนื้อแน่นล้นกระดอง ซึ่งเชฟนำออกมาปรุงกันให้ดูสดๆ
ไข่ปูที่เห็นผ่านการ Debone ก่อนบรรจงใส่กลับเข้าไปใหม่ ส่วนเนื้อปูที่เหลือจากการแกะนำไปเคี่ยวจนได้คอนซอมเมปูรสเข้มข้น ตักกินกับข้าวได้รสชาติความหวานมันเข้ากันกับข้าวที่กรอบเล็กน้อยกำลังดี
ในส่วนของของหวานแนะนำให้ลอง Pineapple Soufflé ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมขิงหอมๆ ที่เข้ากันอย่างไร้ที่ติ
ถือเป็นประสบการณ์การดื่มด่ำกับไฟน์ไดนิ่งที่สัมผัสได้ถึงแพสชันของเชฟบิ๊กอย่างเต็มล้น มากกว่าเรื่องรสชาติยังมีความสวยงามของเรื่องราวเบื้องหลังแต่ละจานที่เชื่อว่าใครหลายๆ คนที่ได้มาสัมผัสคงจะประทับใจเหมือนกัน
Patt Bangkok
Open: วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 18.00-22.00 น., เสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-14.00 น. และ 18.00-22.00 น. (ปิดวันจันทร์)
Address: ซอยเจริญราษฎร์ 7 แยก 7-61
Website: https://restaurantpatt.com/
Tel: 09 8159 4662
Budget:
- 6 Courses: Best of Patt ราคา 3,468++ บาท / 8 Courses: Patt’s Experience ราคา 4,468++ บาท
- Wine Pairing: 1,500 บาทต่อ 3 แก้ว / 2,500 บาทต่อ 5 แก้ว
- Juice Pairing: 1,000 บาท
Facebook: https://www.facebook.com/pattbangkok
Instagram: https://www.instagram.com/patt.bangkok/
Map:
ภาพ: Patt Bangkok