ในหนังสือ Atomic Habits James Clear อธิบายว่า การปรับปรุงตัวเองเพียงวันละ 1% จะส่งผลให้เราพัฒนาขึ้นถึง 37 เท่าเมื่อครบ 1 ปี เปรียบเสมือนหลักการดอกเบี้ยทบต้นในการลงทุน เมื่อเราสะสมความรู้และทักษะไปเรื่อยๆ ผลลัพธ์จะไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง แต่จะเติบโตแบบทวีคูณ
วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างนิสัยใหม่คือ ทำให้มันง่ายจนไม่มีข้ออ้าง เช่น เป้าหมายออกกำลังกาย เริ่มจากแค่สวมรองเท้าวิ่ง หรือเป้าหมายการอ่านหนังสือ เริ่มจากแค่อ่าน 1 หน้า หรือเป้าหมายฝึกสมาธิ เริ่มจากแค่นั่งเงียบๆ 2 นาที เมื่อคุณเริ่มต้นได้แล้ว คุณมักจะทำต่อไปได้มากกว่าที่ตั้งใจไว้
ในหนังสือ The Power of Habit Charles Duhigg อธิบายว่า นิสัยทุกอย่างประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ: สิ่งกระตุ้น (สัญญาณที่บอกให้สมองของคุณเริ่มต้นพฤติกรรมอัตโนมัติ), กิจวัตร (การกระทำหรือพฤติกรรมที่คุณทำซ้ำๆ) และรางวัล (ความรู้สึกหรือผลลัพธ์ที่ได้จากการทำพฤติกรรมนั้น) ตัวอย่างเช่น การดื่มชายามเช้า สิ่งกระตุ้นคือการชงชา กิจวัตรคือวางแผนวันขณะดื่มชา และรางวัลคือความรู้สึกสดชื่นและชัดเจน
จากการวิจัยของ Charles Duhigg สภาพแวดล้อมมีอิทธิพลต่อนิสัยของเราถึง 40-50% การจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการสร้างนิสัยที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น จัดโต๊ะทำงานให้มีเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวกับงาน เก็บมือถือให้ห่างจากห้องนอน และวางอาหารเพื่อสุขภาพไว้ในที่ที่มองเห็นได้ง่ายในห้องครัว การผสมผสานแนวคิดการซ้อนนิสัยของ James Clear กับวงจรนิสัยของ Charles Duhigg ช่วยให้คุณสร้างกิจวัตรที่มั่นคง ตัวอย่างกิจวัตรเช้าคือ นาฬิกาปลุกดัง ตามด้วยดื่มน้ำ ตามด้วยยืดเหยียดร่างกาย 5 นาที ทำให้รู้สึกสดชื่น แล้วตามด้วยเขียนบันทึก
James Clear กล่าวว่า “ทุกการกระทำคือการลงคะแนนให้กับคนที่คุณต้องการจะเป็น” การสร้างนิสัยที่ดีจึงไม่ใช่แค่การทำสิ่งใหม่ แต่เป็นการสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้กับตัวเอง สร้างความคิดแบบ ‘ฉันเป็นคนที่กินอาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และให้คุณค่ากับเวลา’ James Clear ยังกล่าวอีกว่า “สิ่งที่วัดได้คือสิ่งที่พัฒนาได้” การติดตามนิสัยจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญ คุณสามารถใช้แอปพลิเคชันติดตามนิสัย จดบันทึกในสมุด Bullet Journal หรือทำเครื่องหมายบนปฏิทินติดผนัง
งานวิจัยของ James Clear และ Charles Duhigg แสดงให้เห็นว่า การสร้างนิสัยใหม่ต้องใช้เวลาเฉลี่ย 66 วัน การเริ่มจากสิ่งเล็กๆ เพิ่มโอกาสเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้ถึง 80% และการปรับสภาพแวดล้อมเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มโอกาสสำเร็จได้ 3 เท่า
พลังแห่ง 1% สามารถเห็นได้จากตัวอย่างง่ายๆ เช่น การอ่านหนังสือวันละ 10 หน้า จะทำให้คุณอ่านหนังสือได้ 12-18 เล่มต่อปี ซึ่งจะพัฒนาความสามารถในการคิดและความรู้อย่างต่อเนื่อง หรือการออมเงินวันละ 50 บาท จะทำให้คุณมีเงินออม 18,250 บาทต่อปี สามารถนำไปใช้สำหรับการท่องเที่ยวเล็กๆ ซื้อแล็ปท็อปใหม่ หรือเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน
การฝึกสมาธิวันละ 10 นาที จะให้คุณมีเวลาแห่งความสงบทางจิตใจถึง 61 ชั่วโมงต่อปี ช่วยให้คุณปลอดความเครียดและจิตใจแจ่มใส การเรียนรู้ทักษะใหม่สัปดาห์ละ 1 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโค้ด การทำอาหาร หรือการพูดในที่สาธารณะ จะทำให้คุณมีทักษะใหม่ถึง 52 ทักษะต่อปี ซึ่งจะเสริมสร้างบุคลิกภาพของคุณอย่างมาก
การให้คำชมคนอื่นวันละ 1 ครั้ง จะทำให้คุณมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้น 365 ครั้งต่อปี ทำให้คุณรู้สึกเป็นบวกและเสริมสร้างความสัมพันธ์ และการจดบันทึกความสำเร็จเล็กๆ วันละ 1 อย่าง จะทำให้คุณมีความสำเร็จที่บันทึกไว้ถึง 365 ความสำเร็จต่อปี ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นใจของคุณอย่างมาก
จำไว้ว่าความสำเร็จเป็นการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น การนำหลักการทางวิทยาศาสตร์จาก James Clear และ Charles Duhigg มาปรับใช้ จะช่วยให้คุณค่อยๆ เปลี่ยนนิสัยและพัฒนาชีวิตได้อย่างยั่งยืน เริ่มจากเลือกนิสัยเล็กๆ ที่อยากเปลี่ยน เชื่อมโยงกับกิจวัตรปัจจุบัน สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ติดตามความก้าวหน้า และมีความอดทน การเปลี่ยนแปลง 1% ทุกวันอาจดูเล็กน้อย แต่เมื่อสะสมไปเรื่อยๆ จะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของคุณ