ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีที่จะยกระดับเสียงทีวีให้ดูหนังสนุกขึ้น ฟังเพลงเพราะขึ้น แต่ไม่อยากได้ชุดโฮมเธียเตอร์ชิ้นใหญ่มาเต็มห้อง เราคิดว่า Marshall Heston 60 น่าจะตอบโจทย์คุณได้ดีทีเดียว เพราะซาวด์บาร์รุ่นนี้ออกแบบมาให้กะทัดรัด เหมาะกับคอนโดหรือห้องนอนที่พื้นที่ไม่กว้างขวางนัก แต่ยังคงเอกลักษณ์สไตล์ Marshall ที่ผสมผสานระหว่างงานดีไซน์สวยงามกับพลังเสียงที่น่าประทับใจไว้ได้อย่างลงตัว
ไม่ใช่แค่ซาวด์บาร์ธรรมดา แต่คือชิ้นงานที่คิดมาเพื่อบ้านจริงๆ
เราคิดว่าสิ่งที่ทำให้ Heston 60 แตกต่างจากซาวด์บาร์ทั่วไป คือมันไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์ที่วางหน้าทีวีแล้วจบเลย แต่เป็นงานที่ออกแบบมาภายใต้ความสวยงามและใช้งานได้จริงด้วย โดยเฉพาะคนที่ชอบแขวนทีวีติดผนัง มากกว่าตั้งโต๊ะ เพื่อประหยัดพื้นที่ ลำโพงตัวนี้จะเข้ากับสไตล์บ้านแนวนี้ได้เป็นอย่างดี

รวมถึงฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างดีไซน์แบบ Flippable ที่เราสามารถหมุนปรับทิศทางตัวซาวด์บาร์ให้เข้ากับแนวการติดตั้งบนผนังได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะแขวนแนวไหนก็ดูสวย นอกจากนี้ยังมีโลโก้ Marshall แบบแม่เหล็กที่ปรับตำแหน่งได้ตามใจชอบ และแผงควบคุมสามารถสลับทิศทางตามแนวการแขวนได้ด้วย

เรามองว่ารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้อาจดูไม่มีอะไร แต่ถ้าคนที่ชอบแต่งบ้าน หรือเคยแต่งบ้านมาก่อน จะรู้ว่ามันช่วยให้ทุกอย่างลงตัวได้ง่ายจริงๆ
เชื่อมต่อได้ครบ ไม่ว่าจะดูหนังหรือฟังเพลง

อีกสิ่งที่ทำให้เราชอบลำโพงรุ่นนี้มากคือการเชื่อมต่อที่ง่ายและครบจบ ทั้ง HDMI eARC สำหรับต่อกับทีวีเป็นหลัก ส่วนการฟังเพลงก็มีทั้ง Wi-Fi, Bluetooth LE Audio, Auracast สำหรับรับสัญญาณ รวมถึง AirPlay 2 และ Google Cast ที่เราสามารถสตรีมเพลงจากมือถือหรือแท็บเล็ตได้เลย สะดวกมาก แต่หากคุณยังใช้สายอยู่ ลำโพงก็มีช่อง AUX 3.5 มม. ให้ใช้งานร่วมกันด้วย
จะเป็นอย่างไรเมื่อใช้คู่กับ Marshall Heston Subwoofer 200

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบดูหนังแอ็กชัน เล่นเกมบ่อยๆ หรือฟังเพลงประเภทที่ต้องการเบสหนักๆ ชัดๆ การจับคู่ Heston 60 กับ Heston Subwoofer 200 จะช่วยเติมเต็มมิติเสียงพื้นต่ำให้สมบูรณ์ขึ้น

เวลาใช้ทั้งคู่ร่วมกัน คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่าประสบการณ์การดูหนังหรือซีรีส์ต่างออกไปอย่างชัดเจน เวลาฟังเพลงก็จะได้เบสที่ลงลึกกว่าเดิมเยอะ ทำให้เพลงป๊อป ฮิปฮอป หรือ EDM ฟังสนุกขึ้นอีกระดับ และยังช่วยให้เสียงโดยรวมมีสเกลที่ใหญ่ขึ้นด้วย
แล้ว Heston 60 เหมาะกับใครบ้าง? คุ้มค่าไหม?
ซาวด์บาร์รุ่นนี้เหมาะมากถ้าคุณเป็นคนที่อยู่คอนโดหรือห้องนอนที่พื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่อยากอัปเกรดเสียงให้ดีกว่าลำโพงในตัวของทีวี หรือถ้าคุณเป็นคนที่ใส่ใจเรื่องดีไซน์และมองหาซาวด์บาร์ที่สามารถเป็นของแต่งบ้านได้ด้วย Marshall ก็ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดี แบบไม่ต้องพึ่งพาชุดเครื่องเสียงเซตใหญ่ที่กินพื้นที่

แต่ถ้าคุณเน้นดูหนัง เล่นเกมเป็นประจำ หรือเป็นคนที่ชอบเสียงเบสหนักๆ เราแนะนำให้พิจารณาซื้อเซตไปเลย เพราะการมี Subwoofer 200 จะทำให้คุณได้ประสบการณ์ที่อัปเกรดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
Marshall Heston 60 วางจำหน่ายที่ 25,900 บาท มีให้เลือกสองสีคือ Black และ Cream ส่วน Heston Subwoofer 200 ราคาอยู่ที่ 16,900 บาท ก็มีสองสีเช่นกัน
ภาพ: ผลาณุสนธิ์ ผดุงทศ


