เมื่อพื้นแผ่นดินสั่นไหว ความกลัวมักมาเยือนเป็นสิ่งแรก แผ่นดินไหวครั้งนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับหลายคนอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่หากมองให้ลึก เหตุการณ์นี้คือบทเรียนล้ำค่าที่ทำให้เราเลเวลอัพและใช้ชีวิตให้มีความหมายมากขึ้นได้ เช่น การรู้จักมีสติสัมปชัญญะ รู้คุณค่าของการเปลี่ยนความกลัวเป็นพลัง ได้ Upskill การเอาตัวรอดที่ไม่เคยเจอมาก่อน รวมถึงการได้เห็นพลังของการช่วยเหลือกันในยามวิกฤต
LIFE อยากให้ทุกคนจดจำบทเรียนนี้เอาไว้ และเรียนรู้คุณค่าของปัจจุบัน หากในอนาคตเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก อย่างน้อยเราก็เคยมีบทเรียนที่สอนเรา และเราสามารถใช้องค์ความรู้ที่สะสมจากประสบการณ์ครั้งนี้ในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างมีสติต่อไป
1. ได้เรียนรู้การมีสติ
แผ่นดินไหวบังคับให้เราจำเป็นต้องมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะอย่างแท้จริง เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน สติคือเครื่องมือสำคัญที่สุด การฝึกจิตให้สงบท่ามกลางความวุ่นวายช่วยให้เราตัดสินใจได้ชัดเจนและรวดเร็ว หลังผ่านประสบการณ์นี้ เราจะเห็นคุณค่าของการฝึกสติในชีวิตประจำวัน และสามารถนำมาใช้รับมือกับความเครียดในสถานการณ์อื่นๆ ได้ดีขึ้น
2. รู้คุณค่าของปัจจุบัน
ในช่วงเวลาที่พื้นดินสั่นไหว หลายคนเกิดการตระหนักรู้อย่างลึกซึ้ง ได้เห็นแก่นแท้ของตัวเอง สัมผัสความกลัวที่แท้จริง และค้นพบว่าอะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต เมื่ออยู่ท่ามกลางความเป็นความตาย เรามักนึกถึงใครบางคนเป็นอันดับแรก อาจเป็นลูก คู่ชีวิต พ่อแม่ หรือเพื่อนที่เราผูกพัน คนที่เราจะโทรหาทันทีหลังเหตุการณ์ผ่านพ้น คนที่เราต้องการให้รู้ว่าเรายังปลอดภัย เราได้เรียนรู้ว่าไม่ใช่ทรัพย์สิน ไม่ใช่หน้าที่การงาน แต่เป็นสายใยความสัมพันธ์ที่เรายึดไว้ยามวิกฤต
ในวินาทีนั้น เราเข้าใจอย่างชัดเจนว่าทรัพย์สมบัติที่แท้จริงคือช่วงเวลาแห่งความรัก ความทรงจำดีๆ และสายสัมพันธ์ที่เราสร้างมาตลอดชีวิต เราต่างได้เรียนรู้ว่าหลังเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ความสำคัญของปัจจุบันขณะปรากฏชัดเจน เมื่อทุกอย่างที่คิดว่ามั่นคงยังสามารถสั่นไหวสะเทือนได้ เราควรเริ่มมองเห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ตรงหน้า ดราม่าเล็กๆ ที่เคยทำให้เราทริกเกอร์กลายเป็นเรื่องไม่สำคัญ เราเริ่มให้คุณค่ากับความสัมพันธ์และโฟกัสกับสิ่งที่ส่งผลกับชีวิตเราจริงๆ
3. เปลี่ยนความกลัวเป็นพลังบูสต์ตัวเอง
ความกลัวตอนแผ่นดินไหวเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่หลังผ่านช่วงนั้นมาได้ เราสามารถใช้ความรู้สึกนี้ให้เป็นแรงผลักดันตัวเองไปข้างหน้า เมื่อเรารู้ว่าผ่านวิกฤตนี้ได้ ความมั่นใจจะเพิ่มขึ้น และเราจะพบว่าตัวเองแกร่งกว่าที่คิด
4. สร้างภูมิคุ้มกันใจให้แกร่ง
การมีความแกร่งไม่ได้หมายถึงไม่กลัวหรือไม่เครียด แต่คือการรีบาวด์ให้เร็วเมื่อเจอปัญหา การผ่านแผ่นดินไหวมาได้สร้างความเชื่อว่าเราจัดการกับความท้าทายได้ ทุกครั้งที่เราเอาชนะความกลัว เรื่องหนักใจอื่นๆ ในชีวิตก็จะรับมือได้ง่ายขึ้น
5. ได้ Upskill การเอาตัวรอดที่เคยเจอกับตัวเอง
แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นที่อื่นอาจทำให้เรารับรู้ข่าว แต่ไม่ทราบว่าผลกระทบจริงเป็นอย่างไร แต่พอเกิดขึ้นกับตัวเราเองเป็นครั้งแรก มันทำให้เราสนใจวิธีเอาตัวรอดที่ไม่เคยคิดมาก่อน เช่น การเตรียม Survival Bag ที่มีของจำเป็น รู้จุดเซฟในบ้านและที่ทำงาน และรู้วิธีอพยพอย่างรวดเร็ว หากมีลูกหรือเด็กเล็ก ถือโอกาสนี้สอนวิธีรับมือทั้งแนวปฏิบัติและการสร้างความเข้มแข็งทางใจให้เด็กๆ ความรู้เหล่านี้ช่วยปกป้องทั้งตัวเองและคนในครอบครัว
6. พลังของการร่วมมือในยามวิกฤต
แผ่นดินไหวทำให้เห็นความสำคัญของการช่วยเหลือกันและกัน เมื่อระบบปกติล้มเหลว การพึ่งพากันระหว่างเพื่อนบ้านกลายเป็นพลังบวกได้ ทำให้เราผ่านพ้นความยากลำบากไปด้วยกัน และเยียวยาบาดแผลทางใจได้เร็วขึ้น