การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าดีต่อผิวจริงหรือ? ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณจากญี่ปุ่นได้เปิดเผยแล้วว่า ยังมีข้อเข้าใจผิดเรื่องการล้างหน้าอีกมาก
แล้ววิธีการล้างหน้าที่ถูกต้องเป็นอย่างไรล่ะ? พญ.โยชิคิ โนบุโกะ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวพรรณของญี่ปุ่น ได้อธิบายผ่านหนังสือถึงวิธีการล้างหน้าที่ถูกต้อง ตั้งแต่การเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละประเภท รวมถึงระยะเวลาที่เหมาะสมต่อการล้างหน้าในแต่ละครั้ง
ต่อไปนี้เป็น 5 ความเข้าใจผิดเรื่องการล้างหน้าที่อยากให้ผู้อ่านทำความเข้าใจใหม่อย่างถูกต้อง เพื่อให้การล้างหน้าทำให้ผิวสะอาด ใส และปลอดภัย จากสิ่งตกค้างอย่างมีประสิทธิภาพ
- ทฤษฎีที่บอกว่า ตอนเช้าล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก็เพียงพอ เพื่อไม่ให้น้ำมันในผิวถูกชะล้างมากเกินไป แต่ความจริงแล้วหากน้ำมันในผิวยังคงค้างอยู่ นอกจากจะทำให้เป็นสิวแล้ว น้ำมันในผิวอาจเป็นต้นตอของผิวที่ร่วงโรยได้ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ผิวแก่แลดูร่วงโรยก่อนวัย ก็ต้องล้างหน้าอย่างใส่ใจ จะใช้แค่น้ำเปล่าเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ
- อย่าคิดว่าผลิตภัณฑ์ล้างหน้าก็เหมือนๆ กันหมด ใช้อันไหนก็คงสะอาดเหมือนกัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามสภาพผิว เช่น ผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวผสม ผิวมัน หรือผิวบอบบางแพ้ง่าย เพื่อให้การล้างหน้าทำความสะอาดผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เวลาล้างหน้า เริ่มจากตรงไหนก่อนก็ได้จริงหรือ? คำตอบคือ ขั้นตอนที่ถูกต้องมากที่สุดคือเริ่มจากบริเวณทีโซน ซึ่งเป็นศูนย์รวมความมันที่สุด พญ.โยชิคิ แนะนำว่า ให้เริ่มจากบริเวณที่เป็นทีโซนคือ หน้าผากและจมูก จากนั้นค่อยเปลี่ยนไปที่บริเวณยูโซนคือ แก้มและคาง
- เชื่อว่าหลายคนยังติดนิสัยลูบโฟมทั่วหน้าปุ๊บก็ล้างน้ำออกทันที ซึ่ง ดร.เมห์เมต ออซ ศาสตราจารย์คนดังจากมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย แนะนำว่า การจะให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าต่างๆ บรรลุเป้าหมายในการทำความสะอาดจริงๆ นั้นควรนวดผลิตภัณฑ์บนผิวอย่างน้อย 20 วินาทีสำหรับผิวแห้งและผิวธรรมดา ส่วนผิวมันนวดวนนานขึ้นอีกนิดสัก 30 วินาที
- ใช้น้ำเย็นล้างหน้าไม่ได้ช่วยลดรูขุมขนเสมอไป แต่การใช้น้ำเย็นจัดล้างหน้าอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ การล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดที่มีอุณหภูมิปกติ ควรล้างหน้าเพียงวันละ 2 ครั้ง คือ เช้าและเย็น แต่หากทำกิจกรรมที่มีเหงื่อ ให้ล้างมากกว่าวันละ 2 ครั้งได้
ภาพ: Shutterstock