อนาคตที่เคยดูหวือหวาของสกุลเงินดิจิทัล ‘ลิบรา (Libra)’ มีอันต้องสั่นคลอนครั้งรุนแรง หลังพันธมิตรที่ร่วมจัดตั้งสมาคมลิบรา (Libra Association) รายสำคัญประกาศเดินหน้าถอนตัวต่อเนื่อง
เริ่มต้นที่ PayPal ผู้ให้บริการรับจ่ายและโอนเงินผ่านทางอินเทอร์เน็ต และหนึ่งในพาร์ตเนอร์ผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมลิบราที่ประกาศถอนตัวออกจากสมาคมเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ต้องการจะหันไปโฟกัสมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจของตัวเอง
ต่อมาเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา พาร์ตเนอร์อีก 5 ราย ประกอบด้วย Visa, Mastercard, eBay, Stripe และ Mercado Pago ก็ประกาศพากันถอนตัวออกจากสมาคมลิบรารวดเดียวพร้อมๆ กัน
โฆษกของ Visa ให้สัมภาษณ์กับ The Verge เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัทของพวกเขาตัดสินใจถอนตัวจากสมาคมลิบรา โดยยืนยันว่า บริษัทจะทำการประเมินต่อไป แต่เหตุที่เลือกถอนตัวออกมาเนื่องจากหลายๆ ปัจจัย รวมถึงความสามารถของสมาคมที่ไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังและความพึงพอใจจากบรรดา Regulators ในหลายประเทศได้
ด้านอีเบย์ยืนยันว่า บริษัทยังคงให้ความเคารพวิสัยทัศน์ของสมาคมลิบรา อย่างไรก็ดี พวกเขายังตั้งเป้าที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาฟีเจอร์การชำระเงินที่มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าของอีเบย์ให้ดีที่สุด
ส่วน เดวิด มาร์คัส ผู้นำโปรเจกต์คาลิบราของเฟซบุ๊ก ได้ปล่อยแถลงการณ์ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว (@davidmarcus) ว่า ตัวเขาเองเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของ Visa และ Mastercard เพื่อรอจนกว่านโยบายและกฎหมายควบคุมต่างๆ ที่มีต่อเงินดิจิทัลของพวกเขาจะชัดเจนมากขึ้นกว่านี้
เท่ากับว่าตอนนี้สมาคมจะเหลือพาร์ตเนอร์เพียง 21 รายเท่านั้น (จากก่อนหน้านี้ที่ 27 ราย) ที่สำคัญเมื่อมองถึงเหล่าพาร์ตเนอร์ที่เสียไป โดยเฉพาะ PayPal, Visa และ Mastercard จะพบว่า ทั้ง 3 ราย ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ให้บริการด้านการทำธุรกรรมรายใหญ่ระดับโลกทั้งสิ้น
นั่นหมายความว่า ‘ภาพและชื่อของลิบรา’ ที่ก่อนหน้านี้เคยได้รับการการันตีความน่าเชื่อถือโดยกลุ่มผู้ให้บริการทางการเงินที่สุดแล้วก็เป็นเพียงแค่ความฝันเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น
แบร์รี ไอเชงรีน ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ และอดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายอาวุโสของ IMF ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ The Guardian ระบุว่า การที่พาร์ตเนอร์พากันหนีลิบรานับว่าเป็นเรื่อง ‘ไม่น่าแปลกใจ’
เนื่องจากเขามองว่า หากลิบราเริ่มให้บริการจริง มันอาจจะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกใช้ในทางที่ผิดได้ ทั้งการหลบเลี่ยงภาษี, การฟอกเงิน, ช่องทางการเงินของผู้ก่อการร้าย สำคัญที่สุดคือ มันจะนำไปสู่ความสั่นคลอนของอำนาจทางการเงินและความมั่นคงของรัฐบาลในทุกประเทศทั่วโลก
ความเห็นของไอเชงรีนสอดคล้องกับความกังวลของรัฐบาลในหลายๆ ประเทศที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อท่าทีของลิบราเช่นกัน ทั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ยืนยันว่า ในประเทศของตนมีสกุลเงินเพียงสกุลเงินเดียวคือดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงฝรั่งเศสและคณะกรรมาธิการยุโรปที่เคยประกาศว่า จะหาทางตรวจสอบเงินดิจิทัล Stable Coin
จากเดิมที่เคยถูกวางไว้ว่าจะเป็น ‘ดิสรัปเตอร์’ ของแบงก์และสถาบันทางการเงินทั่วโลก อนาคตของลิบราในวันนี้กลับไม่แน่นอนและเริ่มเลือนลางลงไปทุกที ซึ่งต้องตามดูอย่างใกล้ชิดว่า สุดท้ายแล้ว 2020 ลิบราจะเกิดขึ้นได้จริงแค่ไหน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: