×

ชวลิตชี้ รัฐบาลยังเสียงแตกเรื่องนิรโทษกรรมคดี ม.112 ควรถอนรายงาน ให้ กมธ. หาข้อสรุปก่อนชงเข้าสภา

โดย THE STANDARD TEAM
29.09.2024
  • LOADING...
นิรโทษกรรม

วันนี้ (29 กันยายน) ชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรค และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นต่อการพิจารณาวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคมที่จะถึงนี้ เรื่อง รายงานการศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยในรายงานดังกล่าวมีประเด็นที่กรรมาธิการมีความเห็นแตกต่างกันในคดีความผิดตามมาตรา 112 ว่าควรนิรโทษกรรมหรือไม่ หรือมีเงื่อนไขในการนิรโทษกรรมหรือไม่

 

ทั้งนี้มีความเห็นจากพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคแสดงความเห็นไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีความผิดตามมาตรา 112 ในขณะที่กรรมาธิการที่มาจากพรรคที่เป็นแกนนำรัฐบาลคือพรรคเพื่อไทย เห็นว่าควรนิรโทษกรรมคดีความผิดตามมาตรา 112 ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กันยายน อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงยืนยันมติพรรคไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีความผิดตามมาตรา 112 ในทุกกรณี

 

ชวลิตระบุว่า รู้สึกแปลกใจ เหตุใดการศึกษาของกรรมาธิการจึงไม่ใช้เสียงอย่างเป็นเอกฉันท์ หรืออย่างน้อยใช้เสียงข้างมาก แล้วเสนอประเด็นที่กรรมาธิการโดยเสียงที่เป็นเอกฉันท์หรือจะเป็นเสียงข้างมากก็ตามเป็นข้อสังเกตให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณา

 

“การเสนอข้อสังเกตแบบปลายเปิดให้สภาพิจารณาจะหาข้อยุติได้ยากอย่างยิ่ง มิเช่นนั้นสภาจะมีมติให้ตั้งกรรมาธิการไปศึกษาเพื่อจัดทำรายงานทำไม เฉพาะอย่างยิ่งคดีความผิดตามมาตรา 112 เป็นคดีความผิดอันยอมความมิได้ เพราะเป็นการกระทำละเมิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นองค์พระประมุข อันเป็นหนึ่งในสถาบันหลักของชาติ” ชวลิตกล่าว

 

ชวลิตระบุว่า ขอเสนอแนะต่อรัฐบาลด้วยความสุจริตใจว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 6 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า “พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้”

 

ดังนั้นรัฐบาลควรปกป้องสถาบันฯ เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งในต่างประเทศล้วนมีกฎหมายปกป้องประมุขหรือผู้นำประเทศกันทั้งสิ้น การถอนรายงานการศึกษาดังกล่าวไปจัดทำใหม่ให้ได้ข้อยุติในชั้นกรรมาธิการ แล้วมานำเสนอต่อสภา น่าจะเป็นหนทางที่จะทำให้การพิจารณาในสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

อย่างไรก็ตาม คดีความผิดตามมาตรา 112 มิใช่ไม่มีทางออกต่อการแก้ปัญหา พรรคไทยสร้างไทยเคยเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว สรุปว่า หากผู้กระทำผิดหรือผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดได้สำนึกในการกระทำ ก็สามารถขอพระราชทานอภัยโทษหรือขอพระราชทานอภัย แล้วแต่กรณีว่ามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วหรือยัง หากยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด สภาก็ควรเสนอแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจที่จะพระราชทานอภัยได้ เพราะคดีความผิดตามมาตรา 112 เป็นความผิดอันยอมความมิได้

 

นอกจากนี้ยังมีกรณีที่พรรคไทยสร้างไทยเคยเสนอทางออกป้องกันการกลั่นแกล้งร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีความผิดตามมาตรา 112 ว่า ให้แก้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในส่วนของการร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยให้มีคณะกรรมการขึ้นมากลั่นกรองคำร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่อาจประกอบด้วยตำรวจ อัยการ ฝ่ายปกครอง นักวิชาการ ก็จะสร้างความมั่นใจกับผู้ถูกกล่าวหาว่าจะไม่ถูกกลั่นแกล้งในการดำเนินคดี

 

ชวลิตกล่าวในท้ายที่สุดว่า แม้พรรคไทยสร้างไทยจะไม่มีกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการดังกล่าว แต่ในฐานะที่เป็นสมาชิกในพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอแสดงความเห็นด้วยความสุจริตใจ เรียกร้องรัฐบาลให้ปกป้องรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ที่องค์พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง

 

พร้อมขอเสนอแนะรัฐบาลให้นำรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่ศึกษาเรื่องแนวทางการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ ซึ่งได้เสนอข้อสังเกตให้นิรโทษกรรมคดีการเมือง คดีอาญาที่มีมูลเหตุหรือมีแรงจูงใจทางการเมือง ไม่นิรโทษกรรมคดีทุจริต และไม่นิรโทษกรรมคดีความผิดตามมาตรา 112 ยกเว้นคดีทุจริตนั้นมีกระบวนการพิจารณาไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม ซึ่งสภาได้พิจารณาให้ความเห็นชอบโดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563

 

จากมติดังกล่าว พรรคการเมืองทุกพรรคในขณะนั้นก็ยังอยู่ในสภาชุดนี้ รัฐธรรมนูญก็ยังเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดิมที่บัญญัติว่า “พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้”

 

ดังนั้นมติดังกล่าวเท่ากับเป็นมติที่ ‘ปิดปาก’ พรรคการเมืองที่เคยลงมติในประเด็นความผิดตามมาตรา 112 ไปโดยปริยาย มีเพียงการหาทางออกต่อการแก้ไขปัญหาคดีความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งสามารถทำได้ หากผู้กระทำผิดรู้สำนึกในการกระทำนั้น และหาทางออกตามที่ได้เสนอแนะไว้ข้างต้น

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising