มีการประมาณการที่อ้างอิงแพร่หลายว่า คนเราอาจรับ ไมโครพลาสติก เข้าสู่ร่างกายราว 5 กรัมต่อสัปดาห์ (เท่าน้ำหนักบัตรเครดิต) จากรายงาน WWF ปี 2019 แต่ตัวเลขนี้ยังเป็นที่ถกเถียงในวงวิชาการและอาจแตกต่างตามพื้นที่และพฤติกรรมการบริโภค ซึ่งฟังดูน่ากลัวแต่มันอาจเกิดขึ้นได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งไมโครพลาสติก (Microplastics) คือเศษพลาสติกขนาดเล็กมาก ที่มีขนาดไม่เกิน 5 มิลลิเมตร ซึ่งเล็กจนมองด้วยตาเปล่าบางครั้งแทบไม่เห็น แต่ผลกระทบของมันต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพนั้นใหญ่ไม่แพ้ใครเลย ปัญหาคือมันอยู่ทุกที่ ทั้งเจือปนในน้ำที่เราดื่ม อาหารที่เรากิน แม้แต่อากาศที่เราหายใจ และมันได้กลายเป็นอันตรายที่มองไม่เห็น
LIFE จึงอยากพาผู้อ่านไปทำความเข้าใจว่า แม้เราจะหลีกเลี่ยง ไมโครพลาสติก ไม่ได้ 100% แต่มีอาหารบางชนิดที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าช่วย ‘ลดผลกระทบ’ จากไมโครพลาสติกได้จริง และที่สำคัญ ทำได้ง่ายในชีวิตประจำวัน
รู้จักความอันตรายของไมโครพลาสติก (Microplastics)
เมื่อเศษพลาสติกเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย มันไม่ได้มาเปล่าๆ แต่มาพร้อมกับสารเคมีอันตราย เช่น BPA และ phthalates ที่สามารถรบกวนระบบฮอร์โมน ลดความสามารถในการมีบุตร ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย หรือแม้แต่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและมะเร็ง
จากการศึกษาในปี 2024 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร New England Journal of Medicine พบว่ามีไมโครพลาสติกอยู่ในหลอดเลือดที่อุดตันของผู้ป่วยโรคหัวใจ ซึ่งบ่งบอกว่ามันอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง แต่ก็มีข่าวดีจากโลกวิทยาศาสตร์ที่บอกเอาไว้ว่าแม้เราจะหลีกเลี่ยงไมโครพลาสติกไม่ได้ 100% แต่ร่างกายเรามีกลไกในการขับของเสียออกไปเอง และที่สำคัญ มีอาหารบางชนิดที่ช่วยเสริมกลไกนี้ได้
เส้นใยอาหาร ตัวช่วยตัวจริง
การศึกษาจาก UCLA ในปี 2024 ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการด้านสุขภาพสิ่งแวดล้อม พบว่ามีหลักฐานเริ่มชี้ว่าอาหารที่มีเส้นใยสูงอาจช่วย ‘ลดการดูดซึม’ และ ‘พาออก’ ของปนเปื้อนบางชนิดได้ ทำไมเส้นใยถึงช่วยได้? เพราะมันสามารถดักจับและพาออกออกจากร่างกาย เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำมีโครงสร้างเป็นรูพรุน เหมือนฟองน้ำตัวจิ๋ว พอไมโครพลาสติกลอยมาชนก็จะติดค้าง แล้วเส้นใยจะพาไปขับออกทางอุจจาระ อีกหนึ่งความเก่งของเส้นใยอาหารคือช่วยเสริมกำแพงลำไส้ของเรา เส้นใยละลายน้ำจะถูกจุลินทรีย์ในลำไส้หมักเป็นกระบวนการที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผนังลำไส้ ทำให้ไมโครพลาสติกแทรกซึมเข้าเลือดได้ยากขึ้น
อาหารที่แนะนำ ได้แก่
- ข้าวโอ๊ต รำข้าวสาลี
- ถั่วเลนทิล ถั่วทุกชนิด
- เมล็ดเชีย เมล็ดแฟลกซ์
- ผักใบเขียว บร็อกโคลี
เป้าหมายคือ 25-35 กรัมต่อวัน แต่ค่อยๆ เพิ่มทีละน้อยนะ ถ้าเพิ่มเยอะเกินไปทีเดียวท้องอาจไม่ชิน
ผลไม้สีสันสดใส มากกว่าแค่สวยงาม
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Journal of Pharmaceutical Analysis ในปี 2024 เปิดเผยว่าสารแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ผลไม้มีสีแดง ม่วง น้ำเงินสวยๆ สามารถช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายของไมโครพลาสติกได้ การทดลองในหนูพบว่าเมื่อได้รับไมโครพลาสติก แล้วจึงได้รับสารแอนโธไซยานิน หนูเหล่านั้นมีอสุจิที่มีคุณภาพดีขึ้น ว่องไวขึ้น และมีจำนวนมากขึ้น (หลักฐานส่วนใหญ่ยังอยู่ในสัตว์หรือห้องทดลอง) กลไกการทำงานคือ ต่อต้านความเครียดออกซิเดชัน ช่วยลดความเสียหายของเซลล์จากพลาสติก ปกป้องตัวรับฮอร์โมน ป้องกันไม่ให้สารเคมีในพลาสติกไปรบกวนฮอร์โมนในร่างกาย ลดการอักเสบและบรรเทาอาการอักเสบที่เกิดจากไมโครพลาสติก
อาหารที่ควรกินได้แก่
- เบอร์รีทุกชนิด โดยเฉพาะบลูเบอร์รีและแบล็กเบอร์รี
- เชอร์รี องุ่นดำ
- กะหล่ำปลีม่วง มะเขือม่วง
- ถั่วดำ ถั่วแดง
- มันเทศสีม่วง
เคล็ดลับ: กินสดหรือปรุงเบาๆ ดีที่สุด เพราะความร้อนสูงทำลายแอนโธไซยานินได้ และลองผสมกับไขมันดีๆ เช่น ถั่วหรือน้ำมันมะกอก จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น
โปรไบโอติก ทีมจุลินทรีย์ตัวเก่ง
ลำไส้ของเราคือแนวป้องกันแนวแรกต่อไมโครพลาสติก งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าจุลินทรีย์ดีในลำไส้มีบทบาทสำคัญในการจัดการกับพลาสติกเหล่านี้ อาหารหมักต่างๆ เช่น โยเกิร์ต คีเฟอร์ กิมจิ หรือผักดอง ช่วยเสริมแบคทีเรียดีในลำไส้ ซึ่งนอกจากจะช่วยย่อยอาหารแล้ว ยังอาจช่วยย่อยสลายพลาสติกบางชนิดได้ด้วย
ไคโตซานจากเปลือกกุ้ง
การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Scientific Reports ในปี 2025 พบว่าไคโตซาน ซึ่งสกัดมาจากเปลือกของสัตว์น้ำ สามารถเพิ่มการขับถ่ายไมโครพลาสติกออกจากลำไส้ได้อย่างมีนัยสำคัญ สามารถหาได้จากอาหารเสริมหรือกินกุ้งพร้อมเปลือกเลยก็ได้ แต่สำหรับคนที่แพ้อาหารทะเลไม่แนะนำ
แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อระวังด้วยนะ เพราะนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ต่างเตือนว่าการกินอาหารเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะ ‘กำจัด’ หรือ ‘ดีท็อกซ์’ ไมโครพลาสติกออกจากร่างกายได้ 100%
สิ่งที่อาหารเหล่านี้ทำได้จริงๆ คือ ช่วยลดการดูดซึมไมโครพลาสติกเข้าสู่กระแสเลือดเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายให้รับมือกับความเครียดจากสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้นสนับสนุนกลไกการขับของเสียตามธรรมชาติของร่างกาย
นอกจากเลือกกินอาหารแล้ว การลดการรับไมโครพลาสติกตั้งแต่แรกก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น
- เลิกใช้ภาชนะพลาสติกในไมโครเวฟ เปลี่ยนเป็นแก้วหรือเซรามิก
- เก็บอาหารในภาชนะแก้วหรือสแตนเลส
- หลีกเลี่ยงน้ำดื่มขวด ใช้ขวดที่ล้างได้แทน
- กรองน้ำประปาก่อนดื่ม
- เลือกชาใบแทนถุงชา เพราะถุงชาหลายยี่ห้อมีพลาสติกปนอยู่
- เปิดหน้าต่างระบายอากาศบ่อยๆ เพราะฝุ่นในบ้านก็มีไมโครพลาสติกด้วย
- ออกกำลังกายให้เหงื่อออก ช่วยขับสารพิษบางชนิดออกทางผิวหนัง
- ไปอบซาวน่าก็ได้ผลคล้ายๆ กัน
การวิจัยเรื่องไมโครพลาสติกยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่เรารู้แน่ๆ คือการกินอาหารที่หลากหลาย เน้นพืชผักผลไม้สีสันสดใส เต็มไปด้วยเส้นใยและสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลตัวเองในโลกที่เต็มไปด้วยพลาสติก
ภาพ: Shutterstock


 
         
           
                                 
             
                                                     
                                         
                                             
                                                 
                                                     
                                                         
                 
                 
                 
                 
                 
                