หากจะมีเหตุผลดีๆ สักข้อให้บินลัดฟ้าสู่มาเก๊าเพื่อสัมผัสชีวิต ‘กินหรู อยู่ดีแบบเหนือระดับ’ การไปเช็กอินที่ Wynn Palace คือคำตอบที่ใช่แบบไม่มีข้อกังขา




แต่ทริปนี้จะยิ่งพิเศษขึ้นไปอีกหากคุณเป็นนักชิมที่มองหาประสบการณ์หายาก เฉกเช่นมื้ออาหารรูปแบบ Four-hands โดย ‘Chef Tam’s Seasons x Lamdre’ ที่เรามีโอกาสได้ไปสัมผัสในครั้งนี้

1. 譚卉 Chef Tam’s Seasons
นี่คือการโคจรมาพบกันของสอง Chef of the Year ระหว่างเจ้าบ้านอย่าง Chef Tam Kwok Fung แห่ง Chef Tam’s Seasons ร้านอาหารจีนกวางตุ้งนิยามใหม่ระดับ 2 ดาวมิชลิน และ Chef Dai Jun จาก Lamdre ร้านอาหารแพลนต์เบสระดับ 2 ดาวมิชลินจากปักกิ่ง

เมื่อโจทย์ของมื้อนี้คือ อาหารแพลนต์เบส หลายคนอาจติดภาพจำของรสชาติที่จืดชืดหรือน่าเบื่อ แต่ขอให้เชื่อเถอะว่า เมื่อวัตถุดิบพืชพรรณผ่านมือเชฟระดับโลกคู่นี้แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ทั้งรสชาติและหน้าตาจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
The Vibe
เพียงก้าวแรกที่เดินเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงความหรูหราสไตล์ ‘Artistic Luxury’ ที่ดึงเอาความงามของธรรมชาติมาถ่ายทอดผ่านงานแก้วและโมเสก คุมโทนสีเบจและทองอ่อน สะท้อนกลิ่นอายดีเอ็นเอของ Wynn Palace ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงวัตถุดิบชั้นเลิศที่จะถูกนำมารังสรรค์ในมื้อพิเศษนี้ ซึ่งทุกรายละเอียดที่เราเห็นล้วนเป็นเครื่องยืนยันชั้นดีว่า เรากำลังจะได้สัมผัสกับความพิถีพิถันและความละเมียดละไมขั้นสุด

The Taste
ลองส่องเมนูแล้วพบว่าวันนี้มีด้วยกันถึง 6 คอร์สที่แลดูเฮลตี้ไปหมด และยังมีไฮไลต์เป็นการแพริ่งกับเครื่องดื่มคุณภาพเยี่ยมสัญชาติจีนจาก Domaine des Arômes ที่จะมาช่วยเสริมรสชาติในแต่ละจานให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

เปิดต่อมรับรสด้วย Sunflower จานที่ตกแต่งมาอย่างสวยงาม สะท้อนกลิ่นอายฤดูใบไม้ร่วงของปักกิ่งผ่านเลเยอร์ของขนมฮอว์ธอร์น แอปเปิ้ลเขียว และพูเรข้าวโพดหวานที่ซ่อนอยู่ในแป้งทาร์ตงาดำ
ความหวานละมุนของเนื้อข้าวโพดถูกตัดรสด้วยความเปรี้ยวอมหวานอันสดชื่นของผลไม้ ยิ่งกินพร้อมเมล็ดทานตะวันคั่วเกลือและงาขี้ม่อนก็ยิ่งเพิ่มความหอมมัน เคี้ยวเพลิน

เพิ่มความอุ่นสบายท้องด้วย Arrowroot Thick Soup ซุปข้นรสละมุนที่ทำจากแอร์โรวรูตคัดพิเศษจากตอนใต้ของจีน นำมาบดละเอียดและเคี่ยวร่วมกับน้ำสต็อกผักหลากชนิด ทั้งข้าวโพด ผักกาดขาว สาลี่ และถั่วงอก เพื่อดึงรสหวานธรรมชาติออกมาอย่างเต็มที่ แทรกด้วยเท็กซ์เจอร์กรุบกรอบของกะหล่ำปมและข้าวตัง เป็นจานที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษ

ต่อด้วย ‘Five’ – Roots จานที่สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยสีสันสวยงามราวกับขนมหวาน แต่แท้จริงแล้วคือ ‘หัวไชเท้า’ ที่เชฟคัดสรรมาจาก 5 มณฑลทั่วจีน เพื่อสืบสานธรรมเนียมการทานหัวไชเท้าในฤดูหนาว
มีตั้งแต่หัวไชเท้าสีเหลืองจากซินเจียง, แครอทผลไม้จากยูนนาน, หัวไชเท้าแดงจากซานตง, หัวไชเท้าเขียวจากเหอหนาน ไปจนถึงหัวไชเท้าไอศกรีมจากเทียนจิน

โดยเชฟนำแต่ละชิ้นไปปรุงแยกกันด้วยน้ำคั้นของตัวเอง ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความหวานฉ่ำและคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของแต่ละสายพันธุ์ได้อย่างชัดเจน

เติมคาร์บกันต่อกับ Potato (Two Ways) เมนูที่เสิร์ฟมันฝรั่ง 2 สไตล์ ส่วนแรกเป็นมูสเนื้อเนียนนุ่มจากผลหล่อฮังก๊วยสีทอง มันฝรั่ง และหัวลิลลี่ (Lily bulbs) อายุเก้าปี ปั่นรวมกันจนได้เนื้อสัมผัสเบาละมุน บรรจุมาในเปลือกไข่
ตักลึกลงไปจะเจอกับรสหวานธรรมชาติจากเม็ดบัวหิมะ เนื้อลำไย และมะกรูดดอง ท็อปด้วยผงกระวาน ส้มโอ และผิวมะนาว ให้กลิ่นหอมสดชื่นตัดเลี่ยน

ความตื่นเต้นอยู่ที่ส่วนที่สอง ซึ่งเสิร์ฟมาอย่างน่าค้นหาภายใต้ฝาหินที่แว้บแรกทุกคนต่างคิดว่าเป็นคุกกี้ขนาดใหญ่
ด้านในคือมันม่วงกุ้ยโจวที่ห่อหุ้มด้วย Edible Clay และเกลือ แล้วนำไปอบ สอดไส้ด้วยมันฝรั่งเหลืองและผักดองผัดน้ำมันดอกคามิเลีย ให้รสชาติเข้มข้นและมีมิติ

All About Soy จานนี้เรียกว่าสวรรค์ของคนรักเต้าหู้โดยแท้ เพราะเป็นการรวมตัวกันของเต้าหู้แห้ง, ฟองเต้าหู้, เต้าหู้ตุ๋นเกลือ, ฟองเต้าหู้หวาน และเต้าหู้อ่อนทอด ทำให้ทุกคำมีเท็กซ์เจอร์ที่ไม่ซ้ำกัน
ไฮไลต์คือต้องจิ้มกับซอสมิโซะมัสตาร์ดสูตรพิเศษรสชาติเข้มข้น แกล้มกับผักแล้วเข้ากันสุดๆ

ก่อนจะเข้าสู่ช่วงของหวาน เชฟยังทำเซอร์ไพรส์พวกเราด้วยเมนู Off-menu สุดพิเศษ เริ่มจากความหอมมันของ Eggplant ราดซอสงาดำ

และไฮไลต์อย่างข้าวผัดที่ยกมาปรุงกันสดๆ ถึงข้างโต๊ะ ทีเด็ดอยู่ที่เทคนิคการทำ ‘ข้าวตัง’ ก้นหม้อที่เกรียมกำลังดี ตักเสิร์ฟให้เคี้ยวกรุบกรอบเพลินปาก ถือเป็นการส่งท้ายของคาวที่น่าประทับใจจริงๆ

และแล้วก็เดินทางถึงบทสรุปของมื้อกับ Dessert Trio ที่เสิร์ฟความฟินมาถึง 3 สไตล์ เริ่มจาก Rice Koji ไอศกรีมนมควายผสมสาหร่ายและข้าวหมักรสเค็มนัว ท็อปด้วยไวท์ทรัฟเฟิลสไลซ์สดหอมฟุ้งเข้ากันอย่างเหลือเชื่อ ต่อด้วย Deep-fried Mochi โมจิทอดไส้กลวงคลุกถั่วและงาที่ให้สัมผัสกรอบนอกหนึบใน ก่อนจบด้วย Baked Pandan and Taro Sago Pudding พุดดิ้งเผือกกวางสีอบใบเตยและสาคูเสิร์ฟอุ่นๆ ที่เนื้อเนียนละมุนหอมอบอวลไปทั้งปาก

โดยความพิเศษยังไม่หมดแค่นั้น เพราะทางร้านยังมีกาแฟเวียดนามหอมๆ มาดริปให้ดื่มตัดรสหวานของขนม ถือเป็นการปิดจบมื้ออาหารที่น่าประทับใจอย่างสมบูรณ์แบบ

Good for
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารจีนในมิติใหม่ที่ถูกนำมาตีความอย่างลึกซึ้ง แนะนำให้ปักหมุดและคอยอัปเดตปฏิทินของ Chef Tam’s Seasons ไว้ให้ดี เพราะที่นี่มักจะสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการดึงเชฟระดับตำนานมาคอลแล็บอยู่เสมอ
หรือถ้าอดใจรอไม่ไหว จะแวะมาลิ้มลองห้องอาหารอื่นๆ ในโรงแรมก็การันตีว่าอร่อยคุ้มค่าทุกแคลอรีแน่นอน
Wynn Palace
Address: Avenida da Nave Desportiva, Cotai, Macau
Website: https://www.wynnresortsmacau.com/en/wynn-palace
Instagram:
Facebook: www.facebook.com/wynnpalace
Map: https://maps.app.goo.gl/6qKNNwy2THTNDqDp6
ภาพ: วริศรา ลิ้มอนันตระกูล, Wynn Macau


