×

เพียงร่างกายมองเห็น แต่ความเป็นคนและอิสรภาพยังถูกพันธนาการอยู่หลังกำแพง

12.07.2023
  • LOADING...
เล็ก

เล็ก ชายวัยกลางคน เล่าความทรงจำในวันที่พ้นโทษจากคดียาเสพติดให้ฟังว่า กำแพงสูงและลูกกรงยังคงพันธนาการหลายๆ อย่างในชีวิตไว้ มันไม่มีวันเหมือนเดิมอีกแล้ว

 

เกือบ 50 ปีที่แล้ว เล็กเติบโตมาในครอบครัวที่เขาบอกว่ามันคือ รากหญ้า ย่านชานเมือง 

 

พ่อแม่และพี่สาว ทุกคนต้องทำงานหาเลี้ยงปากท้องต่อสู้กับโชคชะตาที่ไม่เท่าเทียมในสังคม ยกเว้น เล็ก น้องชายคนสุดท้อง การศึกษาเป็นสิ่งเดียวที่ทุกคนดิ้นรนและพยายามมอบให้ 

 

เล็กเปรียบเสมือนเทียนไขเล่มน้อยกลางพายุในคืนที่มืดมิด แม้จะมีแสงแห่งความหวังเพียงเล็กน้อย แต่ความหวังของทุกคนถูกจุดขึ้นแล้ว หวังถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หวังถึงอนาคตที่ดีกว่าปัจจุบัน

 

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ การยอมรับในกลุ่มเพื่อน ค่านิยมในสังคมขนาดเล็ก มีความสำคัญกว่าราคาน้ำมันในตลาดโลก หรือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ 

 

บุหรี่ คือสิ่งแรกที่ทดลอง ผู้ใหญ่หลายคนดูดให้เห็นจนชินตา ความรู้สึกผิดเดียวที่กลัว คือกลัว ‘แม่จับได้’

 

เพื่อน 10 กว่าคนในกลุ่ม เล็กคือคนสุดท้ายที่หัดสูบบุหรี่ การเป็นผู้ใหญ่รสชาติมันเป็นอย่างไร เล็กในวัย 14 ปีอยากรู้ แต่แม่ดันรู้ก่อน ราคาที่ต้องจ่ายคือไม้เรียว 

 

 

การศึกษาของเล็กจบลงที่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายและภาระที่ทางบ้านแบกรับ ค่าเทอมที่ค้างไว้เปลี่ยนเป็นความอาย เมื่อถูกทวงถามต่อหน้าเพื่อนในชั้นเรียน 

 

การหางานทำเพื่อแบ่งเบาภาระเป็นหนทางที่เล็กเลือกเดิน งานก่อสร้างเป็นงานแรกที่อ้าแขนรับและเปิดโอกาสให้อดีตนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ไม่สนุกเหมือนไปโรงเรียนเลย หลังจากผ่านมาไม่กี่วัน รสชาติความเป็นผู้ใหญ่ไม่อร่อยเลย 

 

มือที่แบขอเงินพ่อแม่มาตลอดชีวิต เปลี่ยนเป็นมือที่ต้องหยิบยื่นและเป็นกำลังหลักของครอบครัว  

 

มอเตอร์ไซค์คันแรก สมบัติชิ้นแรกในชีวิต ผลผลิตจากหยาดเหงื่อและแรงกาย จากหนุ่มน้อยนักผสมปูน เล็กเปลี่ยนอาชีพเป็นวินมอเตอร์ไซค์ รายได้มากขึ้น งานสบายขึ้น ไม่เคยรู้สึกภูมิใจแบบนี้มาก่อนเลย แต่ความสุขถูกกระชากออกจากความรู้สึกทุกครั้ง เมื่อเห็นเพื่อนที่เคยเรียนห้องเดียวกันในชุดนักเรียน

 

ช่วงกลางวันวัดในชุมชนคือที่รวมกลุ่ม บุหรี่ของหลวงตา ไม้ขีดหน้าวิหาร คือสิ่งยั่วยวน กลางคืนสะพานข้ามคลองหรือศาลาริมทางเป็นจุดรวมตัวสำรอง กาว, แล็กเกอร์ ,กัญชา และผงขาว เริ่มเข้ามาในชีวิตจากรุ่นพี่ 

 

 

สังคมของเล็กใหญ่ขึ้น โลกใบเดิมมันกว้างกว่าเดิม แสงไฟและเสียงเพลง หน้าสถานบริการที่เรียกว่าดิสโก้เธค กวักมือเรียกเล็กและกลุ่มเพื่อน เหมือนล่อแมลงเม่าให้บินเข้ากองไฟ

 

ห้องน้ำในเธคเหมือนดินแดนสนธยา สำหรับวัยรุ่นเพิ่งเริ่มโต กลิ่นหอมประหลาดที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนในชีวิต จูงมือเล็กให้ไปรู้จักกับ ‘ยาม้า’ เป็นครั้งแรก แต่ยังไม่กล้าลองเสพ ในยุคนั้นยาม้าหรือยาขยันเป็นของหาง่ายที่พบได้ตามปั๊มน้ำมันหรือร้านขายของชำทั่วไป คนที่ใช้แรงงานเท่านั้นถึงเลือกใช้ยาประเภทนี้ และมองว่ามันไม่ใช่ยาเสพติดด้วยซ้ำ

 

ความยั่วยวนของโลกใบใหม่ที่เล็กไม่เคยเจอ เริ่มทำให้เล็กหลงทาง รายได้จากการขับรถเริ่มน้อยลง ผลข้างเคียงของการเที่ยวกลางคืน คนแรกที่ออกมารอรับผู้โดยสารตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เปลี่ยนเป็นคนสุดท้ายประจำวิน มาวันเว้นวัน และเปลี่ยนเป็นสัปดาห์ละวัน  

 

 

ไม่นานสายลมที่ชื่อไฟแนนซ์ก็พัดพามา มอเตอร์ไซค์คันแรก สมบัติชิ้นแรกในชีวิตของเล็กจากไป  

 

ดิสโก้เธคเป็นที่เดียวที่เล็กมีความสุขปลอมๆ มันเหมือนบ้านหลังที่สอง เด็กรับรถถึงผู้จัดการร้านเหมือนเป็นญาติที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน ยาบ้าเริ่มได้รับความนิยมจากกลุ่มนักเที่ยวกลางคืน 

 

เล็กเริ่มเห็นช่องทางหารายได้ จากลูกค้าของดิสโก้เธค เปลี่ยนเป็นผู้ประกอบการลับในสถานบันเทิง ยาม้าจากแหล่งชุมชนที่เล็กอาศัยราคาถูกกว่า กำไรจากนักเที่ยวและพนักงานที่นี่ เปลี่ยนเล็กจากเด็กหนุ่มที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นเล็กที่ทุกคนพูดถึง การได้รับการยอมรับ ความรู้สึกเป็นคนสำคัญ มีเงิน มีอำนาจ มีบารมี มีเงินให้ที่บ้านใช้จ่าย ไม่มีอีกแล้ว เล็กคนเดิม

 

ใบแดงในวัย 21 ปี เบนเข็มชีวิตเล็กออกจากที่อโคจร ความทุกข์ใจของคนเป็นแม่ไม่รู้ว่าลูกจะติดคุกวันไหนเพราะยาเสพติด เปลี่ยนเป็นความปลื้มปีติเมื่อเห็นลูกชายในเครื่องแบบทหาร ความภูมิใจไม่ได้ทำให้ท้องอิ่ม ปีกว่าๆ ในรั้วของกองทัพ ช่องโหว่ต่างๆ เล็กได้เรียนรู้และเริ่มใช้มัน ยาเสพติดประเภทยาม้าได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ เล็กใช้ยามากกว่าตอนเป็นพลเรือนหลายเท่า เครื่องแบบพลทหารกองประจำการสร้างความมั่นใจให้เล็กกล้าทำในสิ่งที่ไม่ควร 

 

 

ปี 2539 รัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรี บรรหาร ศิลปอาชา เปลี่ยนชื่อยาม้า-ยาขยันเป็น ‘ยาบ้า’ เพื่อให้คนตระหนักถึงผลข้างเคียง งานสุจริตเป็นทางเลือกที่ตั้งใจ เล็กเริ่มงานเป็นพนักงานขับรถอยู่หลายปีโดยที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย ชีวิตดีขึ้นจนหลายคนที่รู้จักเห็นความสามารถ มอบโอกาสให้พิสูจน์ตัวเอง ลูกจ้างประจำของภาครัฐเป็นงานใหม่และมีอนาคตที่สุดในชีวิตเล็ก 

 

ความเคยชิน ความเคยตัว งานประจวบกับเป็นช่วงที่ยาเสพติดในประเทศระบาด เล็กกลับไปเสพยาอีกครั้ง และใช้มันมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีผลกระทบกับงาน บวกกับเงินเดือนที่ได้รับไม่พอใช้ 

 

เล็กตัดสินใจลาออก เงินเดือนที่ได้จากงานสุจริตไม่เพียงพอกับรสนิยมในการใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ของครอบครัวที่ดีขึ้น เป็นอีกหนึ่งอิทธิพลทางความคิด รายได้จากการทำยา 1 วัน มากกว่าเงินเดือนทั้งเดือนที่เคยทำ ยิ่งมีเงินมาก ยิ่งมีความสุขมาก มีลูกน้อง มีผู้หญิง มีบารมี ทั้งๆ ที่รู้ว่าคนพวกนี้เข้ามาหาเราเพราะผลประโยชน์ รู้ว่ามันเป็นความสุขปลอมๆ พอเงินหามาง่าย เราก็ใช้แบบไม่มีสติ อยากได้อะไรต้องได้ ได้เงินเพิ่มขึ้นเราก็ทำยาใหญ่ขึ้น เหมือนคนตาบอด มองไม่เห็นอะไรเลย แม้กระทั่งครอบครัว คิดได้แค่นี้จริงๆ ในช่วงเวลานั้น

 

ชื่อเล็กในฐานะพ่อค้ายาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็ว เราถูกพูดถึงในกลุ่มของผู้เสพ ผู้ค้ารายย่อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ไม่รู้โชคดีของเล็กหรือโชคร้ายของตำรวจ ในวันที่ถูกจับกุมครั้งแรก ของที่อยู่กับตัวเล็กเก็บไว้เพื่อเสพ ของขาดตลาดมาเป็นสัปดาห์จากการกวาดล้างของเจ้าหน้าที่

 

เล็กถูกจับกุมและส่งตัวเข้าเรือนจำเพื่อรอการตัดสิน รถควบคุมผู้ต้องหาค่อยๆ ถอยหลังผ่านประตูเรือนจำ อิสรภาพจบลงพร้อมแสงของพระอาทิตย์วันนี้ เหงื่อออกเหมือนคนเอาน้ำมาราด สิ่งที่เคยได้ยินได้ฟังตอนเราอยู่ข้างนอก ทำให้เราใจเสีย 

 

ความกลัวที่ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไร เสียงเหล็กกระแทกเหล็กจากประตู เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้น ผ่านการทำประวัติเบื้องต้น เข้าสู่กระบวนการค้นตัว การแก้ผ้าให้คนอื่นดู การค้นตัวประกอบท่าทางต่างๆ เพื่อป้องกันการนำสิ่งต้องห้ามและของผิดกฎหมายเข้ามาในเรือนจำ 

 

‘น.ช.’ เป็นคำเรียกนำหน้าใหม่ที่ไม่คุ้นชิน อิสรภาพถูกกระชากออกไปพร้อมความรู้สึกที่ไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร ทางเดินจากประตูสุดท้ายถึงเรือนแรกรับ  มันดูไกลมาก ไกลจนไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเดินกี่วัน ผู้ช่วยเหลือทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงพา ‘น.ช.’ ใหม่ไปยังเรือนนอน

 

 

เสียงไขห้องขัง เสียงกระบองไม้ที่รูดไปกับลูกกรงเหล็ก เป็นเสียงแรกที่ได้ยิน หลังจากผ่านคืนแรกในเรือนจำ ผมลงไปยืนดูทุกคนอาบน้ำแบบงงๆ ทุกคนมีขัน แต่ผมไม่มี ข้าวมื้อแรกถูกป้อนเข้าปากด้วยมือเปล่า ขันกับช้อนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เปรียบเสมือนอวัยวะที่ต้องติดตัวเราไปตลอดเวลา ขันเริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่ตื่นจนเราหลับตานอน  อาบน้ำ กินข้าว เข้าห้องน้ำ จนเป็นหมอนหนุนหัว การใช้ชีวิต การถูกปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่หรือแม้แต่นักโทษด้วยกัน มันเหมือนฝันร้ายที่เราไม่สามารถปลุกตัวเองให้ตื่น  

 

ถ้ามีคนรู้จักที่เข้ามาก่อนก็อยู่สบายปรับตัวได้ง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นการเข้ามาครั้งแรก กว่าจะปรับตัวให้อยู่รอดไปในทุกๆ วันมันไม่ง่ายเลย บางคนยอมแขวนคอตัวเองเพื่อให้หลุดพ้น บางคนถูกปล่อยตัวไปไม่นานก็กลับเข้ามาใหม่ เหมือนออกไปเที่ยวข้างนอก

 

ความสำนึกผิดไม่เคยเกิดขึ้นเลยในช่วงแรกที่ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ จนมาถึงวันเยี่ยมญาติวันแรก พ่อกับแม่มองผมผ่านลูกกรง ไม่มีคำพูดใดๆ ที่หลุดออกมาจากปาก ผมไม่เคยรู้สึกผิดและเสียใจขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต เราได้แต่มองตากันจนหมดเวลาเยี่ยมญาติ คำสอนของพ่อและแม่ตั้งแต่เล็กจนโตเริ่มดังขึ้นอีกครั้งผ่านความทรงจำ จะไม่ทำให้ตัวเองต้องกลับมาอยู่ในที่แบบนี้อีก ผมให้สัญญากับตัวเอง

 

หลังจากพ้นมาช่วงแรก ตั้งใจหางานสุจริตทำ เริ่มหางานทำ ตื่นเช้าไปสมัครงานตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ทุกที่ถามเหมือนกันหมดว่าเคยต้องโทษมาไหม ทุกที่พูดเหมือนกัน เขียนใบสมัครทิ้งไว้แล้วรอติดต่อกลับ ผมเคยติดคุก แต่ผมชดใช้ในสิ่งที่ผมทำผิดครบถ้วนแล้ว ทำไมพ้นโทษออกมาแต่เหมือนผมไม่พ้นมลทิน ตอนปล่อยตัวเดินออกจากเรือนจำ เหมือนถูกสักหน้าผากประจาน การเริ่มต้นใหม่ในชีวิตไม่ได้ง่ายเหมือนในละคร

 

เดินสมัครงานอยู่ครึ่งปี ไม่มีที่ไหนติดต่อกลับมาเลย เงินที่ขอพ่อกับแม่มาประทังชีวิต เริ่มหมดไปเรื่อยๆ กับค่าถ่ายเอกสารและค่าเดินทาง มันบีบเราไปทุกทาง มันเหมือนที่ที่เราเคยอยู่ไม่ใช่ที่ของเรา เงินก็ไม่มี ท้องก็หิว พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรยังมองไม่เห็นอะไรเลย  

 

 

ภารกิจหลักของเรือนจำ คือการคืนคนดีสู่สังคม แต่สังคมไม่ได้ต้องการคนพ้นโทษที่ต้องการเป็นคนดี ทางเลือกในการใช้ชีวิตหลังพ้นโทษเหลือน้อยมา จนต้องกลับไปรับยามาขายอีกครั้ง สุดท้ายก็เหมือนเดิม โดนจับ กลับเข้าไปในเรือนจำ ชีวิตวนๆ เข้าๆ ออกๆ เรือนจำอยู่หลายครั้ง จนไม่กลัวที่จะติดคุก เรารู้แล้วว่าถ้าเราเข้าไปเราจะเจออะไร ต้องปฏิบัติตัวและมีชีวิตรอดในทุกๆ วันอย่างไร

 

จากผู้เสพกลายเป็นผู้ค้า จากผู้ค้ากลายเป็นเอเจนต์ เหมือนเป็นวัฏจักร คุกเลยถูกมองว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะอาชญากร ส่วนวิชาชีพที่ฝึกจากข้างใน ใบประกาศเหมือนกระดาษที่ประจานตัวเอง อย่าว่าแต่เอาไปสมัครงานเลย แค่หยิบมาดูแล้วไม่รู้สึกเจ็บปวดยังทำไม่ได้เลย มันไม่ใช่ความภาคภูมิใจ สำหรับผม คุกคือสถานที่ตีตราผู้ต้องหาที่ต้องโทษ แม้จะพ้นโทษออกไปแล้วก็ยังมีคำว่าคนเคยติดคุก 

 

สังคมข้างนอกมันน่ากลัวมากๆ กว่าในเรือนจำหากเคยต้องโทษ เวลาหิวข้างในยังมีข้าวกิน บ้างมื้ออาจไม่มีช้อนกิน แต่มันก็ทำให้เรารอดตาย หลายคนถูกบีบให้เลือกกลับไปเดินเส้นทางเดิม หลายคนพื้นฐานทางบ้านดีก็โชคดีไป แต่บางคนออกมา พ่อแม่ญาติพี่น้องก็ไม่เหลือแล้ว สุดท้ายคนที่เคยอยู่ด้วยกันข้างในเลยเป็นที่พึ่ง การพ้นโทษออกมาสำหรับบางคนคือการออกมาทำยา ขยายเครือข่าย แล้วกลับเข้าไปติดคุกอีกครั้ง 

 

 

หลายคนคงสมน้ำหน้าและปรามาส มันหาเงินง่ายไง เพราะความรักสบายไง เลยกลับไปขายยา จริงๆ แล้วไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดีหรอก แต่หนทางของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน คนเคยติดคุก ในสังคมมันยิ่งกว่าคนด้อยโอกาสหรือคนพิการอีกนะ แม้กระทั่งแรงงานข้ามชาติที่ไม่ได้เกิดบนแผ่นดินไทยยังมีงาน มีคนจ้าง พวกเราตั้งต้นตั้งตัวอะไรไม่ได้เลย เหมือนคนที่ติดลบ เราสู้จนเหงื่อหยดสุดท้ายที่เรามีแล้ว เราพยายามอยู่ร่วมกับคนในสังคมแล้ว จนเรารู้สึกว่าเขาปล่อยพวกเราออกมาแค่ร่างกายเท่านั้น ความเป็นคนกับอิสรภาพยังถูกจองจำอยู่หลังกำแพง

 

ทุกวันนี้ใช้ชีวิตผ่านไปวันๆ พ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้ว เมียก็ไม่มี เชื่อไหมความรักทำให้ผมห่างจากยาเสพติดมาเกือบ 20 ปี กลัวเขาเสียใจ กลัวเขาไม่รัก พอเลิกรากันไป สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวมันไม่มีอีกแล้ว ความเหงา ความคิดถึง มันทำร้ายผม อนาคตก็ไม่มี  ชีวิตที่มีก็ใช้ไปวันๆ

 

หากบทความนี้เป็นประโยชน์ หรือกลายเป็นสิ่งเตือนใจสำหรับใครสักคนที่คิดจะลอง หรือเลือกเดินทางสายนี้ หวังว่ามันจะดึงสติคุณให้คิดถึงสิ่งที่ตามมา และสิ่งที่กำลังจะเสียไป 

 

ด้วยความเคารพ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising