NANA Coffee Roasters Bangna สาขาใหม่ในสวนสีเขียว ที่จริงจังกับกาแฟขึ้นมาอีกเลเวล

ริมถนนย่านบางนา-ตราด ที่เต็มไปด้วยรถคันใหญ่วิ่งตลอดทาง เราเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะเดินเข้ามาแล้วได้เจอบรรยากาศร้านกาแฟที่สงบร่มรื่น ตัดขาดความวุ่นวายไว้ด้านหลังได้อย่างสิ้นเชิง นี่อาจเป็นเสน่ห์หนึ่งของ ‘NANA Coffee Roasters สาขาบางนา’ ที่ชวนให้คอกาแฟและคนรักการนั่งดื่มชาอยากเดินทางมาที่นี่อีกครั้ง

The Vibe

NANA Coffee Roasters สาขานี้บรรยากาศต่างจากสองสาขาแรก เพราะเจ้าของแบรนด์อยากให้แต่ละแห่งมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว สาขาริมถนนบางนา-ตราดจึงเน้นโทนสีขาวสะอาด โปร่งสบาย และร่มรื่นจากต้นไม้สีเขียว

ที่นี่ยังคงเน้นเรื่องกาแฟอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่ามีความพิเศษเพิ่มขึ้นคือ การแยก Speed Bar และ Slow Bar ไว้คนละส่วน แถมยังมี Tea Bar เป็นเคาน์เตอร์เสิร์ฟชาโดยเฉพาะให้นั่งจิบแบบจริงจังด้วย

และด้วยความที่อยากให้ทุกคนมานั่งดื่มกาแฟของ NANA ได้อย่างเต็มที่ พวกเขาจึงออกแบบโต๊ะให้เหมาะกับการนั่งดื่ม มีความเป็นลอนคลื่น เพราะนอกจากช่วยให้ร้านดูไม่แข็งทื่อเกินไป ก็ยังทำให้เราโฟกัสกับกาแฟมากกว่าหน้าจอด้วย

The Taste

สาขานี้จะมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายเช่นเดียวกับสาขาอื่น แต่จะเน้นเมล็ด Single Origin ที่นำมาคั่วเองในระดับเอสเพรสโซมากกว่า ทำให้เราสั่งเป็นอเมริกาโนหรือลาเต้ก็คาแรกเตอร์ไม่ดรอป ซึ่ง NANA Coffee Roasters สาขาอื่นๆ จะไม่มีเมล็ดรูปแบบนี้เพราะเน้นคั่วอ่อน

โดยเมล็ดคั่วพิเศษของสาขาบางนาจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกสัปดาห์ เพื่อให้คอกาแฟแวะกลับมาลองอะไรใหม่ๆ ได้ตลอด

“เราเน้นทั้งกาแฟไทยและกาแฟนอก จะพยายามเปลี่ยนเมล็ดกาแฟให้มีความหลากหลายอยู่ตลอด เพื่อให้ลูกค้าประจำได้ลองกาแฟหลายๆ ตัว เพราะเราอยากเป็นสาขาที่ช่วยเปิดโลกให้ลูกค้ารู้ว่า กาแฟเปรี้ยวก็มีหลายแบบ” เฮดบาริสต้าประจำสาขาบางนาบอก

นอกจากเมนูกาแฟคลาสสิกที่มีให้เลือกครบ ร้านก็มีกาแฟซิกเนเจอร์ให้ลองด้วย เช่น ‘H-A-N 3 (200 บาท)’ ร้านนำคาแรกเตอร์ของ NANA ทุกสาขามาทำเป็นเครื่องดื่ม 3 เลเยอร์ เริ่มจากชั้นล่างสุด เยลลี่เอิร์ลเกรย์สีน้ำตาลแดงที่สื่อถึงสาขาอารีย์ ชั้นกลางเป็นกาแฟลาเต้สีน้ำตาลอ่อนเหมือนสาขาเลียบด่วนรามอินทรา และชั้นบนสุดท้าย แน่นอนว่าเป็นสีขาวจากสาขาใหม่ที่เรากำนั่งจิบกาแฟอยู่ตอนนี้

เมนูนี้แนะนำให้คนเยลลี่จนแตกตัวผสมกัน ก่อนยกดื่มได้เลย เพราะเฮดบาริสต้าบอกว่า “เวลายกกาแฟดื่มเราจะได้รสสัมผัสที่ชัดเจนกว่า เมนูนี้ก็เช่นเดียวกัน เพราะจะได้รสสัมผัสทั้งเบิร์นบราวน์ชูการ์ด้านบนฟองนม ก่อนตามด้วยเนื้อเยลลี่และความหอมของกาแฟ”

‘Signature Kanda (250 บาท)’ เมนูซิกเนเจอร์ประจำทุกสาขา เป็นชาผลไม้สกัดเย็น ท็อปด้วยกาแฟไนโตร เวลาดื่มให้คนผสมกันแล้วจะได้ความหอม ดื่มง่าย เหมาะกับคนไม่ชอบดื่มกาแฟรสขมหรือเปรี้ยว

แต่หากใครไม่อยากดื่มคาเฟอีน ร้านก็มีเมนูแนะนำอย่าง ‘Matcha Strawberry (180 บาท)’ ให้ลอง แก้วนี้ใช้นมสตรอว์เบอร์รีท็อปด้วยชาเขียวเข้มข้น ดื่มแล้วหอมนุ่มนวล ถูกใจคนชอบสตรอว์เบอร์รีมัทฉะแน่นอน

นอกจากเครื่องดื่ม สาขาบางนาก็มีทั้งขนมและอาหารด้วย เช่น ‘Honey Toast (250 บาท)’ ขนมปังเนื้อครัวซองต์ที่อบร้อนจนกรอบและหอมนุ่ม ท็อปด้วยไอศกรีมวานิลลาโฮมเมดและผลไม้ตระกูลเบอร์รี

แต่ถ้าหากใครมาตอนเช้ามากๆ และอยากกินอาหารรองท้องก่อนสั่งกาแฟดื่ม ร้านก็มีของกินจริงจัง เช่น ‘ข้าวต้มทรงเครื่อง (200-250 บาท)’

Good for

ถ้าวันไหนใครรู้สึกอยากเดินทางไปนั่งพักจิบกาแฟ หรือผ่านมาย่านบางนา-ตราด อย่าลืมแวะเข้าไปนั่งเล่นที่ NANA Coffee Roasters Bangna เพราะเราว่าเป็นอีกสาขาที่ครบครันทั้งรสชาติและบรรยากาศ มีความหลากหลายทั้งกาแฟ อาหาร และชา คอกาแฟไม่ควรพลาดมาเช็กอิน