ถ้าอุณหภูมิของโลกลดลงสัก 1.5 องศาเซลเซียสได้ง่ายๆ เท่ากับการมีร้านอาหารเพิ่มขึ้นบนโลกนี้ทุกวันๆ ก็คงดี และเพื่อทำมิชชันนี้ให้สำเร็จ (แม้ว่าโลกจะอุณหภูมิสูงทะลุเป้าไปเสียแล้ว) ร้านอาหารแห่งใหม่ในมุมลึกย่านลาดพร้าว Et 1.5 จึงตั้งใจลงมือทำให้จริงจังและดังกว่าที่ผ่านมา ด้วยการชูเมนูอาหารที่พวกเขาทำเพื่อช่วยโลกเป็นคอนเซปต์ และแน่นอนว่าถ้าหากทุกคนมากินก็จะช่วยโลกได้ไม่มากก็น้อยเช่นกัน

The Vibe

​​

Et 1.5 เป็นร้านอาหารฟีลยุโรปชนบทที่ซ่อนอยู่ในย่านลาดพร้าว ด้วยความที่ตั้งใจเป็นทั้งร้านบรันช์และดินเนอร์ที่เข้าถึงง่าย (ตรงข้ามกับเมนูอาหาร) พวกเขาจึงเลือกตกแต่งร้านให้อบอุ่นดูเฟรนด์ลี เหมาะกับการแวะมานั่งกินมื้อสายหรือมื้อค่ำ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายถ่ายรูปหรือสายกินก็ตาม

และไม่ต้องตกใจหากเดินเข้ามาแล้วเจอเจ้าไก่ขนปุกปุยเดินขุดคุ้ยไปทั่ว เพราะนั่นคือผู้เบ่งไข่สดๆ ใหม่ๆ มาให้เจ้าของร้านใช้เสิร์ฟในเมนูอาหารให้ทุกคนชิม

The Taste

เมนูอาหารที่ Et 1.5 เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น วัตถุดิบที่ยังมีประโยชน์ หรือโปรตีนทดแทน นำมาเปลี่ยนเป็นอาหารไร้สัญชาติที่หน้าตาสวยงาม น่ากิน เพราะที่นี่ตั้งใจเป็น Climate Restaurant ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และถึงแม้หลายคนจะไม่รู้สึกว่าเป็นส่ิงใหม่ แต่เชื่อเราเถอะว่ามีอีกหลายคนที่ยังไม่อินกับอาหาร Zero Waste แบบนี้อยู่ดี

“สิ่งที่เราทำหลายๆ อย่าง เราเริ่มทำมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่เราไม่เคยพูดว่าเราทำอะไรบ้าง และเราไม่เคยซีเรียสมากขนาดนี้ แต่เราก็ไม่ได้ไปซ้ายสุดหรือขวาสุด ก็มีใช้ของอิมพอร์ตบ้าง ใช้ของจากชุมชนบ้าง หรือใช้ของที่เราเองมีอยู่แล้วด้วย” เจ้าของร้าน Et 1.5 บอก

เมนูที่ร้านจึงแบ่งเป็น 2 พาร์ต คือ ตอนกลางวันที่เรามาชิมวันนี้ กับตอนกลางคืนที่เจ้าของร้านบอกว่าจะเป็นเมนูที่โหดกว่านี้เยอะจนคนไทยอาจไม่อิน เช่น ยอกกีที่ทำจากแป้งแมลง

Turkish Eggs from House Hens, Lao Kaipen (280 บาท) เป็นเมนูอาหารเช้าที่ส่วนผสมเป็นวัตถุดิบธรรมดาๆ แต่ทำออกมาให้รสชาติดี ด้วยการใช้ไข่ไก่เต็มฟองจากไก่ที่เลี้ยงเอง กินคู่กับสาหร่ายลาว ชีส และโยเกิร์ตที่ร้านทำเองวันต่อวันด้วยนมที่รับมาจากชาวอินเดียย่านพาหุรัด ส่วนขนมปังเป็นส่วนที่ร้านอื่นๆ ไม่ใช้และนำมาฟรีซ Et 1.5 จึงนำมาเปลี่ยนเป็นขนมปังกรอบๆ จิ้มกับชีสและไข่

Spirulina, Kale and Pea Pesto with Paneer Steak and Arancini (390 บาท) เป็นเมนูที่เราชอบ ข้าวกรอบๆ เข้ากับชีสรสนัวๆ และซอสสีเขียว โดยร้านทำชีสพาเนียร์เองด้วยนมจากเจ้าเดิม กินคู่กับรีซอตโตบอลผสมสไปรูลิน่าที่เป็นโปรตีนทดแทน ส่วนด้านล่างคือเพสโต้ทำจากถั่วและเคล

Pan Fried Halibut on Deep Khao Kaan Tapenade (380 บาท) จานเนื้อสัตว์ที่ใช้ปลาจากชาวประมงท้องถิ่นเล็กๆ ในจังหวัดภูเก็ต ด้านล่างเป็นสเปรดสไตล์ฝรั่งเศสที่ใช้ ‘เถาคัน’ ผักไทยท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราชแทน เป็นจานเบาๆ ที่แอบสดชื่น ไม่หนักจนเลี่ยน

“ตอนนี้ผมไม่สนคำว่าออร์แกนิกแล้ว เพราะสิ่งที่ทำอยู่มันเลยไปมากแล้ว ผมสนแค่เราสามารถช่วยทำอะไรได้บ้างมากกว่า ถ้าจะให้ชาวบ้านหันมาทำออร์แกนิกแล้วเราไปซื้อ ผมว่ามันไม่ใช่เรื่อง ผมสนแค่เราช่วยอะไรเขาได้บ้าง ผมสนแค่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม”

Good for

น่าแปลกใจที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจอาหารสไตล์นี้มากเท่าคนต่างชาติ เพราะเจ้าของร้านเคยเปิดร้านคอนเซปต์นี้ที่ Flea Market แต่กลายเป็นว่าคนที่ซื้อส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทย พอมาเปิดร้านนี้ พวกเขาจึงพยายามทำให้หลายๆ อย่างเข้าใจง่ายขึ้น เฟรนด์ลีมากขึ้น และยังช่วยลดขยะอาหารในอุตสาหกรรมเหมือนเดิม ทุกเมนูจึงดีทั้งหน้าตา รสชาติ และไม่ฝืนเกินไปจนทุกคนรู้สึกอึดอัด

“ถ้าถามว่าเสี่ยงไหม (ที่เปิดร้านแนวนี้) มันก็เสี่ยง แต่เราคิดว่ามันต้องมีคนพูด ไม่งั้นอีก 5 ปี 10 ปี ก็จะไม่มีคนพูด แต่เมนูอาหารเราก็ทำให้ดูดี ถ่ายรูปสวย กินง่าย เพื่อให้คนรู้ว่าอาหารที่มันอาจดูไม่มีค่า มันเอามาทำแบบนี้ได้นะ”

Et 1.5

Address: ซอยลาดพร้าว 1 แยก 10

Open: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00-16.00 น. (เฉพาะช่วง Soft Opening)

Contact: Et 1.5

Budget: 300-500 บาท

Map: