เมื่อพูดถึงปัญหาเรื่องผิวหน้า หนึ่งในสิ่งที่ทุกคนต้องเจอไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ได้แก่ ปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของใบหน้า หรือเรียกกันว่า หน้าห้อย, แก้มย้อย, หน้าหนัก, เหนียงออก, หน้ากลม หรือหน้าบาน ฯลฯ สารพัดคำเรียกที่สรรหามาให้เราจินตนาการ
เนื่องจากปัญหาเรื่องใบหน้าหย่อนคล้อยนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เมื่อเราอายุมากขึ้น สิ่งต่างๆ ที่มีมาตั้งแต่ถือกำเนิดก็ย่อมลดน้อยลง โดยเฉพาะเจ้าตัวคอลลาเจนที่มีผลการศึกษาระบุชัดเจนว่า หลังอายุ 25 ปีขึ้นไปจะเป็นช่วงขาลงของคอลลาเจนแล้ว
เรื่องนี้เราได้ปรึกษากับ นพ.ณัฐพล ลาภเจริญกิจ หรือ หมออู๋ ประจำที่ Infiniz Clinic ซึ่งเป็นคลินิกให้บริการรักษาทางด้านผิวพรรณและความงาม ถึงสาเหตุของปัญหาหน้าหย่อนคล้อยว่านอกจากเรื่องอายุขัยแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นอีกหรือไม่ รวมถึงวิธีป้องกันหรือชะลอการเกิดที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และวิธีการแก้ไขที่อยากเห็นผลลัพธ์เร็วๆ อย่าง Ulthera ที่คนอายุ 35 ปีขึ้นไปควรต้องรู้ เพราะนี่คือช่วงวัยที่เราจะเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด
นพ.ณัฐพล ลาภเจริญกิจ หรือหมออู๋
“ผู้หญิงที่อายุ 35 ปีขึ้นไปจะเริ่มมีความหย่อนคล้อยที่ชัดเจน เริ่มตั้งแต่ริ้วรอยบริเวณร่องใต้ตา ถุงใต้ตาเริ่มหย่อนมากขึ้น มีปัญหาเรื่องร่องแก้มที่ชัดเจน และอาจมีริ้วรอยบริเวณหว่างคิ้ว หน้าผาก กรอบหน้าไม่กระชับ ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย” หมออู๋กล่าว
แต่ไม่ต้องกลัวไปว่าปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขไม่ได้ เพราะคุณหมอได้ให้คำแนะนำกับเราแล้วที่นี่
สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย?
หมออู๋: ปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยเกิดจากเรื่องโครงสร้างผิว เริ่มตั้งแต่ชั้นคอลลาเจนที่พอคนเราอายุ 25 ปีขึ้นไปตัวคอลลาเจนมันเริ่มลดลง ก็ทำให้ผิวเราขาดคอลลาเจน เมื่อขาดโครงสร้างค้ำจุนที่ดี โครงสร้างค้ำจุนของคอลลาเจนน้อยลง ก็ทำให้ผิวมีความหย่อนยานมากขึ้น ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติ
หลังจากอายุ 25 ปีจะพบว่า คอลลาเจนลดลงอย่างมีนัยสำคัญมากกว่า 25% เพราะฉะนั้นจะเริ่มเป็น Phrase ที่มันเริ่ม Down อีกส่วนหนึ่งคือเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งวางอยู่บนกล้ามเนื้ออีกที เนื้อเยื่อเกี่ยวพันอันนี้จะเลื่อนลง หย่อนลง เมื่อเราอายุเยอะขึ้น ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าเรายิ่งหย่อนลงมากขึ้น และจะเริ่มชัดขึ้นเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย แต่ละคนจะมีอัตราการเกิดขึ้นช้า-เร็วที่ต่างกัน เช่น การใช้ชีวิต การพักผ่อนน้อย การดื่มน้ำน้อย การรับประทานอาหารที่ไม่พอเพียง หรือแม้แต่การกินโปรตีนที่ไม่ถึง ก็ทำให้คอลลาเจนลดลง หรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพันไม่แข็งแรงพอก็จะทำให้ร่วงเร็วขึ้นเช่นกัน
นอกจากปัจจัยกลไกตามธรรมชาติแล้ว ปัจจัยภายนอกก็ส่งผลต่อความหย่อนคล้อยเช่นกัน ถูกไหม?
หมออู๋: ใช่ครับ เริ่มจากการโดนแดดที่ทำให้คอลลาเจนมันเสื่อมลงชัดเจน อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของการโดนมลภาวะ สารพิษในอาหารหรือในอากาศ ก็ทำให้เหมือนเราได้รับ Oxidative Stress ให้การทำงานของคอลลาเจน หรือแม้แต่โปรตีนที่ไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือว่าเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทำงานได้น้อยลง หรือสูญเสียได้ง่ายขึ้น
หากเป็นเรื่องแดด เราสามารถป้องกันได้ด้วยครีมกันแดดไหม
หมออู๋: ได้ครับ การทาครีมกันแดดช่วยได้สักประมาณ 50% สามารถป้องกันแสงแดดที่จะเข้าไปทำลายพวกโครงสร้างผิว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคอลลาเจนหรือโปรตีนเหล่านี้ได้ดีขึ้น
เมื่อกี้คุณหมอบอกว่า โปรตีนไม่ถึงก็มีส่วนเช่นกัน เท่ากับว่าโปรตีนนี่สำคัญกับผิวมาก
หมออู๋: ใช่ครับ แต่ต้องเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพดีจากแหล่งเนื้อสัตว์ เช่น แซลมอน เนื้อหมู เนื้อไก่ ที่ได้รับมาตรฐาน ไม่มีสารเจือปน หรือผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากโปรตีนจากพืช เช่น Plant-Based หรือ Soy Protein พวกนี้ก็จะช่วยให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี
เรื่องการออกกำลังกายเกี่ยวไหม ก่อนหน้านี้มีกระแสออกกำลังกายมากไปไม่ดีต่อผิว
หมออู๋: ต้องออกกำลังกายแต่พอดีครับ การออกกำลังกายที่เหมาะสมจะกระตุ้นให้ร่างกายมีการสร้าง Growth Hormone หรือว่าฮอร์โมนเพศที่พอเพียงในการกระตุ้นให้มวลของกล้ามเนื้อ ผิวหนัง หรือคอลลาเจนมีการสร้างเสริมเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าเยอะเกินไปก็ทำให้ร่างกายเรามีการ Wean-Off พวกนี้ออก
แนวทางป้องกันที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองมีวิธีไหนบ้าง
หมออู๋: ตั้งแต่เรื่องของไลฟ์สไตล์ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หรือการพักผ่อนที่พอเพียง การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม การรับประทานวิตามินเสริมหรือเกลือแร่เสริมตามปริมาณที่เราขาด การกินผักและผลไม้ที่พอเพียง พวกนี้ทั้งหมดเลยที่จะทำให้ผิวพรรณดีและกระบวนการชะลอวัยเกิดขึ้นช้าลง
พวกวิตามินเสริมช่วยไหม
หมออู๋: วิตามินที่เกี่ยวข้องกับคอลลาเจนที่สำคัญคือวิตามินซี จะสังเกตว่าในกระบวนการสร้างคอลลาเจนจะประกอบไปด้วยโปรตีนเป็นหลัก นอกจากโปรตีนแล้วก็จะมีตัววิตามินซีเข้าไปช่วยกระตุ้นการต่อเติมพันธะของคอลลาเจน ทำให้มีการกระตุ้นการสร้างที่แข็งแรงขึ้น หมอแนะนำให้เลือกเป็นวิตามินซีที่ขนาดปริมาณ 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน และอาจเป็นค่อยๆ ปล่อยปริมาณออกมาให้ร่างกายค่อยๆ ดูดซึมจะดีกว่า
แล้วเรื่องการออกกำลังกายที่พอเหมาะก็ช่วยได้ ออกกำลังกายอย่างไรถึงเรียกว่าพอเหมาะ?
หมออู๋: การออกกำลังกายประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง ต่อวัน ด้วยปริมาณการออกกำลังกายที่ไม่ Intense มากจนเกินไป จนทำให้ร่างกายรู้สึกว่ามีความเครียดเพิ่มขึ้น แนะนำแบบ Non-Competitive Exercise (การออกกำลังกายที่ไม่ต้องแข่งขันกับใคร ) และเลือกออกกำลังกายที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน บางคนอาจชอบคาร์ดิโอเพื่อเบิร์น ชอบ Weight Training หรือชีกง / โยคะ เลือกแบบที่เราทำแล้วสนุกไปกับมัน
มาถึงตัวช่วยภายนอก ทำไมปัจจุบัน Ulthera ถึงยังเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย
หมออู๋: เพราะเทคโนโลยีของ Ultherapy ด้วยเครื่อง Ulthera โดย เมิร์ซ เอสเธติกส์ ถูกออกแบบมาด้วยความหนาแน่นของพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่มีความเข้มข้นและโฟกัสเข้าไปเฉพาะจุด ขณะเดียวกันในการทำเราสามารถมองเห็นจากหน้าจอ Visual Live Screen ซึ่งเป็นข้อเด่นของเขา แน่นอนว่าแต่ละพลังงาน แต่ละ Shot แต่ละ Line ที่เราใส่เข้าไปที่ผิว มันโฟกัสเข้าไปที่ชั้นที่เราต้องการจริงๆ ไม่ได้ทำแบบ Blind (มองไม่เห็น) เพราะการทำแบบ Blind เราไม่สามารถจะมองเห็นได้ทุก Shot อย่างแน่นอน
เลยเป็นเครื่องที่มีความแม่นยำสูง?
หมออู๋: ใช่ แล้วก็ได้ความหนาแน่นของพลังงานที่สูงที่สุด และมีรูปแบบการปล่อยพลังงานที่ไม่กระทบกับผิวส่วนบน ถึงแม้จะใช้พลังงานที่ค่อนข้างเยอะ ถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะที่น่าจะมีตัวแทนค่อนข้างยากในท้องตลาดทุกวันนี้
กลไกการทำงานของ Ulthera เป็นอย่างไร?
หมออู๋: ด้วยหลักการของคลื่นเสียงมันลงไป Target ที่ชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันกับชั้นคอลลาเจน เพื่อให้มีการจัดระเบียบใหม่หรือเหนี่ยวนำให้มีกระบวนการสร้างใหม่ ทำให้ผิวพรรณในเรื่องของคอลลาเจนหรือส่วนของกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้น ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาพักประมาณ 1 เดือน จะเห็นผลที่ประมาณ 80% และเห็นผลเต็มที่อยู่ที่ 3 เดือน
นอกจากแก้เรื่องหย่อนคล้อยแล้ว มีผลดีอื่นๆ อีกไหม
หมออู๋: มีตั้งแต่ผิวพรรณดีขึ้น ดูโกลวขึ้น สว่างขึ้น ลดปัญหาเรื่องริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยร่องแก้ม หรือบริเวณกรอบหน้า
เคยได้ยินคนทำ Ulthera ทั้งตัว มันทำได้จริงๆ ใช่ไหม
หมออู๋: ได้เหมือนกัน สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องผิวตัวเริ่มหย่อน สังเกตว่าคุณแม่หลังคลอดหรือคนที่ดูดไขมันมาแล้วผิวไม่กระชับตาม เราก็ใช้ Uthera เข้าไปกระตุ้นให้หน้าท้องกระชับขึ้น แขนกระชับขึ้น ต้นขากระชับขึ้น หรือแม้แต่ผิวบริเวณข้อศอกหรือเข่าก็สามารถช่วยได้
Ulthera เริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีเลยจริงไหม
หมออู๋: จริงๆ ไม่ได้เป็นข้อห้ามนะครับ ถ้าเกิดในเด็กๆ หรือตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปีขึ้นไป เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน เริ่มมีความเครียดมากขึ้น การดูแลผิวตัวเองไม่ดีเท่าที่ควร ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผิวคล้อยหรือหย่อนก่อนวัย ก็สามารถเริ่มทำ Ulthera ได้ ด้วยพลังงานที่เหมาะสม ด้วยการทำในชั้นผิวที่ไม่ลึกเกินไป หรือพอดีกับปัญหา ก็จะทำให้การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของเขาถูกกระตุ้นขึ้นมาได้ดีขึ้น และช่วยทำให้เขาลดชะลอวัยหรือแก่ช้าลง
มักจะได้ยินคนเปรียบเทียบระหว่างการทำ Ulthera หรือ Thermage มันต่างกันอย่างไรคะ
หมออู๋: ต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ Ultherapy คือการใช้โฟกัสอัลตราซาวด์ลงไปที่ชั้นกล้ามเนื้อ หรือชั้น SMAS และชั้นคอลลาเจน ซึ่งก็จะมีผลในเรื่องของการกระชับที่ดีกว่า ลึกกว่า ส่วนตัว Thermage จะลงไปในส่วนของชั้นไขมันและชั้นคอลลาเจนที่ตื้นกว่า ดังนั้นมันจะช่วยในเรื่องของ Firming หรือช่วยปรับให้ผิวดูอ่อนวัยขึ้น ทั้งสองเทคโนโลยีนี้ต่างกัน แต่เราสามารถทำเสริมกันเพื่อผลการรักษาที่ต่างกัน
เมื่อตัดสินใจอยากทำแล้ว เราควรดูแลตัวเองก่อนและหลังทำอย่างไรบ้าง
หมออู๋: จริงๆ ก่อนทำตัว Ulthera แทบไม่มีข้อห้ามอะไรเลย ไม่แนะนำให้ทำในคนที่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีแผลอักเสบบริเวณใบหน้า มีปัญหาเรื่องรอยแผล และการติดเชื้อ ให้เว้นไว้ก่อน ส่วนหลังทำก็แนะนำให้ทาครีมบำรุงเยอะๆ หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และกินวิตามินและโปรตีนเสริม เพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนที่ดีขึ้น
ควรทำถี่ขนาดไหน
หมออู๋: เบื้องต้นประมาณปีละ 1 ครั้ง แต่ในคนที่อายุน้อยสามารถทำได้ 2 ปีครั้งเลย
หลังจากที่ทำ เราควรปฏิบัติตัวอย่างไรให้ Ulthera อยู่ได้นานขึ้น
หมออู๋: การกินอาหารที่ดีเสริมสร้างการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน การพักผ่อนที่ดี การดื่มน้ำที่ดี การลดความเครียด การมีเฮลตี้ไลฟ์สไตล์ เหล่านี้ก็จะทำให้ตัว Ulthera อยู่ได้นานขึ้น หรือแม้แต่การทำทรีตเมนต์ การเติม Hyaluronic Acid เข้าสู่ชั้นผิว ก็จะเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยทำให้ผลของการทำ Ulthera อยู่ได้นานขึ้นเช่นกัน
- Infiniz Clinic เลือกใช้เครื่องเลเซอร์และทรีตเมนต์ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด ปลอดภัย และได้รับการรับรองจาก อย. ของไทยและสหรัฐอเมริกา (US FDA)
- นอกจากนี้ยังมีผลงานวิจัยรองรับเป็นจำนวนมากถึงผลการรักษาและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก กลุ่มยา Botox และ HA Filler ที่ใช้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกและผ่านการรับรองจาก อย.
- Infiniz Clinic อยู่ที่ชั้น 4 The Mercury Ville ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 โทร. 09 8828 5444 LINE ID: @Infinizclinic (มี@ข้างหน้า)