วันนี้ (24 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางเข้าพบประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นหนังสือกรณีประสานขอข้อมูลเรื่องเว็บพนันที่อ้างว่า ตำรวจ 191, สก. บางเขน และนักการเมืองระดับจังหวัดที่มีความใกล้ชิดกับรัฐมนตรีคนหนึ่ง หลังจากที่ได้ไปยื่นเรื่องต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แม้จะมีการจับกุมแต่ยังไม่ได้ยึดทรัพย์
ษิทราชี้ว่า การมายื่นกรรมาธิการวันนี้เพื่อขอข้อมูลบัญชีธนาคารผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ อาจมีความเชื่อมโยงไปยังผู้มีตำแหน่งสำคัญทางการเมือง โดยได้แนบหนังสือที่เคยไปยื่นร้องต่อ ปปง. และบัญชีรายรับรายจ่ายของบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือกลุ่มของลูกชายสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นต่อกรรมาธิการ ซึ่งอ้างว่ามีการโอนเงิน 30-40 ล้านบาทต่อครั้ง และกระจายไปบัญชีต่างๆ
ษิทรายังกล่าวถึงกรณีที่ตนเองถูกแจ้งความดำเนินคดีจากนักการเมืองคนหนึ่งที่จังหวัดพะเยา โดยเห็นว่าเป็นการร้อนตัวหรือไม่ เพราะการกล่าวให้สัมภาษณ์ไม่เคยเอ่ยชื่อว่าเป็นรัฐมนตรีคนใด
ส่วนหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้มั่นใจว่าสามารถเอาผิดกับบุคคลที่กระทำความผิดระดับผู้น้อย เช่น ตำรวจ, สก. แต่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไม่ได้เป็นผู้ทำเว็บพนันเอง แต่รับเป็นหุ้นลมที่จ่ายเป็นเงินสด ฉะนั้นการจะเอาผิดจะต้องดูเส้นทางการเงิน อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเกินความสามารถที่ตนเองจะทำได้
“แต่เชื่อว่าอาชญากรทุกคน เวลาทำความผิดจะทิ้งร่องรอยไว้เสมอ อยู่ที่ตำรวจจะดำเนินการหรือไม่ เรื่องนี้ที่ไม่ได้แจ้งตำรวจไซเบอร์แต่ต้นเพราะรู้ว่ามีการสนิทสนม เช่น สก. คนนี้ มีรูปถ่ายที่ถ่ายคู่กับอดีตผู้บัญชาการไซเบอร์ ไปนั่งกินข้าว ดื่มไวน์ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แล้วบอกเป็นพี่ชาย ในยุคเฟื่องฟูที่สุดของเว็บพนันออนไลน์” ษิทรากล่าว
ษิทรายังเปิดเผยว่า มีแชต LINE ที่อ้างถึง ‘EZ3’ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องในเว็บพนันออนไลน์ มีความใกล้ชิดกับรัฐมนตรีคนหนึ่ง และยังระบุว่า มีแชต LINE ที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายตำรวจที่ออกจากราชการไปแล้ว จึงยังไม่ขอเปิดเผย ซึ่งแชต LINE กลุ่มที่เผยแพร่ในโซเชียลขณะนี้ชี้ว่ามี 2 กลุ่ม คือ LINE กลุ่มของผู้สั่งการ และ LINE กลุ่มผู้ทำงาน
และยังระบุอีกว่า กลุ่มทำเว็บพนันออนไลน์นี้เป็นกลุ่มน้องๆ ดาราที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ และตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจยังไม่สามารถดำเนินการ มีเจตนาแอบแฝงใด หรือกลัวเสียผลประโยชน์หรือไม่ จึงคาดหวังให้ตำรวจเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
“เคสนี้ที่จับมาลูก สว. ไม่ใช่ปลาซิวปลาสร้อย และขอชื่นชม พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพราะจับเว็บนี้มาได้ เป็นเว็บที่เกี่ยวข้องกับการฝาก-ถอนเงิน ทำให้ตำรวจ ปอท. สามารถขยายผลไปจับกุมอีกหลายที่ได้ เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีข่าวใหญ่ อาจจับใครที่ใหญ่กว่าลูก สว. ต้องรอดูการทำงานของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นความหวังเดียว” ษิทรากล่าว
ษิทรายืนยันว่า หลักฐานที่ได้มาจากบุคคลหนึ่งนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้มีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ แต่หากใครที่รู้ข้อมูลก็ขอให้ออกมาเปิดเผยหลักฐานต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเว็บพนัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า บุคคลที่แก้ต่างให้กับผู้กระทำความผิดกรณีเว็บพนัน อาจมีส่วนได้เสียในเรื่องดังกล่าวหรือไม่