ดูหนังหลอน…ช่วยให้ผอมลงจริงเหรอ?

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราอาจเคยผ่านหูผ่านตากับผลวิจัยฉบับหนึ่งที่เผยว่า การดูหนังสยองขวัญช่วยให้ผอมลงได้ จนทำให้ใครหลายคนที่กำลังพยายามลดน้ำหนักรีบคว้ารีโมตมาเปิดหนังหลอนดูแทบไม่ทัน ทว่าการดูหนังชวนสะดุ้งตกใจกับฉากตุ้งแช่ทั้งหลายช่วยให้เราผอมลงได้จริงแท้แค่ไหน ลองมาวิเคราะห์ไปด้วยกัน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 สื่อต่างประเทศอย่าง Telegraph ได้เผยแพร่งานวิจัยของมหาวิทยาลัยเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ทำการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง 10 คน โดยให้แต่ละคนดูหนังสยองขวัญที่แตกต่างกันไป แล้วให้นักวิทยาศาสตร์คอยบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการสูดออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย รวมถึงแคลอรีที่เผาผลาญได้ขณะชม

ผลการทดลองพบว่า ฉากตุ้งแช่ชวนสะดุ้งนั้นทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น ภาวะตกใจชั่วขณะนั้นทำให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีนอันส่งผลให้ความอยากอาหารลดลง แถมยังทำให้อัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐาน (Basal Metabolic Rate) เพิ่มขึ้นอีกต่างหาก

นอกจากนี้ยังมีสรุปอีกว่า จากลิสต์หนัง 10 เรื่องที่หยิบยกมาทดลองนั้น The Shining เผาผลาญได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งถึง 184 แคลอรี ตามมาด้วย Jaws ที่ 161 แคลอรี และ The Exorcist ที่ 158 แคลอรี

ได้ยินแบบนี้เป็นใครก็ต้องหูผึ่ง แค่ดูหนังก็เบิร์นแคลอรีได้เทียบเท่าเดินบนลู่ครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว ทว่าผลการวิจัยดังกล่าวกลับไม่ได้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลขนาดนั้น เนื่องจากเป็นการวิจัยด้วยกลุ่มตัวอย่างเพียง 10 คน และเป็นการวัดผลแบบเรียลไทม์ ไม่ได้ติดตามผลหลังการทดลอง อีกทั้งตัวผลวิจัยเองก็ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบบทความทางวิชาการ (Peer Review) นอกจากนี้ยังมีเรื่องปัจจัยพื้นฐานร่างกายของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป บางคนอาจจะนั่งเฉยๆ แล้วเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าคนที่ดูหนังสยองขวัญเสียอีก และยิ่งถ้าเอ็นจอยกับขนมขบเคี้ยวขณะดูหนังที่ว่านี้ด้วยคงจะเห็นผลได้ยาก

หากตัดเรื่องหนังสยองขวัญออกไป จะมีวิธีไหนบ้างที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้เยอะขึ้น? คำตอบก็คงหนีไม่พ้นการกลับมาทำในสิ่งที่ทุกคนรู้กันดี ซึ่งก็คือการกินให้ดี กินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกินกว่าที่ร่างกายต้องใช้ต่อวัน ออกกำลังกายเป็นประจำ รวมถึงการสร้างกล้ามเนื้อ

หากใครจะลองทดสอบด้วยวิธีที่ว่าแบบขำๆ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร อันที่จริงก็ยังมีอีกผลวิจัยที่เผยว่า การดูหนังสยองขวัญไม่ได้มีแต่ข้อเสียเสมอไป แต่ยังมีส่วนช่วยทำให้เราก้าวข้ามความกลัวในชีวิตจริงได้ หรือเรียกง่ายๆ ว่ามีภูมิต้านทานความกลัวมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เคสนี้อาจไม่ได้เป็นจริงกับทุกคน

หากรู้ว่าตัวเองเป็นคนจิตอ่อน การดูหนังที่กระตุ้นให้เกิดความกลัว ผวามากเกินไป คงไม่ใช่เรื่องดีต่อสุขภาพเท่าไรนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่เป็นโรควิตกกังวล การดูหนังสยองขวัญมักกระตุ้นให้เกิดความคิดและความรู้สึกไม่พึงประสงค์ และยังเพิ่มระดับของความวิตกกังวล ความกลัว อีกทั้งทำให้เกิดภาวะตกใจง่าย

บ้างก็อาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท ส่งผลกระทบได้ต่อทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต ทำให้สมองไม่ฟังก์ชันในวันรุ่งขึ้น และถ้าสะสมนานวันเข้าก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตในระดับที่รุนแรงยิ่งขึ้น

สรุปแล้ว ‘การฟังเสียงร่างกายตัวเอง’ คือสิ่งที่ควรทำเสมอ เพราะสุดท้ายแล้วอะไรที่โลกว่าดี…อาจไม่ได้ส่งผลดีกับตัวเราก็ได้

อ้างอิง: