เดตติ้งแอป (Dating App) ดูเหมือนจะได้รับความนิยมมากขึ้นไม่มีแผ่วมาตั้งแต่ยุคโควิด และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบของคนรักเพียงอย่างเดียว บ้างก็ได้มิตรภาพใหม่ๆ ที่ดีด้วยเช่นกัน ทว่าการพบปะพูดคุยกันในโลกออนไลน์ก็อาจยังเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง โดยเฉพาะกับคนที่คุยไม่เก่ง ซึ่งผลสำรวจจาก Tinder แอปพลิเคชันหาคู่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกได้เผยว่า นิวเจนมีการพูดถึงความเป็นอินโทรเวิร์ตด้วยการติดแฮชแท็ก #อินโทรเวิร์ต มากกว่า 19 ล้านครั้งบน TikTok และผู้ใช้ Tinder ทั่วโลกแสดงความเป็นตัวตนผ่านการระบุประวัติส่วนตัวว่าเป็นอินโทรเวิร์ต (Introvert) มากกว่าเอ็กซ์โทรเวิร์ต (Extrovert) ถึง 33%
วันนี้ LIFE เลยรวบรวม 5 เทคนิคก้าวข้ามความท้าทายในการเดตออนไลน์สำหรับชาว Introvert มาฝาก มาดูกันว่าแต่ละข้อจะสามารถช่วยคนที่คุยไม่เก่งในการออกเดตได้อย่างไร
1. แสดงตัวตนชัดเจนว่า ‘คุยไม่เก่ง’
ระบุในโปรไฟล์อย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นคนคุยไม่เก่ง คู่เดตจะได้รู้ว่าคาแรกเตอร์ของคุณเป็นแบบไหน ไม่เข้าใจผิดว่าคุณไม่อยากคุย แต่ถึงแม้ว่าคุณจะแสดงตัวตนชัดเจนว่าคุยไม่เก่งก็ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนที่ไม่มีเรื่องอะไรให้คุยด้วยได้เลย คุณสามารถระบุเรื่องของความสนใจ งานอดิเรก ไลฟ์สไตล์ หรือความชอบต่างๆ เพิ่มในโปรไฟล์ เพื่อเผยให้เห็นบุคลิกและตัวตนด้านอื่นๆ ได้ ข้อมูลเหล่านี้จะกลายเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ช่วยให้เกิดบทสนทนาที่ดีได้เช่นกัน
2. ทักก่อนก็คือทัก…ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหาย
แม้จะเป็นการเดตในรูปแบบออนไลน์ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกไม่กล้าที่จะทักก่อนแม้จะแมตช์กันไปแล้ว โดยเฉพาะกับผู้หญิง บางคนอาจยึดติดว่าการที่ผู้หญิงจีบก่อนจะดูไม่ดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่จะมีความคิดในลักษณะนั้น แต่หากเราปรับมายด์เซ็ตได้ว่าการทักก่อนก็แค่เป็นการทักเท่านั้น คำว่า “สวัสดี” อาจเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาที่ก่อให้เกิดมิตรภาพได้ในหลายรูปแบบ คุณจะพบว่าการทักก่อนไม่ใช่เรื่องน่าเสียหายแต่อย่างใด
Bumble ถือเป็นตัวอย่างของเดตติ้งแอปที่ทำลายค่านิยมดังกล่าวได้ดีด้วยฟีเจอร์ที่ว่า ผู้ชายไม่สามารถเริ่มต้นการสนทนากับผู้หญิงได้จนกว่าผู้หญิงจะเป็นฝ่ายทักก่อน อีกทั้งยังจบปัญหาการแมตช์แล้วดองด้วยการที่คู่เดตจะต้องทักแชตกันภายใน 24 ชม. หลังจากแมตช์ หากไม่มีการทักใดๆ ภายใน 24 ชม. การแมตช์ก็จะหายไป
3. การแมตช์ไม่ได้แปลว่าต้องลงเอยแบบคนรัก
เป็นธรรมดาที่คุณจะรู้สึกดีเมื่อคนที่เข้าตาคุณเลือกคุณเหมือนกัน แต่เราอยากให้คุณลองปรับมายด์เซ็ตก่อนว่าการแมตช์ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องลงเอยกับคู่เดตในฐานะคนรักเสมอไป ลองคุยกันไปก่อนแบบไม่ต้องรีบ ค่อยๆ ศึกษากันและกัน คุณอาจได้มิตรภาพใหม่ที่ดีมากๆ อาจลงเอยเป็นคนที่ใช่ของกันและกันจริงๆ หรือถ้าไม่ใช่ก็แค่ปล่อยผ่าน วิธีนี้จะทำให้คุณรู้สึกกดดันน้อยลง และเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้น
4. เลี่ยงการถามมา ตอบไป
การพูดคุยถามตอบเรื่องที่ได้มาซึ่งคำตอบประเภท “ใช่/ไม่” ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพียงแต่จะทำให้บทสนทนาไม่ลื่นไหล ลองเลือกถามคำถามปลายเปิดดูบ้าง เช่น แพสชันเรื่องอาหาร กีฬา เกม ดนตรี กิจกรรมคู่เดตที่ชอบทำ หรือแนวคิดต่างๆ โดยสังเกตได้จากหน้าโปรไฟล์ แต่หากเจ้าตัวไม่ได้ระบุ คุณก็สามารถถามในสิ่งที่คุณอยากรู้จริงๆ เพื่อเปิดทางไปสู่บทสนทนามากมาย ซึ่งนี่จะเป็นจุดที่ทำให้พบว่าคุณและคู่เดตมีความสนใจที่เหมือนหรือใกล้เคียงกันมากแค่ไหน
5. ทำใจยอมรับเรื่องการหายไม่ตอบ
โลกของการเดตออนไลน์ก็คือโลกในจอสี่เหลี่ยม เราไม่มีทางรู้ว่าชีวิตนอกจอของคนที่เราแมตช์เป็นอย่างไร ดังนั้นหากวันใดวันหนึ่งที่คุณรู้สึกว่าคู่เดตเปลี่ยนไป หรือจู่ๆ ก็หายไม่ตอบ ให้ทำใจยอมรับไว้ก่อนว่ามันเกิดขึ้นได้และเป็นธรรมชาติในการเดตออนไลน์ และถ้าคุณกำลังคุยกับคนที่เป็น Introvert เหมือนกัน ก็คงเข้าใจได้ว่าบางครั้งเราเองก็เลือกที่จะไม่ตอบหรือหายไปนานกว่าจะตอบได้เช่นกัน
ส่วนปัจจัยอื่นๆ ก็อาจเป็นได้ว่าคู่เดตของคุณอาจยุ่งกับอะไรบางอย่างในชีวิต เขารู้สึกไม่อยากคุยแล้ว หรือเขาแค่ปัดเจอคนใหม่ที่น่าสนใจกว่า อย่าลืมว่าทั้งคุณและเขาก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของกันและกันเช่นกัน ทั้งนี้ก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าจะมูฟออนหรือรอต่อไป