หลายคนน่าจะเคยไปเที่ยวหรือเคยได้ยินชื่อเสียงของ ‘หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน (Gamcheon Culture Village)’ ในเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของปูซาน ด้วยภาพหมู่บ้านสีสันสดใสที่ตั้งลดหลั่นกันเป็นขั้นบันไดตามแนวเนินเขา แถมยังมีจุดถ่ายรูปยอดฮิตกับเจ้าชายน้อยอีก หมู่บ้านคัมชอนฯ จึงมีนักท่องเที่ยวแวะมาไม่ขาดสายแทบทุกฤดู

ทว่าสถานที่แห่งนี้มีเรื่องราวมากมายที่เราเชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยได้ยิน หรือบางคนอาจเคยสงสัยว่าทำไมหมู่บ้านแห่งนี้ถึงดูแออัด ต่างจากเมืองหรือหมู่บ้านอื่นๆ ที่จัดเรียงเป็นระเบียบเรียบร้อย เหตุผลทั้งหมดที่เราจะเล่าให้ฟังก็คือ เนื่องจากหมู่บ้านคัมชอนเคยเป็นสถานที่ของผู้ลี้ภัยสมัยสงครามเกาหลี และเพิ่งได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อ 10 กว่าปีก่อนนี้เอง

เราอยากให้ทุกคนไปเที่ยวหมู่บ้านคัมชอนด้วยความรู้สึกสนุก ประทับใจ จึงขอเล่าถึงจุดเริ่มต้นสั้นๆ แล้วกัน ด้วยการย้อนกลับไปสมัยสงครามเกาหลี เมื่อปี ค.ศ. 1950 หลังจากสงครามปะทุและผู้คนต้องอพยพ ในเวลานั้นปูซานเป็นเมืองเดียวที่ปลอดภัย ชาวเกาหลีจากตอนเหนือจึงลี้ภัยมาตั้งถิ่นฐานตรงเนินเขาแห่งนี้ชั่วคราว เพื่อรอเวลาสงครามสงบและกลับถิ่นเกิด
แต่เราทุกคนรู้ตอนจบดี ชาวบ้านผู้ลี้ภัยไม่มีทางเลือกนอกจากตั้งถิ่นฐาน ณ หมู่บ้านคัมชอนอย่างถาวร จากเริ่มแรกสร้างที่พักพิงชั่วคราวด้วยไม้ ก็เริ่มทำการก่อสร้างที่พักอาศัยตามพื้นที่ที่มี ก่อนชุมชนผู้ลี้ภัยจะเติบโตเป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยเหมือนเขาวงกต ถ้าใครเคยมาเที่ยวจะรู้เลยว่าหมู่บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยบันไดและทางเดินยิบย่อยที่ชวนหลงแค่ไหน

เมื่อเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ เศรษฐกิจประเทศเกาหลีใต้เติบโตขึ้น เช่นเดียวกับผู้คนในหมู่บ้านคัมชอนที่ต้องการอาชีพและรายได้ จึงมีหลายครอบครัวย้ายออกไปอยู่ที่อื่น หมู่บ้านคัมชอนที่ค่อนข้างยากจนและทรุดโทรมจึงมีคนอาศัยอยู่น้อยลง ก่อนในปี ค.ศ. 2009 รัฐบาลมีโครงการฟื้นฟูเมืองให้หมู่บ้านกลับมามีชีวิตชีวา ด้วยการเติมงานศิลปะ ปรับปรุงภาพลักษณ์ รวมถึงมีการถ่ายทำซีรีส์หรือรายการต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาตามรอยด้วย

ปัจจุบันหมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอนมีคาเฟ่น่ารักๆ ร้านขายของเก๋ๆ แกลเลอรีศิลปะ จุดเช็กอิน รวมถึงร้านของฝากให้แวะเต็มไปหมด และในหมู่บ้านมีนิทรรศการให้ย้อนรอยประวัติศาสตร์สถานที่แห่งนี้เช่นกัน ถ้าหากใครมีโอกาสแวะไปและอยากเห็นรูปจริงด้วยตาตัวเอง เราก็อยากให้แวะชม
ไม่แน่ว่าทุกคนอาจเดินเล่นหมู่บ้านแห่งนี้ด้วยความรู้สึกแตกต่างจากครั้งแรกก็ได้


