รัฐบาลเลบานอนตัดสินใจลาออกหลังถูกกดดันจากกระแสมวลชนที่ไม่พอใจกรณีเหตุระเบิดที่ท่าเรือในกรุงเบรุต จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 200 ราย และบาดเจ็บกว่า 6 พันรายเมื่อวันอังคารที่แล้ว (4 สิงหาคม)
นายกรัฐมนตรีฮัสซัน ดิอาบ ได้ประกาศการลาออกยกชุดของคณะรัฐมนตรีในช่วงเย็นวานนี้ (10 สิงหาคม) ตามเวลาท้องถิ่น หลังประชาชนจำนวนมากรวมตัวประท้วงในกรุงเบรุตต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อกดดันให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อความล้มเหลวที่เกิดขึ้น หลังหน่วยงานรัฐละเลยปัญหา ไม่เคลื่อนย้ายแอมโมเนียมไนเตรทที่เก็บอยู่ในคลังสินค้านาน 6 ปี จนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีมิเชล อูน ได้ขอให้รัฐบาลทำหน้าที่รักษาการไปชั่วคราวจนกว่าจะมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว
ก่อนหน้านี้ผู้ประท้วงได้ปักหลักชุมนุมกันบนถนน และพยายามบุกเข้าไปในอาคารที่ทำการกระทรวงหลายแห่ง รวมถึงอาคารรัฐสภาในกรุงเบรุต ขณะที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสกัด จนเกิดเหตุปะทะกันขึ้น และมีผู้บาดเจ็บหลายราย
ความเสียหายที่เกิดจากแรงระเบิดของแอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตันในบริเวณท่าเรือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้กลายเป็นบาดแผลใหม่ที่ซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจในเลบานอน ขณะที่ประชาชนไม่พอใจปัญหาคอร์รัปชันและความล้มเหลวของรัฐบาล และเริ่มรวมตัวประท้วงตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ดิอาบยอมรับว่าปัญหาคอร์รัปชันเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าตัวรัฐเสียอีก พร้อมให้คำมั่นว่าจะทำตามเจตนารมณ์ของประชาชน ที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง รวมทั้งนำตัวผู้รับผิดชอบกรณีระเบิดมาลงโทษ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: