ในแต่ละปีมีสถานที่นับร้อยที่คุณวางแผนเที่ยวไว้แต่ไม่ได้ไป หรือใจอยากไปแต่ยังไม่มีโอกาส ไม่ต้องเสียใจไป เราขอให้คุณพักลิสต์เก่าไปก่อน ทิ้งมันไปให้หมด แล้วมาเริ่มต้นใหม่กับ 16 จุดหมายปลายทางรอบโลกที่เรานำมาฝากในปีนี้ ปีที่เราสามารถเดินทางได้อย่างอิสระ ไร้พรมแดน มีทั้งทริปล่าแสงเหนือไอซ์แลนด์ ที่เหล่านักวิชาการต่างคอนเฟิร์มว่าเห็นชัดที่สุดในรอบ 20 ปี หรือทริปเปิดดินแดนใหม่ในออสเตรเลียที่ไม่เคยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสัมผัสมาก่อน หรือจุดหมายปลายทางอื่นอย่างจีนหรือศรีลังกาที่กำลังมาแรงในหมู่นักเดินทางเงียบๆ เนื่องจากนโยบายฟรีวีซ่า
พร้อมกันหรือยัง? และนี่คือ 16 จุดหมายปลายทางน่าไปปี 2024 ที่เรานำมาฝากคุณ
1. ไอซ์แลนด์
ใครที่ยังไม่เคยดูแสงเหนือหรือวางแผนกลับไปล่าอีกสักครั้ง นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะนักวิทยาศาสตร์บอกว่า ปีนี้เป็นปีที่แสงเหนือเจอง่ายและเข้มข้นที่สุดในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมไปจนถึงตุลาคม ปี 2024 จะเกิดปรากฏการณ์ ‘Solar Maximum’ วนกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งทุก 11 ปี ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ จากการสลับขั้วแม่เหล็กเหนือ-ใต้ ทำให้เห็นแสงเหนือแจ่มชัดกว่าปีไหนๆ
What to do: ไอซ์แลนด์เป็นหมุดหมายของการดูแสงเหนือมาช้านาน เพราะมีแสงเหลือหลายแห่งให้พิชิต ทั้งยังมีธรรมชาติสวยอลังการ เงียบสงบ มีหลากกิจกรรมให้ทำมากมาย เตรียมร่างกายให้พร้อม แล้วไปเดินสำรวจถ้ำน้ำแข็งกลางทะเลสาบอายุนับพันปี ‘Jökulsárlón’ แวะดูความงามของก้อนน้ำแข็งตัดกับทรายสีดำที่หาดไดมอนด์ หรือไปผ่อนคลายร่างกับบ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่มีนับสิบแห่งบนเกาะ
2. ปารีส, ฝรั่งเศส
กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนเวียนมาอีกครั้ง และคราวนี้ถึงคราวที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รับบทเจ้าภาพจัดการแข่งขัน แล้วทำไมเราจะไม่ใช้โอกาสนี้แวะเวียนไปปารีสในช่วงที่พีคที่สุดในรอบหลายปี หลายคนคงคิดว่าปารีสคงเหมือนๆ เดิมแหละ แค่มีสนามกีฬาและคนเยอะมากกว่าเดิม โธ่ พวกเธอคิดผิดถนัด! เพราะโอลิมปิกคราวนี้ปารีสตั้งใจแปลงเมืองและสถานที่แลนด์มาร์กทั้งเมืองให้กลายเป็นสนามกีฬา
What to do: พลาดไม่ได้กับพิธีเปิดที่จัดขึ้นกลางแม่น้ำแซน โดยใช้เรือ 162 ลำนำนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทั่วโลกกว่า 200 ชาติล่องไปตามแม่น้ำ ตั้งแต่สะพาน Pont d’Austerlitz จนถึง Pont d’lena ผ่านมหาวิหารน็อทร์-ดาม, พิพิธภัณฑ์ออร์แซ, พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ฯลฯ
แวะไปชมการแข่งสเกตบอร์ดและเบรกแดนซ์ กีฬาชนิดใหม่ ที่จัตุรัส Place de la Concorde หากเบื่อก็สามารถเดินไปช้อปปิ้งแถวฌ็องเซลิเซได้ง่าย อ้อ แล้วอย่าลืมไปถ่ายรูปกับสนามวอลเลย์บอลที่มีหอไอเฟลเป็นฉากหลัง
อย่างไรก็ดี ถ้าอยากเดินทางราบลื่น ไม่สะดุด อย่าลืมสมัครแพ็กเกจโรมมิ่งต่างประเทศติดตัวไว้ด้วย จะ SIM2Fly ก็ดี หรือ Ready2Fly ก็ได้ แนะนำเลย สมัครง่าย ใช้ง่าย ราคาสมเหตุสมเหตุ เตรียมตัวอุ่นใจได้ทันที ไม่ต้องไปหาซิมให้วุ่นวายที่เมืองนอก เอาไว้ปักหมุด ดูแผนที่ หาข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฉุกเฉิน เป็นหนึ่งในผู้ช่วยของนักเดินทางที่สมควรมีไว้ทุกทริปตลอดปี
3. เซี่ยงไฮ้, จีน
ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม เป็นต้นไป คนไทยเข้าจีนได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า เป็นช่วงเวลาดีที่เราสมควรมุ่งหน้าสู่จีน สำหรับคนที่ไม่เคยเที่ยวจีนมาก่อน เราแนะนำให้เปิดด้วยเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ทางทิศตะวันออก ว่ากันว่าที่นี่คือศูนย์รวมที่สุดของประเทศ ทันสมัยที่สุด ร่ำรวยมากที่สุด มีคาเฟ่หลากสไตล์และมิวเซียมเจ๋งๆ ให้ฮอปเพียบ
What to do: ไปเซี่ยงไฮ้ทั้งทีต้องห้ามพลาดถ่ายรูปคู่กับแลนด์มาร์กสำคัญอย่างหอไข่มุก จากนั้นแวะไปเดินเล่นชิลๆ ชมอาคารสไตล์ยุโรปบริเวณ The Bund หรือเลือกเดินเล่นช้อปปิ้งยัง Nanjing Road ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความเป็นจีนในอดีต จิบชาในสวนบัวที่ Yu Garden ส่วนใครที่เป็นสายเนิร์ดห้ามพลาดกับ Shanghai Natural History Museum ที่มีสัตว์สตัฟฟ์และสัตว์จำลองมาให้ดูแบบอลังการ
4. ศรีลังกาตอนกลางและใต้
ศรีลังกาคือบาหลีเมื่อ 20 ปีก่อนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สดใหม่กว่า ตื่นเต้นกว่า ตอนกลางของประเทศมีไร่ชาที่ผลิตชาส่งออกทั่วโลก ตอนใต้ของประเทศเป็นแหล่งเซิร์ฟลับที่นักเซิร์ฟรุ่นใหม่นิยมมา และกอลล์ก็เป็นเมืองน่ารักริมทะเล อดีตสถานตากอากาศของคนอังกฤษเมื่อร้อยปีที่แล้ว ประกอบกับนโยบายฟรีวีซ่าให้คนไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ใครกำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ มีความฮิป มีครบทั้งความเป็นเมืองและธรรมชาติ บรรยากาศคล้ายอินเดียแต่ไม่วุ่นวายเท่า แนะนำเลย
What to do: ถ้ามีเวลาหลายวัน แนะนำให้เที่ยวเป็นวงกลม เริ่มจาก โคลัมโบ-แคนดี-เอลลา-กอลล์ แล้ววนกลับมาโคลัมโบอีกครั้ง ซึ่งจะครบประสบการณ์ทั้งเที่ยวไร่ชา นั่งรถไฟสายที่สวยที่สุดที่ศรีลังกาและยาวที่สุดในโลก ก่อนไปเดินเล่นยังเมืองฮิป แวะคาเฟ่ ฮอปบาร์ ถ่ายรูปบ้านสีสด ที่เมืองกอลล์ ส่วนใครที่อยากไปเรียนเซิร์ฟให้แวะไปเมืองเวลิกามา เลยกอลล์ไปนิดเดียว แหล่งเซิร์ฟมีชื่อของศรีลังกา และเมืองมิริสซาสำหรับคนที่อยากว่ายน้ำกับวาฬสีน้ำเงิน
5. คาบสมุทรบอลข่าน
นี่คือเส้นทางสำหรับนักเดินทางที่ชอบปั่นจักรยาน! เส้นทางจักรยานข้ามประเทศที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2024 เป็นเส้นทางจักรยานแรกและเส้นทางเดียวที่เชื่อมโยงทั้ง 8 ประเทศในคาบสมุทรบอลข่านตะวันตกเข้าด้วยกัน เส้นทางนี้มีทั้งหมด 100 ระยะ ถูกออกแบบมาสำหรับนักปั่นจักรยานทุกระดับความสามารถ โดยระยะทาง 4,000 กิโลเมตร ประกอบด้วยถนนลาดยาง เส้นทางเดินป่า และเส้นทางจักรยาน
What to do: เส้นทาง Trans Dinarica จะเริ่มต้นที่เมืองโคบาริด ทางตะวันตกของสโลวีเนีย ก่อนที่จะข้ามเข้าสู่โครเอเชียทางตอนเหนือของริเยกา แล้วลงล่างไปเรื่อยๆ สู่โคโซโว นักเดินทางสามารถเพลิดเพลินกับแนวชายฝั่งอันงดงามของแอลเบเนียและโครเอเชีย อุทยานแห่งชาติของโคโซโว ภูเขาอันขรุขระของมอนเตเนโกร ป่าไม้เขียวชอุ่ม และแม่น้ำทั่วสโลวีเนีย บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา มาซิโดเนียเหนือ และเซอร์เบีย
6. ไถหนาน, ไต้หวัน
ไถหนานกลายเป็นเมืองสำคัญของไต้หวันไม่ต่างจากไทเป ทั้งยังมียอดจองห้องพักแซงหน้าเมืองหลวงไปแล้ว เมืองนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความท้องถิ่น ชอบประวัติศาสตร์ เนื่องในวันครบรอบ 400 ปีทั้งที นอกจากอีเวนต์พิเศษแล้ว บ้านเมืองที่ไถหนานจะทำให้คุณสนุกกับการถ่ายรูป ไหนจะของกินมีชื่ออย่างซุปเนื้อวัวและไข่เจียวหอยนางรมอีก
What to do: มาไถหนานสถานที่แรกที่ต้องแวะเป็นบริเวณย่านเมืองเก่าอันผิง ที่นี่อยู่ใกล้กับบ้านต้นไม้ Anping Tree House อดีตโกดังของ Tait & Company ก่อนถูกทิ้งร้างจนไทรงอก, ป้อมปราการเก่า Anping Old Fort, วัดเจ้าแม่หม่าโจ้วอันผิงไคไถ วัดเจ้าแม่ทับทิมที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน ถ้าอยากหาของกินอร่อยๆ ให้ย้ายเข้าเมืองไปที่ถนนฝู่จง ถนนเส้นเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กับวัดขงจื๊อ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านน้ำชา แวะกินโอเด้งแสนอร่อย ซุปเนื้อวัว และไข่เจียวหอยนางรม
7. คิมเบอร์ลีย์, ออสเตรเลีย
หนึ่งในเขตป่าสุดท้ายของโลกที่ยังไม่ได้ถูกแตะต้องจากมนุษย์ คิมเบอร์ลีย์เป็นพื้นที่เก่าแก่ทางตอนเหนือของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 423,000 ตารางกิโลเมตร มีภูมิประเทศแปลกตาโดดเด่นทั้งเขาและทะเล เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหายากและพรรณไม้หลายชนิด
ในปี 2024 รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวผ่าน Cruise เป็นปีแรก ซึ่งทำให้การเที่ยวพื้นที่ห่างไกลของคิมเบอร์ลีย์ โดยเฉพาะทางน้ำ ง่ายขึ้น หลายเรือสำราญเปิดเส้นทางนี้แล้ว เช่น Seabourn Pursuit, Le Jacques-Cartier, Silver Cloud และ Scenic’s Scenic Eclipse II เรือลำเดียวในภูมิภาคที่มีเฮลิคอปเตอร์สองลำอยู่บนเรือสำหรับการบินและทัศนศึกษา
What to do: ท่องไปในดินแดนดึกดำบรรพ์ที่ยังคงความเก่าแก่และบริสุทธิ์ โปรแกรมล่องเรือโดยส่วนมากจะเริ่มต้นที่เมืองบรูม เมืองชายฝั่งและประตูสู่คิมเบอร์ลีย์ ลิ้มลองเบียร์สูตรพื้นเมืองโดยชาวออริจิน ตระการตากับหินผาสูง Bungle Bungle ที่ให้ความรู้สึกราวกับเดินอยู่ในรังผึ้งขนาดยักษ์ ก่อนไปดื่มด่ำกับธรรมชาติของพืชพันธุ์แปลกและสัตว์ป่าประจำถิ่น อย่างเช่น วอลลาบีหิน ฝูงโลมา และวาฬหลังค่อม
8. ชายฝั่งทะเลดำ, ตุรกี
หากคุณคิดถึงเสน่ห์ของอิสตันบูล คิดถึงบรรยากาศชิลๆ ของท้องน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ไม่อยากเบียดเสียดผู้คนมหาศาล ลองปักหมุดยังแถบคาราเดนิซ หรือ Black Sea Coast แนวชายฝั่งทะเลดำ ซึ่งอยู่ทางเหนือของตุรกี ที่มอบความงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ไม่แพ้อิสตันบูล แต่สภาพอากาศเย็นกว่า สบายกว่าในฤดูร้อน ไม่หนาวจัดในฤดูหนาว แถมยังมีกิจกรรมทางน้ำเจ๋งๆ ชวนอะดรีนาลีนหลั่ง และนักท่องเที่ยวน้อยกว่าอิสตันบูลมาก
What to do: แปลงร่างเป็นนักประวัติศาสตร์สำรวจถนนโบราณในซาฟรานโบลู เมืองเก่าแก่สำคัญทางการค้าระหว่างตะวันออกและตะวันตก ทั้งยังมีอิทธิพลต่อความเป็นอยู่ของชุมชนเมืองทั่วจักรวรรดิออตโตมัน ส่วนใครที่ชอบชายหาดมุ่งไปที่อมาสรา เมืองท่าติดทะเลดำที่มีกลิ่นอายของยุคโรมันปนความโรแมนติกแบบอิตาเลียน
นอกจากนี้ห้ามพลาดกับ Sumela Monastery อารามเก่าแก่ที่สุดในโลกที่เพิ่งเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมไม่นาน ตั้งอยู่บนผาสูง ด้านในมีภาพเฟรสโก มรดกตกทอดจากชาวกรีกในศตวรรษที่ 4
9. โกเบ, ญี่ปุ่น
หายไปจากกระแสนักท่องเที่ยวมาสักพักใหญ่ แต่ปีนี้เมืองท่าญี่ปุ่นอย่างโกเบกำลังกลับมาอีกครั้งในฐานะเมืองที่เด่นด้านออกแบบ มีหลายตึกเก่าถูกรีโนเวตใหม่ให้กลายเป็นพื้นที่ทางศิลปะ เช่น Vague Kobe อดีตธนาคารเก่าในยุค 30s ที่นำมาเปลี่ยนใหม่ให้กลายเป็นที่ตั้งของแกลเลอรี ร้านหนังสือ คาเฟ่ และไวน์บาร์ ฯลฯ
นอกจากนี้ Kobe Port Tower จุดชมวิวแบบพาโนรามาบนชายฝั่งอ่าวโอซาก้าก็พร้อมกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ พิพิธภัณฑ์แบบ Immersive และคาเฟ่บาร์แบบหมุนได้ 360 องศา
What to do: มาโกเบแน่นอนว่าต้องมาที่ Kobe Port Tower ชมวิวอ่าวโอซาก้าและเมืองโกเบแบบเต็มตา สนุกกับนิทรรศการใหม่แบบ Immersive และคาเฟ่บาร์แบบหมุนได้ 360 องศา แวะกินของอร่อยที่ไชน่าทาวน์ ตกบ่ายเดินเล่นยัง Vague Kobe แวะช้อปงานศิลป์ ดูหนังสือ แล้วปิดท้ายด้วยเนื้อโกเบวากิวมีชื่อติดท็อปของญี่ปุ่น
10. Eastern & Oriental Express, Belmond
หลังจากหยุดให้บริการไปนานถึง 4 ปี รถไฟหรูที่วิ่งข้ามเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขบวนนี้กำลังกลับมาให้บริการอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมห้องโดยสารใหม่ 15 ห้อง และเส้นทางเที่ยวจากสิงคโปร์สู่กัวลาลัมเปอร์ ลังกาวี และปีนัง เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์สองข้างทาง ดื่มด่ำกับความหรูหราจากอาหารและบริการระดับโรงแรม 5 ดาวของ Eastern & Oriental Express ตลอด 3 คืนบนรถไฟ
What to do: ออกจากสิงคโปร์ไปยังกัวลาลัมปาร์ แวะลงจอดลังกาวี เพื่อดำน้ำในอุทยานแห่งชาติ Pulau Payar ผ่อนคลายไปกับการนวดและคลาสฮีลใจต่างๆ การทำสมาธิ รำไท้เก๊ก พายซัพบอร์ด ก่อนเปลี่ยนบรรยากาศในวันถัดไปกับเมืองจอร์จทาวน์ ปีนัง ถ่ายภาพกับสตรีทอาร์ต กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เยี่ยมชมร้านขายเครื่องเทศและสมุนไพรจีน ปิดท้ายวันด้วยมื้ออร่อยบนรถไฟบัตเตอร์เวิร์ธ
11. French Polynesia
เรารู้ว่า French Polynesia นั้นแสนไกล แต่จะมีเหตุผลไหนให้ปักหมุดเหมาะกว่านี้ กับการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันโต้คลื่นในโอลิมปิกที่ปารีส 2024 โดยมี Teahupo’o หมู่บ้านบนชายฝั่งทางใต้ของทาฮิติ เจ้าของฉายา ‘คลื่นที่อันตรายที่สุดในโลก’ เป็นสนามแข่งขัน
What to do: ทำตัวให้รื่นเริง แล้วไปเชียร์นักแข่งเซิร์ฟระดับโลกถึงขอบสนาม จะชมริมหาดก็ได้หรือจะชมผ่านจอยักษ์ที่ทางเมืองจัดไว้ก็ดี เช่น Jardin de Paofai, Papara Beach Break และ Marina of Punui นอกจากได้เชียร์แข่งเซิร์ฟมันๆ แบบคลื่นมหาโหดแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับความงามทางธรรมชาติของหมู่เกาะ French Polynesia นอนแอบแดด พาย SUP หยอกล้อกับหมู่ปลาในโลกใต้น้ำได้
12. อุซเบกิสถาน
อดีตศูนย์กลางเส้นทางสายไหมในเอเชียกลางที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่น ก่อนเกิดโรคระบาดอุซเบกิสถานเตรียมความพร้อมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อหวังเป็น Top Destination ในใจนักเดินทาง นั่นทำให้หลังโควิดนักท่องเที่ยวไทยสามารถเข้าไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
อุซเบกิสถานเป็นประเทศในทวีปเอเชียกลางที่ไม่มีทางออกทะเล ภูมิประเทศสวยงาม และธรรมชาติก็ยังบริสุทธิ์ สามารถเที่ยวเองได้และเที่ยวง่ายกว่าที่คิด ที่นี่มีสถาปัตยกรรมอลังการมากมาย เช่น สุสานหลวง Gur-e-Amir Mausoleum หรือ Registan Square จัตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วย 3 โรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม Ulugh Beg Madrasa, Tilya-Kori Madrasah และ Sher-Dor Madrasah
What to do: ไฮไลต์ของอุซเบกิสถานต้องเริ่มต้นที่เมืองซามาร์คันด์ หนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดในโลก จุดพบกันของสองวัฒนธรรมมุสลิมและเอเชียตะวันออก เดินเล่นถ่ายรูป ณ Registan Square จัตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วย 3 โรงเรียนสอนศาสนา ทั้งยังมี Khan เป็นที่พักค้างคืนสำหรับคาราวานให้เห็นด้วย จากนั้นแวะเวียนไปยังอิทซานคาลา ป้อมปราการจุดหยุดพักสุดท้ายของเส้นทางสายไหมก่อนข้ามทะเลทรายเปอร์เซียไปสู่อิหร่าน แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศแบบเต็มเปี่ยม ลองไปนอนพักกระโจม ณ ทะเลสาบไอดาร์คุล
13. เกาะใต้, นิวซีแลนด์
ถ้าหากคุณเป็นสายเดินป่า ไม่มีที่ไหนที่เหมาะจะแวะเวียนไปเที่ยวเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ เท่าช่วงเวลานี้อีกแล้ว เพราะเป็นปีที่ Tuatapere Hump Ridge เส้นทางเดินป่าระยะทาง 38 ไมล์ถูกยกระดับให้กลายเป็น Great Walk เส้นที่ 11 ของนิวซีแลนด์ ทิวทัศน์แบบอลังการ พร้อมที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนับสนุนนักเดินทางแบบเต็มสูบ
What to do: เส้นทาง Tuatapere Hump Ridge เป็นเส้นทางเดิน 3 วันที่พานักเดินป่าไปตามชายฝั่งทางใต้ของนิวซีแลนด์ ไปถึงเขียนกึ่งอัลไพน์ Hump Ridge นอกจากธรรมชาติและความอลังการของ Fiordland เกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ยังมีสถานที่ให้เที่ยวเพียบ เช่น ทะเลสาบเทคาโป, Aoraki / Mount Cook ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ และลานสกีคาร์โดรนา เป็นต้น
14. มองโกเลีย
มองโกเลียเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาการผจญภัยมาอย่างยาวนาน ที่พักแบบกระโจม ใช้ชีวิตแบบชาวทุ่งหญ้า ตามไปดูเผ่าพื้นเมืองที่ใช้นกในการล่าสัตว์ ฯลฯ ในปี 2024 ดูเหมือนการท่องเที่ยวมองโกเลียจะขยับขยายและรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น มีการเปิดตัวบ้านพักหรูแห่งใหม่ ทัวร์เชิงวัฒนธรรม และเที่ยวบินตรงจากหลายประเทศ
What to do: ห้ามพลาดกับการค้างคืนในเกอร์ ที่พักแรมแบบกระโจมของชาวโนแมต ชนเผ่าเร่ร่อนในมองโกเลีย แวะสักการะขอพรจากวัดกานดาน วัดคู่บ้านคู่เมืองศูนย์รวมใจชาวพุทธ ถ่ายรูปกับอนุสรณ์สถานแห่งการต่อสู้ไซซาน ยอดเขาไซซาน ถ้ามีโอกาสอย่าลืมเข้าคลาสขี่ม้ายิงธนูแบบโบราณกับ Namnaa Academy ด้วย
16. ซานตาเฟ, สหรัฐอเมริกา
ภาพยนตร์ชื่อดังของ คริสโตเฟอร์ โนแลน อย่าง Oppenheimer ได้จุดประกายความสนใจให้เมืองซานตาเฟ นิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา กลับมาอยู่ในสปอตไลต์อีกครั้ง เนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ลอสอลามอสมากที่สุด ซานตาเฟเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดในประเทศ โดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมสไตล์อิฐ สถาบันศิลปะเก่าแก่ และวิถีพื้นเมืองที่ผสานวัฒนธรรมชนพื้นเมืองอเมริกัน เม็กซิกัน และสเปน จนได้รับฉายาว่า ‘The City Different’
What to do: นอกจากการเที่ยวชมเมืองตามปกติที่จะเน้นหนักไปเชิงวัฒนธรรมเสียส่วนใหญ่ ในปี 2024 เป็นปีที่เทศกาลประจำปีของซานตาเฟ ‘Burning of the Zozobra’ มีอายุครบ 100 ปี หุ่นจำลองสูง 50 ฟุต อัดแน่นไปด้วยกระดาษแห่งความโศกเศร้าของคนทั้งเมือง ทั้งจดหมายรักเก่า หมายเรียกขอหย่า หรือข้อความเล่าความในใจ จะถูกจุดไฟเผาให้มอดในช่วงค่ำคืน เพื่อสื่อถึงการละทิ้งสิ่งเก่า พร้อมเริ่มต้นใหม่อีกครั้งของคนเมือง
16. อัลอูลา, ซาอุดีอาระเบีย
ซาอุดีอาระเบียปิดประเทศมานาน และเพิ่งเริ่มเปิดรับคนภายนอกในช่วงต้นการระบาดใหญ่ ประเทศนี้จึงยังสดและเป็นจุดหมายปลายทางใหม่แกะกล่องของคนทั้งโลก และเมืองอัลอูลาก็เปรียบได้กับศูนย์กลางทางโบราณคดี แดนอารยธรรมโบราณแห่งซาอุดีอาระเบีย ภูมิประเทศแบบทะเลทราย โบราณสถานเก่าแก่อายุ 2,000 ปี ธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือนคือเดือนเมษายน ช่วงเดียวกับเทศกาล AlUla Skies Festival เพราะคุณสามารถชมภูมิประเทศแบบมุมสูง พร้อมการแสดงต่างๆ เช่น วงซิมโฟนี การแสดงโดรน รวมถึงกิจกรรมดูดาวยามค่ำคืน
What to do: ห้ามพลาดกับเมืองโบราณเฮกรา แหล่งมรดกโลกแห่งแรกของซาอุดีอาระเบีย สุสานสูงตระหง่านที่เต็มไปด้วยร่องรอยแกะสลักโดยชาวนาบาเทียน เดินเล่นเมืองเก่า AlUla Old Town กินอาหารพื้นถิ่น ช้อปปิ้งซื้อของฝาก ก่อนปิดวันด้วยการพักแคมป์หรูหรา Habitas Alula อิ่มเอมกับบรรยากาศและการพักผ่อนแบบชาวทะเลทราย นอนดูดาวใต้ฟ้าอันมืดมิด
ภาพ: Shutterstock, Getty Image, Courtesy of Brands
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/travel/best-destinations-to-visit-2024/index.html
- www.travelandleisure.com/best-places-to-go-2024-8385979#toc-for-adventurous-travelers
- www.cntraveller.com/article/best-places-to-go-in-the-world-2024
สำหรับใครที่ยังสับสนว่า SIM2Fly และ Ready2Fly ต่างกันอย่างไร
- SIM2Fly คือซิมโรมมิ่งสัญญาณเร็ว แรง และครอบคลุม สุดประหยัดจาก AIS ที่มีจุดเด่นเป็นการซื้อซิมใช้งานชั่วคราว หาซื้อได้ตามสนามบินหรือ AIS Shop ทุกที่
- Ready2Fly เป็นแพ็กเกจโรมมิ่งสำหรับลูกค้า AIS เดิม ไม่ต้องจำเป็นต้องซื้อซิมใหม่ แค่เปิดแพ็กเกจผ่านแอป myAIS ได้เลยจากที่ไหนก็ได้ สะดวกมากกว่า ไม่จำเป็นต้องสลับซิม และใช้เบอร์เดิม สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านแอป โดยรับ OTP ได้ตามปกติ
- สำหรับเรา SIM2Fly และ Ready2Fly ดีทั้งคู่ อยู่ที่ไลฟ์สไตล์การใช้งาน ถ้าอยากสมัครแพ็กเกจเพิ่มก็สามารถโทรกลับไทยหา AIS Call Center ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าอยากปลีกตัวไปเที่ยวไหน แต่ไม่อยากขาดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน ใช้ SIM2Fly ถือว่าเหมาะ ส่วนใครที่มีเบอร์ AIS อยู่แล้ว และยังต้องรับ OTP ในการทำธุรกรรมบ่อยครั้ง Ready2Fly จะตอบโจทย์มากกว่า
- ด้านความเร็วอินเทอร์เน็ตเหมือนกันทุกประการทั้ง Ready2Fly และ SIM2Fly ซึ่งในปี 2024 มีแถมสิทธิพิเศษแบบจัดเต็มให้คุณเที่ยวได้ฟินกว่าเดิมด้วยนะ
- รายละเอียดเพิ่มเติมของเพื่อนร่วมทางทั้งสองสามารถเข้าไปดูได้ที่ SIM2Fly: www.ais.th/consumers/package/international/roaming/sim2fly และ Ready2Fly: www.ais.th/consumers/package/international