รัฐบาลเลบานอนยังคงเร่งเดินหน้าการสืบสวนค้นหาความจริงกรณีเหตุระเบิดรุนแรงที่คลังสินค้าในท่าเรือกรุงเบรุต ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 135 คน และบาดเจ็บมากกว่า 5,000 คน
จากการประเมินเบื้องต้นของผู้ว่ากรุงเบรุต คาดว่าความเสียหายจากเหตุระเบิดที่เกี่ยวข้องกับสารแอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตัน ซึ่งถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าท่าเรือหมายเลข 12 อาจมีมูลค่าสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.66 แสนล้านบาท (ข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 6 สิงหาคม)
กระแสความโกรธแค้นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลจากเหตุการณ์นี้ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น หลังมีรายงานว่าทางการเลบานอนนั้นรับรู้เรื่องสารแอมโมเนียมไนเตรทที่เก็บไว้ในท่าเรือมานานกว่า 6 ปีแล้ว
ขณะที่หน่วยงานรัฐทั้งฝ่ายรัฐบาลและตุลาการที่มีอำนาจตัดสินใจและเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ต่างไม่ยอมรับ ‘เผือกร้อน’ หรือออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆ ต่อเรื่องนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้นำเลบานอนประกาศชัดเจนว่าผู้ที่รับผิดชอบจะต้องถูกลงโทษขั้นรุนแรง
มิเชล นาจจาร์ รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการเลบานอน เปิดเผยต่อสำนักข่าว Al Jazeera ว่าเขาเพิ่งทราบเกี่ยวกับสารแอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตันที่ถูกเก็บไว้ในท่าเรือก่อนเกิดเหตุระเบิดเพียง 11 วัน โดยได้รับรายงานเรื่องนี้จากสภาป้องกันสูงสุด ขณะที่เขาเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีมาเพียง 6 เดือน
“ไม่มีรัฐมนตรีคนไหนรู้ว่าอะไรอยู่ในคลังสินค้าหรือตู้สินค้า และไม่ใช่หน้าที่ผมที่จะต้องรู้” นาจจาร์กล่าว พร้อมยืนยันว่าเขาได้ติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้ก่อนจะหยุดไปช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังรัฐบาลกลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น
และก่อนเกิดระเบิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขายังพูดคุยกับผู้จัดการท่าเรือเพื่อขอให้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเรื่องสารแอมโมเนียมไนเตรททั้งหมด ซึ่งทางผู้จัดการท่าเรือนั้นรับปากจะดูให้ แต่ปรากฏว่าเกิดระเบิดขึ้นเสียก่อนในเย็นวันอังคาร
นอกจากนี้นาจจาร์ระบุว่าเขาเพิ่งได้รับข้อมูลว่ากระทรวงโยธาธิการนั้นทำหนังสืออย่างน้อย 18 ฉบับส่งถึงผู้พิพากษากรุงเบรุตที่ดูแลกรณีเรื่องเร่งด่วนตั้งแต่ปี 2014 ขอให้ดำเนินการจัดการต่อสารเคมีดังกล่าว แต่ปรากฏว่าไม่มีการตัดสินใจหรือการดำเนินการใดๆ เกิดขึ้นจากฝ่ายผู้พิพากษา
“ผู้พิพากษาไม่ทำอะไรเลย มันเป็นความประมาทเลินเล่อ” นาจจาร์กล่าว
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าผู้อำนวยการกรมศุลกากรเลบานอนก็ทำหนังสืออย่างน้อย 6 ฉบับส่งถึงผู้พิพากษากรุงเบรุตตั้งแต่ปี 2014-2017 ให้มีคำสั่งจัดการสารแอมโมเนียมไนเตรททั้งหมดออกจากท่าเรือ โดยเสนอทางเลือกให้ส่งออกไปต่างประเทศ มอบให้กองทัพ หรือขายให้บริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับวัตถุระเบิด แต่ปรากฏว่าหนังสือที่ส่งไปก็ไม่ได้รับความสนใจเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นิซาร์ ซาเจียห์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของเลบานอน โต้แย้งว่าความรับผิดชอบหลักในเรื่องนี้ตกอยู่ที่การท่าเรือและกระทรวงโยธาธิการที่มีหน้าที่ดูแลท่าเรือ รวมถึงกรมศุลกากรเลบานอนที่รับผิดชอบการจัดเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรทที่ยึดได้จากเรือสินค้าสัญชาติมอลโดวา หลังจากที่เรือประสบเหตุขัดข้องจนต้องเทียบท่าในกรุงเบรุตและไม่สามารถเดินเรือต่อได้
“มันแน่นอนว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้พิพากษาที่จะหาสถานที่ปลอดภัยในการจัดเก็บสารเคมีเหล่านี้” ซาเจียห์กล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: