เราอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยแรงกดดันให้ต้องประสบความสำเร็จและสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ หลายคนจึงถูกหล่อหลอมให้เชื่อว่าการต้อง Productive ตลอดเวลาเป็นเรื่องปกติ และความสมบูรณ์แบบคือมาตรฐานที่ทุกคนต้องไปให้ถึง โดยเฉพาะคนที่อยู่ในวังวนของความเป็น Perfectionist หรือคนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง พวกเขาจะรู้สึกว่าการหยุดนิ่งคือความล้มเหลว และการผิดพลาดคือสิ่งที่รับไม่ได้ ภาวะกดดันที่กลายเป็น “เรื่องปกติ” ของสังคมนี้กำลังบั่นทอนสุขภาพใจโดยไม่รู้ตัว
บทความนี้จะชวนคุณมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ถ้าเรายอมรับว่าความไม่สมบูรณ์แบบคือเรื่องปกติ ชีวิตจะเบาสบายขึ้นแค่ไหน?” โดยจะพาไปสำรวจมุมมองกับ ฟาง-รัฐโรจน์ จิตรพนา Host รายการ How do you live? ที่มีมุมมองน่าสนใจเกี่ยวกับ “คุณภาพชีวิต” ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของความสำเร็จ แต่คือการกลับมา ทำความเข้าใจในตัวเอง อีกครั้ง
เธอจะพาเราไปสำรวจและตกผลึกถึงกระบวนการค้นหาตัวตนที่แท้จริงในพื้นที่ที่เขาได้ explore และเรียนรู้ที่จะ ทบทวน และ ปรับสมดุล ให้กับชีวิตในแบบของตัวเอง เพื่อให้เราได้กลับมาค้นพบความสุขที่เรียบง่ายและเป็นอิสระจากกรอบของสังคม
เมื่อ “ความสุข” ไม่ใช่สิ่งชี้วัดจากภายนอก
ฟาง-รัฐโรจน์ มองว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดของคนเมืองยุคนี้คือการหลงลืมว่ามาตรวัดทางสังคมไม่ใช่ทั้งหมดของ “ความสุข” ซึ่งเธอมองว่าบางครั้งการไม่มีความสุขก็อาจไม่ใช่ปัญหาเสียทีเดียว แต่เป็นสัญญาณให้เราได้ทบทวนชีวิตและปรับจูนตัวเองใหม่
“เรามักหลงลืมว่ามาตรวัดทางสังคม ไม่ใช่ทั้งหมดของ ‘ความสุข’ เพราะรอบตัวเราเต็มไปด้วยมาตรวัด ทั้งชีวิตที่สำเร็จตามมาตรฐานของคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือไลฟ์สไตล์ที่ดูดีได้รับยอดไลค์เยอะๆ เวลาลงในโซเชียล หรือความสัมพันธ์ที่สวยงามราวเทพนิยาย ซึ่งหลายครั้งเราอาจเผลอเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นมาตรวัดความสุขของชีวิตเราเอง แต่ ‘ความสุข’ อาจไม่ใช่สิ่งที่วัดจากภายนอกที่คนอื่นมองเห็นเสมอไป สิ่งที่สำคัญกว่าอาจเกิดขึ้นจากภายในของการรู้จักตัวเองว่า อะไรคือสิ่งที่เรา ‘สุข’ จุดไหนคือความลงตัวในแบบของเราเอง แต่การไม่มีความสุขกับชีวิต ก็อาจไม่ใช่ปัญหาก็ได้ ถ้าเราจะมองว่าคนเราก็อาจต้องเจอจุดไม่สุขก่อนถึงจะรู้ตัว ว่าเราต้องปรับจูนวิธีมองชีวิต และแนวทางในการใช้ชีวิตของเราใหม่อย่างไร”
เมื่อความสมบูรณ์แบบในงานกลายเป็นเรื่องใหญ่
เธอยอมรับว่าตัวเองก็เคยเป็น Perfectionist เพราะในโลกทุนนิยมที่งานคือเรื่องใหญ่ ความสมบูรณ์แบบในงานจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็มีมุมมองหนึ่งที่ดีมากในการรับมือเรื่องนี้
“เพราะงานคือเรื่องใหญ่ของชีวิตในโลกทุนนิยม ความสมบูรณ์แบบในงานจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ตามไปด้วย ฟางก็เป็น และยังแก้ไม่หายเลยค่ะ สิ่งที่สำคัญกว่าเรา Perfectionist หรือไม่ คือเรารู้ตัวหรือไม่ว่าเรากำลัง Perfectionist เมื่อไรที่สะกิดตัวเองได้บ่อยๆ เราก็จะเข้าใจตัวเอง รู้ตัวเอง และจัดวางความคาดหวังให้ไม่ล้นเกิน ไม่ทำร้ายคนอื่น และไม่ทำร้ายตัวเราเอง แต่เมื่อไรที่ไม่รู้ตัว มันล้นเกินไปแล้ว ก็คงไม่แปลกที่คนเราจะผิดพลาด และไม่สมบูรณ์แบบ การขอโทษตัวเอง การเรียนรู้ที่จะปรับตัวก็เป็นสิ่งที่น่าจะทำได้”
คุณเองก็สามารถสร้าง Living Quality ที่ดีได้จากสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ เพียงแค่รู้จักหยุดพักและยอมรับความต้องการของตัวเอง การได้มีพื้นที่ที่เอื้อให้คุณได้อยู่กับตัวเองอย่างเต็มที่
ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ ชีวิตจะเบาขึ้นจริงหรือ?
ในฐานะคนที่ ฟาง-รัฐโรจน์ คุ้นเคยกับการพูดคุยกับผู้คนมากมาย เธอมีข้อคิดที่น่าสนใจสำหรับคนที่มักจะตั้งคำถามว่า “หากเราอนุญาตให้ตัวเองได้อยู่กับปัจจุบันและยอมรับความไม่สมบูรณ์บ้าง ชีวิตจะเบาลงและมีความสุขมากขึ้นได้จริงหรือ?”
“ชีวิตไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ และไม่มีทางเป็น เราอาจต้องย้ำกับตัวเองบ่อยๆ เพราะโลกวันพรุ่งนี้จะเปลี่ยนไปอย่างพลิกฝ่ามืออย่างไร เรายังไม่อาจคาดเดาได้ 100% แม้แต่นักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง หรือผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ก็ยังมองเห็นความเกินคาดเดาของโลกในทุกวันนี้ ดังนั้นนับประสาอะไรกับชีวิตที่อยู่ท่ามกลางเรื่องมากมาย ไม่แน่ใจว่าการอยู่กับความไม่สมบูรณ์แบบได้จะทำให้เราสุขมากขึ้นไหม แต่ที่แน่ๆ คงทำให้เรายอมรับความจริงได้อย่างที่ชีวิตเป็นมากขึ้น”
การได้พักในพื้นที่ที่ช่วยให้คุณได้อยู่กับปัจจุบันและยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบได้มากขึ้น
สร้างสมดุลด้วยการ “เลือก” ให้ตัวเอง
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ฟาง-รัฐโรจน์ เริ่มสร้างสมดุลให้กับชีวิต คือตอนที่รู้ตัวว่า “การเลือก” ให้เวลากับตัวเองกลายเป็นเรื่องยาก เธอได้เล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองไว้ว่า
“ฟางรู้ตัวเมื่อร่างกายส่งสัญญาณของความเหนื่อยล้า อารมณ์ส่งสัญญาณของการแตกร้าว และเราต้องการการหยุด การสร้างสมดุลของฟาง คือการมอบเวลาให้กับตัวเอง อ่านหนังสือที่อยากอ่าน ฟังเพลงที่อยากฟัง พูดคุยและใส่ใจกับบทสนทนาตรงหน้า หาจังหวะที่ไม่เร่งรีบบ้างระหว่างวัน ซึ่งทำให้รู้ว่า ถ้าเราจะสมดุล เราต้องเลือกตัวเองทุกวัน ไม่ใช่เลือกเฉพาะตอนที่มันแตกร้าวไปแล้ว และอาจใช้เวลากู้คืนยาวนาน”
Living Quality ที่แท้จริงคือการได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราเลือกเอง ไม่ใช่การทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ การได้มีพื้นที่ที่พร้อมรองรับทุกการเติบโตอย่างบ้านหรือคอนโดที่ออกแบบมาอย่างเข้าใจก็ช่วยให้คุณสร้างสมดุลในชีวิตได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน ทำงาน หรือทำกิจกรรมที่ชอบ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการได้มี Living Quality ในแบบของเราเอง
การยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์แบบเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จะช่วยให้เราเบาสบายขึ้น และค้นพบความสุขที่แท้จริงที่ไม่ต้องถูกวัดค่าจากภายนอก นี่คือ Living Quality ในแบบฉบับที่คุณสร้างเองได้ และคุณจะพบว่ามันอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดเสมอ