จะเป็นอย่างไรนะ ถ้าวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าหัวใจมันว่างเปล่า ความรู้สึกที่เคยเติมเต็มหายไปจนหมดสิ้น ทุกอย่างที่เคยทำให้หัวใจเต้นแรงกลับกลายเป็นความเฉยชา แล้วเราจะรับมือกับมันอย่างไรดี?
ความรู้สึก ‘หมดรัก’ ไม่ได้เกิดขึ้นแบบชั่วข้ามคืน มันค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในความสัมพันธ์ทีละนิด จนวันหนึ่งเราอาจสังเกตเห็นว่าตัวเองไม่ได้ตื่นเต้นที่จะเจอหน้าเขาอีกแล้ว ข้อความที่ส่งมาไม่ได้ทำให้หัวใจพองโต แผนอนาคตที่เคยวาดไว้ด้วยกันเริ่มเลือนราง และบางทีเรายังรู้สึกอึดอัดเวลาต้องอยู่ด้วยกันอีกด้วย
เมื่อถึงจุดนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้เวลาทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ลองถามตัวเองดูว่า นี่เป็นแค่ช่วงเวลาที่เราเหนื่อยล้าจากความสัมพันธ์ หรือเป็นความรู้สึกที่ลึกกว่านั้น อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจอะไรถ้ายังไม่แน่ใจ การปรึกษาเพื่อนสนิทหรือคนที่เราไว้ใจอาจช่วยให้เรามองเห็นภาพชัดขึ้น
แต่ถ้าวันหนึ่งเราแน่ใจแล้วว่าหมดรักจริงๆ การจัดการกับสถานการณ์นี้ต้องทำด้วยความระมัดระวังและให้เกียรติทั้งตัวเองและอีกฝ่าย เริ่มจากการเลือกเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการคุย หลีกเลี่ยงการบอกเลิกผ่านข้อความหรือโทรศัพท์ถ้าเป็นไปได้ เพราะการเผชิญหน้าจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายได้สื่อสารความรู้สึกอย่างเต็มที่
ในการบอกเลิก พยายามสื่อสารด้วยความจริงใจแต่นุ่มนวล บอกความรู้สึกของเราโดยไม่กล่าวโทษอีกฝ่าย หลีกเลี่ยงคำพูดแบบ “เธอทำให้ฉัน…” แต่ใช้คำว่า “ฉันรู้สึก…” แทน ให้เหตุผลที่ชัดเจนแต่ไม่ทำร้ายจิตใจ และที่สำคัญ เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้แสดงความรู้สึกด้วย
หลังจากการบอกเลิก การตัดการติดต่อชั่วคราวอาจเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่เพราะเราเกลียดกัน แต่เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมีเวลาและพื้นที่ในการเยียวยาตัวเอง อย่าพยายามรักษาสถานะ ‘เพื่อน’ ทันที เพราะมันอาจทำให้การก้าวต่อไปยากขึ้น
ช่วงเวลาหลังเลิกรา ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง อย่ากดดันตัวเองว่าต้องแฮปปี้เร็วๆ ยอมรับว่าความเศร้าและความเสียใจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเยียวยา ใช้เวลานี้ทำในสิ่งที่เราชอบ เจอเพื่อนฝูง หรือเริ่มต้นงานอดิเรกใหม่ๆ
จำไว้นะว่าการถอนตัวจากความสัมพันธ์ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่เป็นการเลือกที่จะซื่อสัตย์กับตัวเองและให้เกียรติอีกฝ่าย บางทีการปล่อยมือกันอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะรักษาความทรงจำดีๆ ที่เคยมีร่วมกัน และเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้พบกับความสุขในรูปแบบใหม่ที่เหมาะสมกับตัวเองมากกว่า