×

แชร์ประสบการณ์เล่นสกีและสโนว์บอร์ดครั้งแรกที่ฮอกไกโดกับ Club Med Tomamu

04.02.2024
  • LOADING...
Club Med Tomamu

HIGHLIGHTS

  • วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์เล่นสกีและสโนว์บอร์ดครั้งแรกให้ฟัง เผื่อว่าใครกำลังตัดสินใจอยากลองไปเล่นหิมะที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนอันไหนจะสนุกกว่า อันไหนยากกว่า และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เราจะบอกเดี๋ยวนี้เลย

เราเคยพาทุกคนไปนอนพักที่รีสอร์ต ‘Club Med Tomamu’ ในฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น กันไปแล้ว รอบนี้เราจึงอยากพาเพื่อนๆ ไปเล่นสกีและสโนว์บอร์ดกันบ้าง เพราะเชื่อว่านี่ต้องเป็นความฝันของใครหลายๆ คนที่อยากลองหนีอากาศร้อนๆ ไปเจอหิมะ แล้วสไลด์ลงมารับลมเย็นๆ จนหนาวตัวสั่น

 

วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์เล่นสกีและสโนว์บอร์ดครั้งแรกให้ฟัง เผื่อว่าใครกำลังตัดสินใจอยากลองไปเล่นหิมะที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนอันไหนจะสนุกกว่า อันไหนยากกว่า และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เราจะบอกเดี๋ยวนี้เลย

 

อันดับแรก ประสบการณ์เล่นสกีและสโนว์บอร์ดของเราเป็นศูนย์ แต่คนรอบตัวส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “สโนว์บอร์ดยากกว่ามาก” พอต้องเลือกคลาสฝึกระหว่าง 2 สิ่งนี้ เราจึงตอบรีสอร์ตไปอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ขอเล่นสโนว์บอร์ดค่ะ!”

 

ถ้าถามว่าเพราะอะไร เหตุผลก็ฟังง่ายมากๆ เพราะมันดูเท่กว่า เหมือนในหนังสารคดีสักเรื่องที่เคยดูตอนเด็ก

 

ทริปนี้เรานอนพักที่สกีรีสอร์ต Club Med Tomamu รีสอร์ตจะมีทุกอย่างให้พร้อม เราแค่แวะไปเลือกไซส์รองเท้า วัดขนาดอุปกรณ์ต่างๆ แล้วของทั้งหมดจะไปนอนรอเราอยู่ในล็อกเกอร์ตามเบอร์ห้อง ส่วนชุดเล่นสกี / สโนว์บอร์ดจะมีให้เช่า แว่นและถุงมือซื้อได้ที่ร้านค้าอุปกรณ์สกีในรีสอร์ต แต่หากใครมีอุปกรณ์ของตัวเองก็ไม่ต้องผ่านขั้นตอนเหล่านี้ สามารถใส่อุปกรณ์ของตัวเองไปที่ลานหิมะได้เลย

 

 

ส่วนเครื่องแต่งกายด้านในชุดเล่นสกี / สโนว์บอร์ด เราแนะนำว่าใส่เสื้อแขนยาวอุ่นๆ กับเลกกิ้งหรือกางเกงแนบเนื้อที่ขยับได้สะดวก เพราะกีฬา 2 ชนิดนี้ค่อนข้างเอ็กซ์ตรีม โดยเฉพาะเวลาล้ม…

 

ถ้าเป็นมือใหม่ Level 1 เราว่าการมีผู้ฝึกสอนจะทำให้เล่นเป็นเร็ว (มาก) และปลอดภัยด้วย อย่าลืมว่ากีฬาบนหิมะค่อนข้างลื่นและอันตรายพอสมควร การมีผู้ฝึกสอนคอยช่วยจะอุ่นใจกว่า ส่วนต้องเรียนนานเท่าไร อย่างเราเรียนแค่คลาสเดียว (ประมาณ 3-4 ชั่วโมง) ก็สามารถสไลด์ลงเนินต่ำๆ ให้รู้สึกเท่ได้แล้ว โดย Club Med จะมีคลาสเรียนจริงจังให้พร้อมผู้ฝึกสอน มีการแบ่งตามระดับของผู้เล่น และสามารถเรียนเป็นกลุ่มหรือแบบส่วนตัวก็ได้ 

 

อีกอย่างที่เราว่าดีก็คือ ผู้ฝึกสอนของที่นี่มีประสบการณ์ ใจเย็น อธิบายให้เราเข้าใจง่าย และสามารถทำตามได้เลย โดยคลาสจะมีทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น ทุกคนสามารถลงชื่อเล่นได้ทั้งวัน หลังจากเข้าคลาสเช้าก็เบรกไปกินข้าว แล้วค่อยกลับมาอีกครั้งตอนบ่ายก็ได้ ถ้าหากแรงยังไหว

 

ส่วนอะไรยากกว่ากัน? เราขอตอบว่าน่าจะแล้วแต่ความชอบและร่างกายของแต่ละคน เพราะเราได้ลองเล่นทั้ง 2 อย่าง ก็ขอยืนยันว่า สโนว์บอร์ดง่ายกว่ามากๆ! แต่เพื่อความยุติธรรมจะรีวิวทั้ง 2 อย่างให้ฟังแบบแฟร์ๆ

 

 

สโนว์บอร์ด: ต้องใช้บาลานซ์และกำลังขาเยอะกว่ามากๆ เพราะทุกคนต้องย่อตัว บิดตัว เพื่อให้บอร์ดสไลด์ไปตามที่เราต้องการ โดยที่เราเองไม่ล้ม ต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนที่ไม่คุ้นในการเบรก แต่พอจับทริกได้ตามที่ผู้ฝึกสอนบอก ทุกอย่างจะไม่ยาก เราแค่ต้องคุมความเร็วและเบรกให้ตัวไม่กระเด็นตีลังกาไปข้างหน้าให้ได้ก็พอ

 

 

สกี: ต้องใช้สมาธิสูงมาก มือและเท้าต้องสามัคคีกัน รวมถึงการควบคุมร่างกายและข้อเท้าให้ชี้ไปในทิศทางที่เราต้องการด้วย และการเบรก การเลี้ยว การเร่งความเร็ว เราว่าใช้แรงจากข้อเท้าและต้นขาเยอะมากเลย 

 

 

แต่การเล่นสกีจะเหนื่อยน้อยกว่าตรงที่เราเคลื่อนไหวสะดวก สามารถเดินขึ้นเนินได้เลยโดยไม่ต้องถอดอุปกรณ์ แต่หากเป็นสโนว์บอร์ด ทุกคนต้องถอดและใส่ใหม่ทุกครั้ง

 

 

หวังว่าประสบการณ์ของเราจะเป็นประโยชน์สำหรับใครก็ตามที่กำลังวางแผนไปเล่นสกี / สโนว์บอร์ดนะ

 

แต่ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ เราก็จะเลือกเล่นสโนว์บอร์ดเหมือนเดิม!

 

บทความที่เกี่ยวข้อง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X