เราคนหนึ่งที่ตื่นเต้นพอรู้ว่าแบรนด์โรงแรมไทยอย่าง ดุสิตธานี มาเปิดโลเคชันแรกในประเทศญี่ปุ่น แถมอยู่ในเมืองเกียวโตที่เต็มไปด้วยความเก่าแก่ ดั้งเดิม และเป็นเมืองโปรดของหลายๆ คนด้วย แม้แต่เราที่เคยไปครั้งแรกยังสนุกกับการเดินชมเมืองเลย
แต่สิ่งที่หลายคนน่าจะสงสัยใคร่รู้มากที่สุดตอนนี้ก็คือ ‘Dusit Thani Kyoto’ จะผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างไรบ้าง ด้านในโรงแรมมีอะไรน่าสนใจ และมีประสบการณ์แบบไหนรอทุกคนอยู่
วันนี้เราเลยจะมาเล่าให้ฟัง หลังจากบินไปนอนพักมา 3 วัน 2 คืนที่ Dusit Thani Kyoto โรงแรมแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่นของแบรนด์ดุสิตธานี
Why here?
สิ่งแรกที่เราชอบในการมาพักที่ Dusit Thani Kyoto คือโลเคชัน โรงแรมอยู่ในย่าน Gojo ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยว สามารถเดินเท้าไป Kyoto Tower และสถานีรถไฟเกียวโตได้ ประมาณ 10-15 นาทีถึง ซึ่งย่านนั้นถือเป็นย่านคึกคัก มีห้างสรรพสินค้า คาเฟ่ ร้านอาหาร หรือใครมีแพลนนั่งรถไฟ JR ไปเที่ยวเมืองอื่นก็มาขึ้นได้ที่นี่
รอบๆ โรงแรม Dusit Thani Kyoto เองก็มีร้านน่าสนใจๆ เยอะเหมือนกัน จะเป็นร้านแนวเรโทร สไตล์ญี่ปุ่นโบราณๆ ทว่าหลายร้านอาจปิดเร็วสักหน่อย เพราะเป็นย่านที่อยู่อาศัย มีวัด (เดินจากโรงแรมได้ 6 นาที) และเคยเป็นเขตโรงเรียน ซึ่งตัวโรงแรม Dusit เองนี่แหละ ที่เคยเป็นอดีตโรงเรียนเก่า ก่อนนำมารีโนเวตใหม่ให้กลายเป็น Dusit Thani Kyoto
พูดถึงการตกแต่ง ด้านนอกโรงแรมจะเด่นด้วยการใช้ระแนงไม้แบบญี่ปุ่น เข้ามาจะพบล็อบบี้ที่ได้แรงบันดาลใจจาก ‘พวงมาลัย’ ของไทย ผสมกับศิลปะการจัดดอกไม้ ‘อิเคบานะ’ มองลงไปชั้นล่างจะพบสวนญี่ปุ่นใจกลางโรงแรมที่จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล น่าจะเป็นวิวที่หลายคนชอบที่สุด
ห้องพักอยู่ตั้งแต่ชั้น 1-4 มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสปา ชั้นล่างสุดเป็นสวน ห้องจัดอีเวนต์ และห้องอาหาร ได้แก่ Ayatana (อายะตานะ) ห้องอาหารเช้าที่จะกลายเป็นห้องอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งตอนกลางวันและเย็น ห้องนี้ได้เชฟโบ-เชฟดีแลน แห่ง Bo.lan มาช่วยดูแลเมนูทั้งหมด โดยเน้นใช้วัตถุดิบญี่ปุ่นผสมวัตถุดิบไทย เสิร์ฟรสชาติอย่างไทย ไฮไลต์คือการใช้กะทิคั้นสดจากลูกมะพร้าวที่ทำเองทุกวัน เช่นเดียวกับ Kati (กะทิ) ร้านขนมไทยที่เน้นใช้วัตถุดิบจากมะพร้าว
ห้องอาหาร Ayatana (อายะตานะ)
ห้องอาหารเทปปันยากิ Kōyō (โคโย)
บาร์ค็อกเทล Den Kyoto (เด็น เกียวโต)
พื้นที่จัดพิธีชงชาญี่ปุ่น Tea Salon (ที ซาลอน)
การแสดงรำไมโกะ (Maiko Dance)
The Gallery (เดอะ แกลเลอรี) พื้นที่จิบชายามบ่ายและของฝาก
Kōyō (โคโย) เป็นห้องอาหารเทปปันยากิสไตล์ Chef’s Table เมื่อกินเสร็จสามารถเดินทะลุไปบาร์ค็อกเทล Den Kyoto (เด็น เกียวโต) ได้เลย ส่วนบนชั้นล็อบบี้จะมี Tea Salon (ที ซาลอน) อีกไฮไลต์ของโรงแรม ทุกคนนั่งจิบชา ชมพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมได้ที่นี่ ซึ่งตรงนี้จะมี The Gallery (เดอะ แกลเลอรี) พื้นที่สำหรับนั่งจิบ Afternoon Tea ด้วย
ห้องพักที่เรานอนเป็น Premier Garden View มีเฉพาะบนชั้น 1 (ชั้นล็อบบี้) แต่เงียบสงบ เพราะแยกกันคนละส่วน ถ้าใครอยากได้ห้องวิวสวนญี่ปุ่นและไม่ต้องกดลิฟต์บ่อยๆ ให้เลือกห้องชั้นนี้ โดยทุกห้องจะมีของตกแต่งที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการจับจีบสไบและกิโมโน มีอ่างแช่น้ำแบบญี่ปุ่น และมีความสงบเรียบง่ายที่รับรองว่าหลับสนิท
ส่วนห้องไฮไลต์ที่สุดคือ Imperial Suite อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม มีห้องเดียวและขนาดใหญ่ 173 ตารางเมตร เพราะมีครบทุกอย่าง โดยเฉพาะมองเห็นวิว Kyoto Tower ได้เลยจากหน้าต่างห้อง
ห้อง Deluxe Suite
ห้อง Premier Suite
Worth it
Dusit Thani Kyoto เป็นโลเคชันแรกของเครือดุสิตธานีในประเทศญี่ปุ่น เราชอบการออกแบบที่ยังมีความเป็นไทย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นญี่ปุ่นด้วย เพราะโรงแรมตั้งใจอยากเป็นส่วนหนึ่งของย่าน และไม่ใช่แค่ตัวโรงแรมเท่านั้น Dusit Thani Kyoto มีการทำงานร่วมกับเกษตรกรท้องถิ่นอีก เช่น ใบชาที่ใช้ในโรงแรมเป็นใบชาออร์แกนิกจากไร่ของโรงแรมเอง ซึ่งปลูกโดยชาวญี่ปุ่น หรือผักบางชนิดก็มาจากไร่ออร์แกนิกโดยชาวญี่ปุ่นเช่นกัน
ไร่ชาออร์แกนิกของโรงแรม
ฟาร์มผักออร์แกนิกท้องถิ่น
Good for
จากที่พูดมาทั้งหมด เราว่าถ้าใครชอบนอนพักโรงแรมที่สงบ เรียบง่าย มีความหรูหรา น่าคุ้นเคย หรืออยากพักในย่านที่ไม่พลุกพล่าน แต่ก็เดินไปเที่ยวสะดวก เราว่า Dusit Thani Kyoto เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
เพราะอย่างเรานอนพักแค่ 3 วัน 2 คืน ลองไปเดินเที่ยวรอบๆ โรงแรมก็รู้สึกสนุกแล้ว แถวนั้นมีทั้งร้านแกงกะหรี่ อิซากายะ เบเกอรี คาเฟ่ ร้านสาเก ดองกิโฮเต้ หรือแม้กระทั่งเดินไปย่าน Pontocho และ Gion ที่มีบ้านโบราณ วัดเก่าๆ หรือบาร์เจ๋งๆ ก็สามารถทำได้ ถ้าหากคุณชอบเดินน่ะนะ
วัด Nishi Hongan-ji ด้านหลังโรงแรม
ทางเดินไปวัด Nishi Hongan-ji
วัด Higashi Hongan-ji ห่างจากโรงแรม 6 นาที
ระหว่างเดินจากโรงแรมไป Kyoto Tower ผ่านวัด Higashi Hongan-ji
Dusit Thani Kyoto
Location: เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
Budget: เริ่มต้นคืนละ 10,000 บาทต่อห้อง
Contact: www.dusit.com/dusitthani-kyoto/
Map:
- ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน Japan Airlines ลงที่สนามบิน Kansai International Airport และนั่งรถบัสของ White Glove Service ไป-กลับสนามบินกับเมืองเกียวโต