×

ทำไม สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ ถึงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และทำไมไทยถึงควรมีเรซเมื่อพร้อม

20.09.2024
  • LOADING...

โฆษกของการแข่งขันสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ 2024 เปิดเผยผ่าน The Straits Times เกี่ยวกับการคาดการณ์จำนวนแฟนกีฬาที่เข้าชมการแข่งขันฟอร์มูลาวันที่สิงคโปร์ในปีนี้ ว่ามีโอกาสจะสูงเท่ากับปี 2023 ด้วยจำนวนราว 250,000 คน

 

ขณะที่กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (Ministry of Trade and Industry: MTI) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีการแข่งขันสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ครั้งแรกเมื่อปี 2008 อีเวนต์นี้สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้สิงคโปร์ไปแล้ว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 66,000 ล้านบาท

 

สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์นับเป็นหนึ่งในเรซที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชีย ด้วยการเป็นสนามแรกในศึกฟอร์มูลาวันที่จัดการแข่งขันตอนกลางคืน หรือไนต์เรซ และยังเป็นอีเวนต์แบบโรดเรซ หรือแข่งขันบนถนนภายในเมืองผ่านแลนด์มาร์กสำคัญต่างๆ มากมาย

 

สิ่งเหล่านี้เป็นเสน่ห์สำคัญของการแข่งขันรายการนี้ และเป็นความท้าทายสำหรับนักแข่งไปพร้อมๆ กัน โดยมีหลายคนที่ยกให้ Marina Bay Street Circuit เป็นสนามที่ท้าทายที่สุดในฤดูกาล เนื่องจากเป็นสนามที่มีขนาดแคบและแซงกันได้ยาก

 

เมื่อปี 2023 สื่อกีฬาชื่อดังทั้ง Sky Sports และ ESPN ต่างก็ยกให้สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์เป็นเรซยอดเยี่ยมประจำปี 2023

 

แต่ความสำเร็จของสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์มีหลากหลายปัจจัยที่น่าศึกษา ก่อนที่เราจะปักธงว่าไทยควรมีการแข่งขันฟอร์มูลาวันในประเทศ

 

จุดได้เปรียบของสิงคโปร์

 

ภาพ: Getty Images

 

อย่างที่ทราบกันดีว่าสิงคโปร์เป็นฮับทางธุรกิจแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งธนาคารโลกเคยนิยามสิงคโปร์ว่าเป็น ‘สถานที่ที่ง่ายที่สุดในโลกที่จะทำธุรกิจ’ และเป็นศูนย์กลางทางการเงิน รวมไปถึงการขนส่งด้วย

 

ปัจจัยดังกล่าวทำให้พวกเขามีความเชี่ยวชาญและมีองค์ประกอบทางอุตสาหกรรมที่พร้อมต่อยอดการทำธุรกิจและการลงทุน รวมทั้งยังมีประสบการณ์ในการจัดอีเวนต์ระดับสากลมาแล้วมากมาย

 

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมีโรงแรมและร้านอาหารชั้นนำที่พร้อมสำหรับการจัดอีเวนต์ระหว่างการแข่งขัน เช่น การแถลงข่าวและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศึกฟอร์มูลาวันที่จะเกิดขึ้นปีละครั้ง

 

แถมด้านตัวรายการสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์เอง ยังทำงานใกล้ชิดกับสายการบิน Singapore Airlines ที่ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมตเรซนี้ด้วยการเสนอแพ็กเกจที่มีทั้งเที่ยวบิน โรงแรม และบัตรแกรนด์สแตนด์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอีกด้วย

 

แต่จุดที่ได้เปรียบที่สุดของสิงคโปร์คือตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ โดยมีการเปิดเผยตัวเลขว่า แฟนกีฬาฟอร์มูลาวันกว่า 40% เป็นแฟนกีฬาจากอังกฤษและออสเตรเลีย รวมถึงแฟนฟอร์มูลาวันในภูมิภาคก็มีเรซนี้เป็นสนามที่ใกล้ที่สุดและใช้เวลาเดินทางสั้นที่สุดที่จะเดินทางไปชมการแข่งขันได้ในแต่ละปี

 

ซึ่งนอกจากฟอร์มูลาวันแล้ว สิงคโปร์ยังเคยเป็นเจ้าภาพยูธโอลิมปิกเกมส์ 2010 และจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาทางน้ำชิงแชมป์โลกในปี 2025 นอกจากนี้พวกเขายังจัดการแข่งขันรักบี้ 7 คนเวิลด์ซีรีส์เป็นประจำทุกปี และสนามกีฬาแห่งชาติของสิงคโปร์ยังได้เป็นแลนด์มาร์กที่จะจัดฟุตบอลอุ่นเครื่องจากสโมสรระดับโลกเป็นประจำทุกปีอีกด้วย

 

การจัดอีเวนต์เหล่านี้มาตลอดทำให้พวกเขามีความพร้อม และประสบการณ์ที่พร้อมจัดมหกรรมระดับโลกอย่างฟอร์มูลาวันได้อย่างไม่มีปัญหานั่นเอง

 

การสนับสนุนของภาครัฐสิงคโปร์

 

ภาพ: Getty Images

 

นอกจากการแข่งขันระดับโลกที่เกิดขึ้นทุกปีแล้ว ทางรัฐบาลสิงคโปร์ก็มีแผนต่อเนื่องที่ต้องการให้อีเวนต์นี้ประสบความสำเร็จ ด้วยการจัดกิจกรรมระดับโลกอื่นๆ ที่ส่งเสริมฟอร์มูลาวัน อาทิ คอนเสิร์ต โดยปีนี้จะมีวง BABYMONSTER จากเกาหลีใต้ มาแสดงด้วย

 

อีกปัจจัยที่ส่งผลในแง่บวกต่อการจัดสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์คือ การร่วมแรงร่วมใจจากคนในประเทศที่ยอดเยี่ยม สังเกตได้จากการปิดถนนที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ​และเอกชน รวมถึงประชาชนภายในประเทศ เพื่ออีเวนต์ระดับโลกรายการนี้ที่จัดขึ้นเป็นประจำในทุกปี

 

เมื่อเปรียบเทียบกับอินเดียนกรังด์ปรีซ์ อีเวนต์ที่รัฐบาลอินเดียจัดให้เป็นอีเวนต์บันเทิงไม่ใช่อีเวนต์กีฬา จนทำให้ทีมต้องจ่ายภาษีบันเทิง หรือ Entertainment Tax เพิ่มเติม ซึ่งสุดท้ายเมื่อพวกเขาไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ ทำให้อินเดียนกรังด์ปรีซ์ไม่ได้กลับเข้าสู่โปรแกรมของฟอร์มูลาวันอีกเลย

 

ขณะที่สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์สามารถจัดการแข่งขันโรดเรซใจกลางเมืองได้ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของสิงคโปร์ ในทางกลับกัน สนามฟอร์มูลาวันของเกาหลีใต้ที่ Korea International Circuit ที่เมืองยอนกัม กลายเป็นจุดอ่อน เนื่องจากหากเดินทางด้วยรถไฟ สนามแห่งนี้อยู่ห่างจากกรุงโซลถึง 5 ชั่วโมง ส่วนแผนการลงทุนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสนามของโคเรียนกรังด์ปรีซ์ก็ล้มเหลว เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอ

 

การรับมือกับอีเวนต์ระดับโลกที่มีความเสี่ยงสูง

 

ภาพ: Getty Images

 

ฟอร์มูลาวันคือการแข่งขันรถยนต์ที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลก ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจึงมีสูงและมีได้ทุกเมื่อ ซึ่งเมื่อปี 2023 สิงคโปร์ก็ได้รับการยกย่องจากสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) ว่าเป็นทีมเจ้าหน้าที่ที่ดีที่สุด และได้รับรางวัล FIA Volunteers and Officials Awards จากการที่เจ้าหน้าที่ของสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์เข้าแก้ไขสถานการณ์และช่วยเหลือการแข่งขันได้ถึง 17 ครั้งตลอดสุดสัปดาห์ รวมถึงการช่วยเหลือ Lance Stroll ที่ประสบอุบัติเหตุชนกับ Esteban Ocon จนต้องออกจากการแข่งขันเนื่องจากปัญหาเกียร์ รวมทั้งเหตุการณ์การชนของ George Russell ในรอบสุดท้ายด้วย

 

“ฉันภูมิใจมากกับทีมงานและทีมกู้ภัยของเรา ซึ่งเป็นอาสาสมัคร 50 คน และทำงานอย่างหนักและทุ่มเท รวมทั้งเสียสละเวลาส่วนตัว จนเราได้รับรางวัลนี้” Janette Tan ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการแข่งขันของสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ กล่าวยกย่องทีมงานกว่า 900 คน

 

“กว่า 90% ของเจ้าหน้าที่กลับมาช่วยเราทุกปี และฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับทีมที่มีแพสชันในทุกๆ ปี” Janette Tan กล่าว

 

การบริหารจัดการเวลาแข่ง

 

ปัจจัยสำคัญของการจัดไนต์เรซของสิงคโปร์ นอกจากเรื่องสภาพอากาศและความสวยงามของแลนด์มาร์กต่างๆ ในตอนกลางคืนแล้ว ยังเป็นเรื่องของนาฬิกาชีวิตของนักแข่งและทีมงานฟอร์มูลาวันที่ต้องเดินทางไปทั่วโลกตลอดทั้งปี

 

โดยการแข่งขันเริ่มต้นเวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสิงคโปร์ และจบลงในเวลา 22.00 น. ซึ่งอาจจะแปลกเมื่อเปรียบเทียบกับเรซอื่นๆ โดยเฉพาะในยุโรป แต่เมื่อเราแปลงเวลาดังกล่าวให้เป็นเวลาในยุโรปจะตรงกับเวลา 14.00 น. ทำให้ทีมงานทั้งหมดยังคงทำงานเวลาเดียวกับที่ยุโรป

 

ทำให้ตารางชีวิตของทีมงานฟอร์มูลาวันในสุดสัปดาห์ที่ไปแข่งที่สิงคโปร์ พวกจะต้องปรับเวลาเข้านอนตอน 05.00 น. และตื่นช่วงบ่าย กินข้าวเช้าช่วงเวลา 15.00-16.00 น. และกินข้าวเที่ยงเวลา 20.00 น. แม้จะฟังดูแปลกๆ แต่ทีมงานและนักแข่งจะไม่ต้องกังวลกับปัญหาอาการเจ็ตแล็ก หรือต้องปรับตัวตามเวลาท้องถิ่นเหมือนสนามอื่นๆ นั่นเอง

 

นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับนักแข่งและทีมงานแล้ว การแข่งขันไนต์เรซยังเป็นสิ่งที่สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ทำเพื่อตอบโจทย์แฟนกีฬาทั่วโลกด้วย เพราะถึงเวลาแข่งขันที่ใกล้เคียงกับการแข่งขันที่ยุโรป แฟนกีฬาทั่วโลกก็ไม่จำเป็นต้องปรับเวลามากเพื่อชมเรซที่สิงคโปร์

 

หากยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ก็เหมือนกับการแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่เลือกแข่งช่วงบ่าย เพื่อให้แฟนบอลในเอเชียได้รับชมการแข่งขันแบบถ่ายทอดสดโดยไม่ต้องกินเวลานอนของพวกเขาเยอะขึ้นนั่นเอง

 

จากกาตาร์ 2022 และปารีส 2024 สู่สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ มีอีเวนต์เมื่อพร้อม

 

‘เมื่อการจัดการแข่งขันทำได้ดี สิ่งเดียวที่ทุกคนจะพูดถึงคือการแข่งขันที่เกิดขึ้น’

 

นั่นคือคำนิยามที่หลายคนกล่าวถึงเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพครั้งแรก รายการนี้ถูกยกให้เป็นทัวร์นาเมนต์ที่จัดการแข่งขันได้ดีที่สุดครั้งหนึ่งในบรรดาการแข่งขันฟุตบอลโลกทั้งหมดด้วยหลายปัจจัย เช่น สนามที่มีความพร้อมและการจัดการที่มีความปลอดภัยตลอดทัวร์นาเมนต์

 

ด้านโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ที่เพิ่งจบไป ทั้งโอลิมปิกและพาราลิมปิกก็ไม่ต่างกัน โดยจุดเด่นจุดหนึ่งที่ THE STANDARD SPORT สังเกตได้คือ ความพร้อมในการจัดอีเวนต์ระดับโลกของกรุงปารีส เพราะพวกเขามีประสบการณ์ในการจัดอีเวนต์ชั้นนำของโลกเป็นประจำทุกปี เช่น การจัดเฟรนช์โอเพน  1 ใน 4 เทนนิสระดับแกรนด์สแลมของฤดูกาล รวมไปถึงงาน Paris Fashion Week ทำให้ทั้งสถานที่และเจ้าหน้าที่พร้อมรองรับอีเวนต์ระดับโลกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

 

ขณะที่สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ ซึ่งจะแตกต่างจากทั้งฟุตบอลโลกและโอลิมปิก เพราะนี่เป็นอีเวนต์ที่เกิดขึ้นทุกๆ ปี และความท้าทายในแต่ละปีก็จะแตกต่างออกไป ทั้งความนิยมของกีฬาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกฎการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ดังนั้นนอกจากศักยภาพแล้ว ความพร้อมและการปรับตัวก็เป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างกัน

 

ประเทศไทยวันนี้ที่มีการพูดคุยกันว่าจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟอร์มูลาวัน แน่นอนว่าถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับประเทศในการดึงดูดแฟนกีฬาในภูมิภาค ที่ปัจจุบันมีเพียงสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ที่เป็นเรซที่ใกล้ที่สุดและเป็นตัวเลือกแรก รวมทั้งอีเวนต์นี้ยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า ไทยเองก็เป็นเจ้าภาพอีเวนต์กีฬาระดับโลกได้ทุกปีเช่นเดียวกัน

 

แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เราเองต้องตอบคำถามสำคัญหลายอย่างที่ถอดบทเรียนมาจากประสบการณ์ของสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ให้ได้ก่อนว่า…

 

  • ไทยแลนด์กรังด์ปรีซ์จะจัดที่ไหน เป็นโรดเรซหรือสเตเดียม
  • ไทยแลนด์กรังด์ปรีซ์มี Ecosystem สำหรับธุรกิจอีเวนต์ระดับโลกที่พร้อมแบบสิงคโปร์แล้วหรือไม่
  • ภาครัฐและเอกชนพร้อมแค่ไหนสำหรับการสนับสนุนอีเวนต์ระดับโลกอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
  • เราจะได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการลงทุนมหาศาลครั้งนี้ ที่ต้องเสียสละทั้งเวลา งบประมาณ และการบริหารจัดการ ที่ต้องพร้อมปรับตัวตลอดเวลาเป็นประจำทุกปี

 

ไม่เช่นนั้นฝันของการมีฟอร์มูลาวันของประเทศไทยในอนาคตอาจมีผลลัพธ์ไม่ต่างกับเอเชียนอินดอร์ในปีนี้ก็ได้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X