เดินทางมาถึงวันสุดท้ายของหน้าปฏิทิน แต่เหมือนเข็มนาฬิกาของใครบางคนอาจยังหยุดอยู่ในวันที่เราเจ็บปวดกับ ความรัก โดยไม่รู้ตัว ความรักที่ว่านี้อาจอยู่ในรูปแบบของการรักข้างเดียว รักคนที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ รวมไปถึงคนรักที่ใช้ชีวิตร่วมกันมา
แต่เราเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นความรักรูปแบบใด ความรู้สึกในวันที่ต้องทำใจยอมรับว่ารักนี้มันเป็นไปไม่ได้…จนต้องยอม ‘ปล่อย’ คงเป็นความรู้สึกเจ็บปวดตื้อในใจไม่แพ้กัน
สิ่งที่เราทำได้จากความรักที่ผ่านพ้นไปคือการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์นั้น แล้วนำมาเป็นเครื่องเตือนใจให้เราก้าวต่อไปในวันข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
วันนี้เราขอส่งท้ายปีกับ 5 บทเรียนจากความรักที่ต้องจำยอมปล่อยแก่ทุกคนที่ตัดสินใจเลือกทางนี้อย่างเข้มแข็ง คุณไม่ได้อยู่คนเดียว และคุณจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน
เจ็บแต่จบ ยังดีกว่ายื้อแล้วทรมาน
สิ่งที่เราควรบอกตัวเองอยู่เสมอคือ “มองปัจจุบันและความจริง” หากรู้แน่ชัดว่าคนตรงหน้าไม่สามารถจะเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเราไปตลอดชีวิตได้ก็ขอให้อย่าหลอกตัวเอง การเลือกเจ็บในวันนี้ยังดีกว่าการฝืนจนถึงวันที่ใจแตกสลายไปมากกว่านี้
เขาไม่รัก…ยังไม่แย่เท่าเราไม่รักตัวเอง
เราอาจได้ยินคำว่าคลั่งรักอยู่บ่อยๆ การคลั่งรักอาจดูเป็นเรื่องที่น่ารักในสายตาบางคน แต่การคลั่งรักจนเสียสติ ยอมทำอะไรที่ลดคุณค่าในตัวเอง คงไม่ดีแน่
หากรู้แน่ชัดว่าคนที่เรามีใจให้ไม่ได้คิดตรงกันกับเรา แม้จะทำทุกวิถีทางเพื่อชนะใจแล้ว ขอให้ก้าวออกมาด้วยใจที่ยอมรับความจริง บอกตัวเองว่าเราทำดีที่สุดแล้ว เชื่อสิว่าวันที่เจอคนที่ใช่…มันจะไม่ยากเลย
พบเพียงเพื่อสร้างความทรงจำดีๆ แก่กัน
คนที่เราอยากให้ใช่ คนที่เราอยากจะหยุดชีวิตไว้ อาจเป็นแค่คนที่เดินเข้ามาในชีวิตเพื่อสร้างความรู้สึกดีๆ และความทรงจำที่สวยงามก่อนเดินจากไป
บางครั้งคนพิเศษอาจไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบของคนรักเสมอไป เมื่อไรที่คิดถึง มองกลับไปแล้วยังยิ้มได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าขอบคุณเหมือนกันนะ
ไม่มีเวลา…ไม่มีจริง
การยุ่งมีจริง แต่การยุ่งจนไม่มีเวลาแม้แต่เสี้ยววินาทีให้นั้นไม่มีจริง…หากคุณสำคัญพอ ย้อนกลับไปอ่านใหม่
ยังลืมไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นอะไร
อย่าโทษตัวเองที่ลืมยาก อย่าโทษตัวเองที่อ่อนแอ มนุษย์เราถูกสร้างมาไม่เหมือนกัน จะคาดหวังให้หัวใจเราแข็งแรงเท่ากันหมดได้อย่างไร
ให้เวลาตัวเองได้เยียวยา ได้ร้องไห้ให้พอ แล้วในวันที่พร้อม…คุณจะลุกขึ้นมาด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีใครบอกเลย