เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ประเมินพรีวิวผลประกอบการ 4Q67 ของ บมจ.แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) โดยคาดจะรายงานกำไรปกติทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสที่ 467 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.1%YoY และ 0.3%QoQ การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY สะท้อนถึงรายได้จากทรัพย์สินใหม่ 2 โครงการ (โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา) ที่กองทรัสต์ได้เข้าลงทุนเพิ่มเติมใน 4Q66 ในขณะที่การเติบโต QoQ เกิดจากปัจจัยฤดูกาล
เนื่องจากกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการเคานต์ดาวน์ปีใหม่ และโรงแรม 3 ใน 5 แห่งภายใต้ LHHOTEL ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ (~50% ของรายได้ค่าเช่า) รายได้ค่าเช่าน่าจะอยู่ที่ 612 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39%YoY และ 2%QoQ
เมื่ออิงกำไรปกติ 4Q67 ประเมินได้ว่ากำไรปกติปี 2567 จะอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 88.8%YoY) สูงกว่าที่ประมาณการกำไรเต็มปีที่ 1.7 พันล้านบาท LHHOTEL จะประกาศผลประกอบการในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นอกจากนี้ยังคาดว่า LHHOTEL จะประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 4Q67 ที่ 0.34 บาทต่อหน่วย (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.6%) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 0.30 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ นักลงทุนอาจกังวลเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ปรับตัวลดลงต่อกำไร 1Q68 ของ LHHOTEL เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วน 18% ของรายได้ ทั้งนี้จากการพูดคุยกับผู้จัดการกองทรัสต์ พบว่านับถึงปัจจุบันกองทรัสต์ยังไม่เห็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโรงแรมที่อยู่ภายใต้กองทรัสต์มุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวรายบุคคลเป็นหลัก
นอกจากนี้การเปิดตัว โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ พัทยา หลังจากปรับปรุงเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม 2567 ยังอาจทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา ด้วย นับถึงปัจจุบันกองทรัสต์ยังไม่เห็นผลกระทบมากนัก แต่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดังนั้นจึงคาดว่ากำไร 1Q68 น่าจะยังเติบโต YoY อย่างต่อเนื่อง
ตลาดคาดว่า ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม หรือปรับลดลง 25 bps ในปี 2568 ซึ่งหมายความว่าตลาดมีความคาดหวังต่ำต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่ INVX คาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 50 bps ในปีนี้ โดยการปรับลดครั้งแรกจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนสิงหาคม ซึ่งจะสร้างเซอร์ไพร้ส์เชิงบวกต่อ LHHOTEL เนื่องจาก LHHOTEL จัดเป็นหุ้นปันผล
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น LHHOTEL ปรับลง 3.0% สู่ 13 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 6.3% สู่ 1,286.74 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
InnovestX Research เชื่อว่าราคาหน่วยลงทุน LHHOTEL จะปรับตัว outperform SET ในระยะ 3 เดือนข้างหน้า โดยได้รับการสนับสนุนจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีที่ 2.6% สำหรับระยะเวลาการถือครอง 2 เดือน นอกจากนี้ยังเชื่อว่าความเสี่ยง downside ต่อราคาหน่วยลงทุนมีจำกัด เนื่องจากตลาดมีความคาดหวังต่ำต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่แล้ว อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2568 ก็น่าสนใจที่ 9.7%
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ LHHOTEL โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อ้างอิงวิธี DDM ที่ 16.5 บาทต่อหน่วย (WACC 6.5% และไม่มี Terminal Value) LHHOTEL เป็น Top Pick ในกลุ่ม REITs & IFFs
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่สูงขึ้น,เหตุการณ์พิเศษ เช่น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด และกองทรัสต์อาจจะไม่สามารถรักษาผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเหมือนปี 2567 เอาไว้ได้ในปี 2568
ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในด้านก๊าซเรือนกระจก พลังงาน น้ำเสีย และของเสีย อย่างมีประสิทธิภาพ (E)
CafeInvest แหล่งรวมข้อมูลการลงทุน และบทวิเคราะห์คุณภาพ โดย InnovestX 🚀 คลิกเลย 👉 LHHOTEL – คาดกำไร 4Q67 ทำสถิติสูงสุดรายไตรมาส