ก่อนที่ ‘Sustainability’ จะกลายเป็นเทรนด์หลักของโลกอย่างทุกวันนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มการพัฒนาแบบยั่งยืน ในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภูเขาทุรกันดารทางภาคเหนือเคียงคู่กับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ต้องพึ่งพาป่าเพื่อความอยู่รอด หลายครอบครัวบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนเพื่อทำไร่เลื่อนลอย เพราะขาดที่ดินทำกินอย่างมั่นคง ผลคือป่าถูกทำลาย ต้นน้ำเสื่อมโทรม และความยากจนก็ยังคงวนเวียนไม่สิ้นสุด
จากพระราชดำริอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาและพระวิสัยทัศน์ ทรงมีพระราชประสงค์ให้ชาวบ้าน ‘อยู่ร่วมกับป่าได้ โดยไม่ต้องทำลายป่า’ ก่อเกิดเป็นโครงการที่มีชื่อเรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า ‘บ้านเล็กในป่าใหญ่’ โครงการฟื้นฟูป่าที่ไม่ได้แยกคนออกจากป่า แต่เป็นการสร้างระบบที่คนและธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันแบบเกื้อกูลกันอย่างสันติ และยั่งยืน
พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า
อยู่กับป่าได้ โดยไม่ต้องทำลายป่า
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ จัดตั้งโครงการแรกขึ้นที่ บ้านห้วยไม้หก อ. อมก๋อย จ. เชียงใหม่ พ. ศ. 2534 เป็นโครงการที่เริ่มขึ้นเพื่อจัดสรรที่อยู่อาศัยและทำกินให้แก่ราษฎรในพื้นที่ป่าและพื้นที่ทุรกันดาร โดยมีเป้าหมายสำคัญคือให้ ‘คนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน’ ทั้งในด้านคุณภาพชีวิตและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ผ่านหลักการ ‘3 อ.’ คือ อิ่ม มีอาหารและแหล่งโปรตีนที่เพียงพอ, อุ่น มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น และ อุดมการณ์ มีจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกับป่า ดูแลป่า ฟื้นฟูป่า
แนวคิดของพระองค์ไม่ใช่เพียง ‘ปลูกต้นไม้’ แต่คือการ ‘ปลูกวิถีชีวิตใหม่’ ให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างกลมกลืน ชาวบ้านแต่ละครอบครัวได้รับจัดสรรพื้นที่เล็กๆ สำหรับปลูกบ้านและทำกินรอบๆ ป่าไม้ที่พวกเขาช่วยกันดูแล เมื่อป่าฟื้น คนก็อยู่ได้ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่จึงไม่ใช่แค่โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแต่เป็นการออกแบบความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติใหม่ทั้งหมด เปรียบเสมือนบทเรียนแรกๆ ของ ‘การพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ได้ขยายไปยังหลายจังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันตก ไม่ว่าจะเป็น
- บ้านห้วยไม้หก อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่: หนึ่งในพื้นที่ต้นแบบที่วางรากฐานแนวคิดของโครงการ
- บ้านห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน: หมู่บ้านเลี้ยงแกะและทอผ้าขนแกะในโครงการศิลปาชีพ ซึ่งยังคงดำเนินต่อมาจนถึงวันนี้
- บ้านขุนแม่ละนา อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่: ชุมชนตัวอย่างที่พลิกพื้นที่เสื่อมโทรมให้กลับมาเขียวชอุ่มด้วยกาแฟและพืชท้องถิ่น
- บ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา: ศูนย์การเรียนรู้ด้านการปลูกป่าและเกษตรพอเพียง ที่ถ่ายทอดต่อให้คนรุ่นใหม่
ความยั่งยืนที่เริ่มจากความเข้าใจ
แม้แต่ละพื้นที่จะมีภูมิประเทศและวัฒนธรรมแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ‘การอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเข้าใจ’ แนวคิดของพระพันปีหลวงยังคงสะท้อนหลายแนวคิดในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น Green Living, Circular Economy, หรือ Regenerative Design ซึ่งล้วนสอดคล้องกับสิ่งที่พระองค์ทรงวางรากฐานไว้อย่างเรียบง่าย
พระองค์ทรงแสดงให้เห็นว่า ‘ความยั่งยืน’ ไม่ได้เริ่มต้นจากเครื่องจักรหรือเทคโนโลยี แต่มาจากความเข้าใจในวิถีชีวิตของผู้คน ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงริเริ่ม จึงไม่ใช่เพียงการอนุรักษ์ แต่คือการพัฒนาด้วยใจ ที่ผสานมนุษย์และธรรมชาติให้เติบโตไปพร้อมกัน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ยังคงเติบโตอยู่ในความทรงจำของผู้คนในฐานะหนึ่งในพระราชกรณียกิจที่สะท้อนคำว่า ยั่งยืน ได้งดงามที่สุด
…เมื่อป่าหมดไปคนเราก็จะอยู่ไม่ได้ คนกับป่าจึงต้องอยู่ด้วยกัน คือคนคอยดูแลรักษาป่า และป่าก็จะอำนวยประโยชน์ให้แก่คน เป็นการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน…
พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง,
พระราชทานวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๔๓
ภาพ: Shutterstock, หอจดหมายเหตุแห่งชาติ


