การล้างหน้าคือกิจวัตรประจำวันที่สำคัญ แต่หลายคนยังเข้าใจผิดและล้างหน้าไม่ถูกวิธี ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาผิวได้ ล่าสุดนี้ พญ.โยชิคิ โนบุโกะ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณจากประเทศญี่ปุ่น ได้เผยถึงความเข้าใจผิดและวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องผ่านหนังสือของเธอ เพื่อให้การล้างหน้าทำความสะอาดผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
ล้างหน้าแค่วันละครั้งตอนเช้าด้วยน้ำเปล่า: ผิดมหันต์
หากไม่ล้างหน้าให้สะอาดอย่างถูกวิธี น้ำมันและสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิวไม่เพียงจะนำไปสู่ปัญหาสิว แต่ยังทำให้ผิวแก่ก่อนวัยอีกด้วย
ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว และล้างมากขึ้นเมื่อออกกำลังกายหรือมีเหงื่อมาก
ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเหมือนกันหมด ใช้อะไรก็ได้: ไม่จริงเลย
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวผสม ผิวมัน หรือผิวแพ้ง่าย
เริ่มล้างหน้าจากจุดไหนก่อนก็ได้: ไม่ควรเลย
พญ.โยชิคิ แนะนำว่า ควรเริ่มล้างจากบริเวณ T-Zone ได้แก่ หน้าผากและจมูก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความมันมากที่สุด จากนั้นจึงค่อยไป U-Zone ซึ่งได้แก่ บริเวณแก้มและคาง
ลูบโฟมแป๊บเดียวก็ล้างออกได้แล้ว: แค่นี้ไม่พอหรอก
ดร.เมห์เมต ออซ ศาสตราจารย์จาก Columbia University ระบุว่า ควรนวดผลิตภัณฑ์บนผิวอย่างน้อย 20 วินาทีสำหรับผิวธรรมดา-ผิวแห้ง และ 30 วินาทีสำหรับผิวมัน
ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นช่วยลดขนาดรูขุมขน: ไม่จำเป็นเสมอไป
การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นจัดอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ ใช้น้ำสะอาดอุณหภูมิปกติล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง และล้างมากขึ้นเมื่อมีเหงื่อมากจากการทำกิจกรรม
เจนนิเฟอร์ เฮลีย์ ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังที่ได้รับการรับรองจากเมืองสกอตส์เดล รัฐแอริโซนา บอกว่า การล้างเครื่องสำอาง สิ่งสกปรก และคราบไคล จากกิจกรรมตลอดทั้งวันออก จะช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงยามค่ำคืนได้ดีที่สุด
อีกเรื่องที่สำคัญคือ การเลือกใช้อุณหภูมิของน้ำล้างหน้าที่พอดี ไม่เย็นไปหรือร้อนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวระคายเคือง