เรื่องราวของหมอริว-นพ.อัครวินท์ ดำรงค์วัฒนโภคิน (ว.52239) เริ่มต้นจากครอบครัวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงการคลินิกความงามเลยแม้แต่น้อย
หมอริวเติบโตในครอบครัวทำธุรกิจก่อสร้าง ฮาร์ดแวร์ และพลาสติก ก่อนที่คุณแม่จอย-ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน จะได้รู้จักวงการคลินิกความงาม และได้ก่อตั้งคลินิก Romrawin ขึ้นร่วมกับคุณหมอฐา-ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล (ว.10656) และจุดนั้นได้จุดประกายให้หมอริวสัมผัสศาสตร์ผิวหนังและความงาม ซึ่งแตกต่างจากความเข้าใจเดิมๆ ที่มองว่าหมอผิวหนังรักษาเพียงโรคทั่วไป การได้เรียนรู้ด้านความงามจึงเป็นเหมือนการเปิดโลกใหม่
แม้ว่าในวงการนี้จะมีแพทย์หญิงและ LGBTQ เป็นส่วนใหญ่ แต่ประสบการณ์ที่สั่งสมก็ทำให้หมอริวได้เข้าใจถึงความต้องการของคนไข้ผู้หญิงอย่างลึกซึ้ง และการได้เห็นคนไข้มีผิวพรรณดี มีรอยยิ้มเมื่อส่องกระจกดูใบหน้าตัวเองหลังรับบริการ ก็ยิ่งต่อเติมแรงบันดาลใจและเป็นแรงผลักดันในการทำงานให้หมอริวมากขึ้น
ในมุมมองของหมอริว ความงามนั้นหลากหลายมิติ ไม่ได้จำกัดแค่รูปลักษณ์ที่เห็น แต่ยังรวมถึงการเสริมเติมเสน่ห์โดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์ ควบคู่ไปกับการสร้างบุคลิกภาพที่โดดเด่น ซึ่งทั้งหมดนี้คือหัวใจของแนวคิด ‘For the Better You’ ที่ Romrawin ให้ความสำคัญกับการดูแลให้คุณดูดีขึ้นในแบบที่เป็นตัวเองอย่างแท้จริง
ติดตามเส้นทางชีวิตของหมอริวจากจุดเริ่มต้น สู่ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในโลกความงามของผู้หญิงได้ใน Passion Calling x Romrawin with Dr.Ryu
ช่วงแรกรับมือกับเคสคนไข้ผู้หญิงอย่างไร
หมอริว: จริงๆ ตอนแรกผมไม่ได้เลย เพราะว่าผมไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่พอมาเราอยู่ไปเรื่อยๆ เราเลยรู้ว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่ทุกคนต้องการมันคล้ายๆ กันคือ คำอธิบายและความเข้าใจ ดังนั้น ก่อนการรักษาอะไรเราจะให้เวลากับเขาเยอะๆ เพราะความเข้าใจที่เยอะมันนำไปสู่การที่เรารักษากันได้นานๆ
จากที่คุยมา Pain ของคนไข้ส่วนใหญ่คืออะไร
หมอริว: ง่ายๆ ทุกคนไม่อยากแก่ครับ สิ่งเดียวที่ทุกคนมาถึงคืออยากยกกระชับหมด ไม่ได้สนใจว่า คำว่ายกกระชับจริงๆ มันคืออะไร อีกอย่างหนึ่งคือชอบความเร็ว มาถึงทำอย่างไรก็ได้ให้ทำวันนี้สวยเลย แต่งานแต่ละงานมันไม่เหมือนกัน ยกกระชับบางตัวอาจจะได้ ส่วนใหญ่คนไข้ที่จะเป็นประเภทที่จะเอาไวๆ ก็จะมีกลุ่มหนึ่งที่หลุดไปทางศัลยกรรมเลย ก็จะไม่ได้อยู่อุตสาหกรรมนี้ ถ้าอุตสาหกรรมนี้คือ ยังอยากเป็นตัวเองอยู่ เปลี่ยนนิดหนึ่งแล้วมันดูดีขึ้น ดูเด็กลง
ทั้งสองศาสตร์ ผมว่ามันอยู่ในความต้องการของคนไม่เหมือนกันดีกว่าครับ มันไม่ใช่ว่าเขาเปลี่ยนไปเลยแล้วไม่ดี บางคนผมก็เห็นทำศัลยกรรมมาเปลี่ยนไปเลยแล้วสวยไปเลยก็มี ผมว่าเลือกแต่ละศาสตร์ให้เหมาะกับแต่ละคนดีกว่า ไม่มีถูกไม่มีผิด อยู่ที่ความชอบของเราเลย
ถ้าในเชิงหัตถการความงาม สิ่งที่ทำแล้วสวยทันทีมีไหม
หมอริว: มี ถ้ากลุ่มฉีด แน่นอน ทำปุ๊บสวยปั๊บ แต่ว่าถ้าเป็นกลุ่มพวกงานผิวอันนี้งานยากเพราะว่าใช้ระยะเวลา เหมือนปลูกต้นไม้ครับ วันนี้เราจะกระตุ้นให้คอลลาเจนมันสร้าง คอลลาเจนสร้างใช้เวลากี่วัน ไม่มีใครตอบได้ คนกินอาหารก็กินไม่เหมือนกัน คอลลาเจนจะสร้างก็ต้องอาศัยโปรตีน แล้วโปรตีนก็กินไม่เท่ากัน บางคนก็กินแต่แป้ง แล้วแต่การดูแลตัวเองด้วย
หมอริวคิดอย่างไรกับการมาทำแบบจัดเต็มฉีด ยกเครื่องทุกอย่างในวันเดียว
หมอริว: ผมจะไม่ค่อยชอบสไตล์นี้ ผมชอบอยู่กันไปนานๆ ดูกันไปนานๆ การที่มันเร่งอะไรบางอย่างไปมันอาจจะทำให้เกิดการทำอะไรที่มันเยอะเกินไปก็ได้ บางอย่างมันไม่ถึงเวลาที่ต้องทำ อย่างเวลาเติมฟิลเลอร์อาจจะเติมแค่ 2 หลอดก็สวยแล้ว แต่ในขณะเดียวกันที่เร่งกันมากๆ ก็ไปเติมกัน 4-10 หลอด มันก็จะเยอะเกิน
ส่วนตัวแล้วนิยามความสวยในแบบของหมอริวคืออะไร
หมอริว: ผมว่าความงามมันเป็นองค์ประกอบ และสิ่งที่ผมทำเป็นแค่หนึ่งในองค์ประกอบของคนคนหนึ่งเท่านั้นเอง บางคนเดินเข้ามาพูดจาน่ารักมากเลย ผมก็รู้สึกว่าสวยตั้งแต่ยังไม่ทันจะเริ่มทำอะไรแล้ว แล้วพอเขาหน้าสวยขึ้น เขาก็ยิ่งสวยขึ้นไปอีก ผมมีความรู้สึกว่าความงามมันเป็นแบบนั้น มันมีมุมมองให้มองหลายมุม ไม่ใช่มองมุมเดียวครับ ผมคิดว่าทุกคนเกิดมามีเอกลักษณ์นะ ไม่งั้นถ้าเหมือนกันหมด มันก็จำหน้ากันไม่ได้ ดังนั้นคือ ความสวยที่ยังเป็นตัวเองอยู่แล้วก็ไม่ได้ทิ้งลุคเดิมของตัวเองไป
จริงๆ ผมว่ามันมาจากตัว Core Branding เรามันคือ ‘For the Better You’ ตัวของเรา ผู้บริหารเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ถ้ายังไม่มาพูดถึงเรื่องของการทำหน้า เอาแค่เรื่องของว่าการพัฒนาตัวเองทุกวัน เราตื่นเช้ามาเราก็คิดแล้วว่าเราจะส่งใครไปเรียนดี ทำอย่างไรให้มันดีขึ้น จะพัฒนาอย่างไรให้หน้าร้านแข็งขึ้น ทำอย่างไรให้โปรดักต์ของเราดีขึ้น ผมว่าอันนี้เป็นหนึ่งในนิยามของ For the Better You อยู่แล้ว
แต่ว่าถ้าในเชิงความงามของ Romrawin ก็คือ คุณยังเป็นคุณอยู่แต่คุณดีขึ้นได้ทุกวัน เปลี่ยนนิดเดียวก็คือดีขึ้นแล้ว
หมอริวคิดว่าเทรนด์ของผู้บริโภคของยุคสมัยที่หมอริวเข้ามาทำแรกๆ เป็นอย่างไร
หมอริว: ตอนนั้นคู่แข่งไม่เยอะ ทุกคนยังอยู่ในยุคแห่งนิตยสาร แต่ในยุคนี้ด้วยความที่ข้อมูลมันเยอะมาก ลูกค้ามาก็จะแทบจะรู้อะไรหมดแล้วอะครับ อีกอย่างคือความไว สมัยก่อนรอได้ สมัยนี้รอไม่ได้
Romrawin ปรับตัวอย่างไรท่ามกลางสงครามคลินิกในตอนนี้
หมอริว: คือข้อดีของเราคือ เราไม่ค่อยไปปรับตัวตามใคร เราปรับตัวตามสังคมนะ หมายถึงว่าก็ทำ Ads ตามอะไรที่เขาให้ทำแหละ แต่เราไม่เคยปรับแนวทางของตัวเอง ด้วยความที่เราเป็น Chain ดังนั้นแบรนดิ้งมาก่อนแล้วเราก็จะรักษา Core นี้ไปเรื่อยๆ อยากได้ความรู้ที่ถูก แล้วก็ไม่มั่วก็คือมา Romrawin ได้ อยากได้เครื่องใหม่ๆ มาที่เราได้ คือเรารักษาสิ่งพวกนี้ไว้ครับ ดังนั้นเราเลยไม่ได้ไปแข่งกับใคร มัวแต่แข่งกับตัวเองอยู่ และเราก็ไม่ได้เปลี่ยนหลักการที่จะออกไปหาลูกค้าข้างนอก เราก็ยังทำเหมือนเดิม คือนั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์แล้วก็ให้เขาเข้ามาเอง
พูดถึงการตลาด หลายคลินิกในปัจจุบันก็มีการแข่งขันเรื่องราคาหนักๆ หมอริวมองว่าถูกและดีมีจริงไหมในวงการนี้
หมอริว: ถูกและดีมีจริงไหม ผมว่ามันไม่มีอยู่ในทุกวงการอยู่แล้ว แล้วก็คำว่าดีของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันด้วย ผมว่าจุดที่คนรู้สึกว่าราคามันโอเคที่สุด มันคือการที่เขารู้สึกว่า คุ้มหรือเปล่า ดังนั้นคือถ้าคุณภาพเราได้ เราทำอะไรที่เขาเข้าใจได้ว่ามันคุ้มค่ากับเขา ผมว่าอันนั้นมันก็ถูกสำหรับเขาแล้วครับ
มีหัตถการไหนที่หมอริวรู้สึกเอ็นจอยกับการทำให้คนไข้เป็นพิเศษไหม
หมอริว: จริงๆ ผมก็เอ็นจอยกับทุกคน ผมไม่ได้เป็นคนที่แบบว่า อ๋อวันนี้ฉันมาเอ็นจอยงานฉีด วันนี้ฉันมาเอ็นจอยงานยกอะไรอย่างนี้ คือผมจะเอ็นจอยเมื่อคนไข้แฮปปี้กับผลลัพธ์มากกว่า ตอนทำเราก็เอ็นจอยทุกอัน
แต่เวลาที่ดีที่สุดก็คือตอน Follow Up “หมอ…มันเปลี่ยนนะ” เราอยากรู้ทุกวันว่าเขาเปลี่ยนไปดีไหม เราไม่มีนโยบายให้หมอคอนแท็กโดยตรงกับคนไข้ แต่ว่าผมจะโทรหาเด็กทุกคนถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อวานที่ทำไปดีไหม คนไข้เขาชอบหรือเปล่า ถ้าไม่ชอบมันจะนอยด์ๆ ไปทั้งวันเลย แต่ถ้าชอบมันเหมือนแบบมีกำลังใจต่ออีกวันหนึ่ง
กับอีกอันหนึ่งคือ ภรรยาผมกับผมอยู่ฟิลด์เดียวกัน เวลาเราทำแล้วมันสำเร็จ เรามาคุยกันตอนเย็น เอออันนี้เป็นโมเมนต์ที่ผมว่าเอ็นจอย
เคยมีโมเมนต์ไหนที่หมอริวประทับใจ จำไม่ลืมเลยบ้างไหม
หมอริว: มันมีช่วงหนึ่งนะตลกมากเลย มีเคสคนไข้เพิ่งอกหักหลายคนมาทำ แล้วก็ไม่เกิน 2 อาทิตย์ ก็มีแฟนทุกคนเลย คือเคสนั้นน่ะ น้องเขามาแล้วก็บอกว่า หน้าเขามันดูแมนไปนิดหนึ่งครับ ก็มาปรับให้มันดูผู้หญิงขึ้น เขาบอกว่าส่วนใหญ่เวลาเขาไปเที่ยวคนที่มาจีบเขาก็จะไม่ค่อยเป็นผู้ชายสักเท่าไหร่ ก็จะเป็นผู้หญิงเพราะเข้าใจว่าเขาเป็นแนวนี้แต่เขาไม่ใช่ แล้วหลังจากเราทำกันไป ก็แต่งงานเรียบร้อยครับ
อยากฝากอะไรถึงคนที่เขาไม่มั่นใจในความสวยของตัวเอง
หมอริว: ผมว่าทุกคนเปลี่ยนได้ครับ ผมว่าสิ่งที่ยากที่สุดคือสุขภาพที่ดี แต่เรื่องความสวยข้างนอกมันเปลี่ยนกันได้ทุกคนอยู่แล้วครับ
หมอริวมองว่าสุขภาพสามารถส่งผลกับลุคข้างนอกได้ไหม
หมอริว: ได้ เดี๋ยวนี้เรื่องของการกินคนก็เริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้นนะครับ ยิ่งตอนนี้มีศาสตร์ใหม่ๆ เข้ามา พวก Lifestyle Medicine ก็ยิ่งเริ่มบอกมากขึ้นว่าความสำคัญของการกิน การนอน มันส่งผลกับผิวเรา
คนที่สวยเหมือนเข้าคลินิกแต่ไม่เข้าคลินิก หมอริวว่ามันเป็นไปได้ไหม
หมอริว: เอาจริงๆ มันมี มันอยู่ที่ว่าเขาอยากสวยระดับไหน ถ้าเขาไม่อยากมีรอย มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เขาต้องทำหน้านิ่งทั้งวัน ยิ้มก็ไม่ได้ หัวเราะก็ไม่ได้ โกรธก็ไม่ได้ ต้องทำหน้านิ่งๆ เฉยๆ มันก็ไม่มีรอย ถ้าทำได้ก็ไม่ต้องเข้า
ส่วนเรื่องคุณภาพผิว ผมว่าเอาจริงๆ คือหนึ่ง มอยส์เจอร์กับกันแดดใช้ให้เป็นมันก็ทำให้ผิวเราดีไปกว่าคนอื่นไม่รู้กี่เท่าแล้ว เบสิกเลยใช่ ที่เหลือคือคลินิกจะมาช่วยคุณในเรื่องของการฟื้นฟูแล้วก็การชะลอ
กว่า 17 ปีที่ผ่านมา หมอริวได้เรียนรู้อะไรจากการเป็นแพทย์ด้านความงาม
หมอริว: ผมว่ามันเป็นอาชีพหนึ่งที่ทำให้คนมีความสุขครับ และผมว่ามันก็ทำให้เรามีความสุขไปด้วย
Romrawin Clinic
Open: ตรวจเวลาทำการได้ทางเว็บไซต์ Romrawin Clinic
Address: ตรวจสอบสาขาได้ทางเว็บไซต์ Romrawin Clinic
Tel: 08 0153 9000, 08 0154 9000
Website: https://www.romrawin.com
Instagram: https://www.instagram.com/romrawinclinic
Facebook: https://www.facebook.com/RomrawinClinic