“ทำไมทุกคนดูเหมือนอยู่ใน ‘โหมดวันหยุด’ กันนะ?” เสียงนักข่าวชาวออสเตรียคนหนึ่งเอ่ยถามฉัน ขณะที่เราเดินเล่นอยู่ริมทะเลสาบ Neuchatel
ภาพของท้องฟ้าใสกระจ่าง ผู้คนเอนกายลงบนพื้นหญ้า บ้างก็จับกลุ่มกันปิกนิก บางคนก็นั่งอาบแดดพลางหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ส่วนอีกหลายคนก็กระโดดลงไปแหวกว่ายในทะเลสาบ พายซับบอร์ด หรือเรือคายัค ใครจะเชื่อว่านี่คือเหตุการณ์ธรรมดาในช่วงบ่ายสองโมงของวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลาเดียวกันกับที่ชาวเอเชียอย่างเรายังคงตรากตรำทำงานในออฟฟิศ ประชุมเคลียร์งานกันหัวหมุน แต่ชาวสวิสกลับใช้เวลาว่างในวันธรรมดาเพลิดเพลินกับสายลม แสงแดด และธรรมชาติ ราวกับทุกวันคือวันหยุด
เมื่อฤดูร้อนมาเยือน สวิตเซอร์แลนด์ เปลี่ยนจากดินแดนแห่งภูเขาหิมะ กลายเป็นแดนสวรรค์ของคนรักชีวิตกลางแจ้ง น้ำในทะเลสาบใสแจ๋ว เรือใบลำเล็กใหญ่ล่องลอยบนผิวน้ำ ทุ่งหญ้าเขียวขจีเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าทั่วขุนเขา เหมาะกับการสวมรองเท้าคู่เก่งแล้วคว้าไม้โพลออกไปเดิน Hiking บนภูเขา ส่วนตามคาเฟ่ริมถนนในเมืองก็คลาคล่ำด้วยผู้คนแลดูมีชีวิตชีวา คุณจะเห็นผู้คนแวะมาอาบแดดก่อนไปทำงาน หรือแวะว่ายน้ำในทะเลสาบก่อนกลับบ้านได้ไม่ยาก
และไม่ใช่แค่ Neuchatel เท่านั้น ที่คุณจะได้เห็นภาพแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเมืองไหนๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ก็ล้วนแต่เอนจอยกับหน้าร้อนกันทั้งนั้น ราวกับหน้าร้อนคือของขวัญจากธรรมชาติ บางเมืองถึงขั้นแปลงเขื่อนกันน้ำเป็นที่เล่นเซิร์ฟเลยก็มี เพราะอากาศร้อนแล้วอย่างไร ในเมื่อเรายังมีน้ำทะเลสาบใสๆ เย็นๆ ให้กระโจนเล่น มีแสงแดดอุ่นๆ ให้บ่มผิวได้อย่างเต็มที่
และโมเมนต์เช่นนี้เอง ที่ทำให้เรากลับมาถามตัวเองว่าเราใช้ชีวิตมีความสุขจริงๆ หรือเปล่า เราให้เวลากับตัวเองมากพอหรือยัง นี่คือแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เราอยากชวนทุกคนให้หัน ‘เติมพลังให้ชีวิต’ และ ‘อยู่กับวันธรรมดาให้เหมือนวันหยุด’ ดูบ้าง
แม้เราจะไม่ได้มีเทือกเขาแอลป์หรือแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางเมืองเหมือนสวิตเซอร์แลนด์ แต่เราก็อาจจะ ‘ใช้ชีวิตให้ช้าลง’ ในแบบของตัวเองได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการกินข้าวนอกบ้านบ้าง, ปิดมือถือช่วงบ่าย, หรือแค่นั่งนิ่งๆ ฟังเสียงลม และมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว นอกจากจะช่วยให้เราได้พักผ่อนจิตใจแล้ว ยังเป็นการเติมพลังงานให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างแท้จริง เพื่อให้วันธรรมดาของเรากลายเป็นวันพักผ่อนเล็กๆ ที่มีความหมายในแบบฉบับของเราเอง