×

Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ทำความรู้จักความกลัวเมื่อทัศนะสายตาค่อยๆ พร่ามัว

30.11.2023
  • LOADING...

ท่ามกลางพลวัตของซีรีส์วายที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงปีที่ผ่านมา หลายเรื่องประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม หลายเรื่องได้รับคำชมมากมาย และอีกหลายเรื่องก็ถูกพูดถึงในวงกว้าง ในจำนวนนี้มีซีรีส์วายที่สลับกันออกอากาศมากมายจนแทบดูตามไม่ทัน เรา (ผู้เขียน) ขอแนะนำผู้อ่านทุกท่านอย่างหนักแน่นว่า Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม คือหนึ่งในซีรีส์ที่คุณไม่ควรพลาดมากที่สุดของปีนี้

 

Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม คือผลงานการกำกับของตัวตึงประจำ GMMTV อย่าง ออฟ-นพณัช ชัยวิมล เจ้าของผลงาน เพราะเราคู่กัน 2gether The Series, นิทานพันดาว A Tale of Thousand Stars, แค่เพื่อนครับเพื่อน Bad Buddy ฯลฯ นำแสดงโดย จิมมี่-จิตรพล โพธิวิหค และ ซี-ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ คู่นักแสดงจากซีรีส์แฟนตาซีข้ามภพอย่าง Vice Versa รักสลับโลก ที่ออกอากาศไปเมื่อปี 2565

 

 

ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ หมอก (จิมมี่-จิตรพล โพธิวิหค) อดีตช่างซ่อมรถที่กำลังหางานใหม่หลังออกจากคุกมาได้ไม่นาน จนจับพลัดจับผลูมารับหน้าที่เป็นผู้ดูแล เดย์ (ซี-ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ) นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติที่ใกล้จะตาบอด ในขณะที่ความสามารถในการมองเห็นขาดหายไป อะไรหลายๆ อย่างในตัวของเดย์ก็ค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกัน โดยมีหมอกมาช่วยเติมเต็มช่องว่างนั้นอย่างช้าๆ

 

ความไม่สมบูรณ์แบบในตัวหมอกและเดย์นี่เองคือเหตุและผลที่ทำให้เราอยากแนะนำผู้อ่านทุกท่านให้ได้ชมซีรีส์เรื่องนี้ไปพร้อมกัน เพราะในขณะที่หมอกคือคนที่ขาดหายเรื่องโอกาสและกำลังทรัพย์ เดย์คือคนที่ทำความมั่นใจและตัวเองเลือนหายไปพร้อมๆ กับสายตา เรื่องนี้จึงไม่เพียงแต่สร้างพาร์ตโรแมนติกให้ผู้ชมได้อิ่มเอมใจเท่านั้น แต่ยังฉายให้เราเห็นถึงความกังวลและภาวะทางจิตใจที่คนตาบอดมือใหม่อย่างเดย์ต้องพบเจอ

 

จากรายงานของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เมื่อเดือนมีนาคม 2566 บ้านเรามีจำนวนผู้พิการทางสายตาทั้งกลุ่มที่ตาบอดสนิทและกลุ่มมองเห็นเลือนรางรวมกันสูงถึง 184,622 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้พิการจากอาการป่วยและอุบัติเหตุราวๆ 30.5% แปลว่าคนเหล่านี้ก็เคยมองเห็นโลกได้สดใสในช่วงเวลาหนึ่ง และต้องสูญเสียการมองเห็นไปอย่างเลี่ยงไม่ได้เหมือนกับตัวละครเดย์ ดังนั้นแล้วเดย์จึงเป็นเหมือนตัวแทนของกลุ่มผู้พิการทางสายตาที่ซีรีส์จะค่อยๆ พาเราไปทำความรู้จักและทำความเข้าใจพวกเขาไปทีละเล็กทีละน้อย 

 

 

โดยประเด็นหลักๆ ที่ซีรีส์พยายามทำให้ผู้ชมได้เห็นก็คือเรื่องของความเข้าใจ ในขณะที่ครอบครัวพยายามดูแลเดย์อย่างดีเพื่อทดแทนการมองเห็นของเขา แต่ความหวังดีนั้นมันอาจจะมากเกินกว่าที่เดย์ต้องการ เพราะในฐานะมนุษย์ มันคงจะหงุดหงิดไม่น้อยถ้าวันหนึ่งเราไม่สามารถหยิบจับหรือทำอะไรได้เองเหมือนที่ผ่านมา และสิ่งนี้เองก็กลายเป็นตะกอนชิ้นเล็กๆ ที่ตอกย้ำว่า ตัวเขาเองกำลังจะกลายเป็นภาระของคนรอบตัวไปโดยปริยาย ซึ่งหากเราลองทำความเข้าใจตัวละครนี้สักนิดก็จะรู้ได้ว่าสิ่งที่เดย์ต้องการไม่ได้มีอะไรที่มากมายเกินไปกว่าการปฏิบัติตัวกับเขาให้เหมือนกับคนทั่วไป ไม่ได้สงสาร และไม่ได้ทำเหมือนว่าเขาขาดความสามารถอะไรไป

 

นอกจากนี้ เดย์ยังมีภาวะตัดขาดทางสังคมจากการมองของในบ้านที่เคยอยู่ไม่เห็น จนเผลอไปเตะโต๊ะบ้าง หยิบของผิดบ้าง และหนึ่งในสาเหตุของพฤติกรรมนี้ก็คือความกังวลที่มีกับคนในสังคม ซึ่งฉากที่สามารถสรุปประเด็นนี้ได้ดีก็คือคำพูดของหมอกที่ว่า “ขนาดผมแค่ปิดตา ผมยังรู้สึกได้เลยว่าสายตาคนรอบตัวมันโคตรน่ากลัว ไม่สิ สายตาคนอื่นไม่ได้น่ากลัวหรอก แต่การที่เรามองไม่เห็น ไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเราต่างหากที่มันน่ากลัว” และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้เดย์ตัดขาดจากโลกภายนอกและเลือกใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องนอนเล็กๆ ของตัวเองแทน

 

 

เมื่อปี 2563 ผู้เขียนเองเคยได้เข้าไปร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความสนใจกับกลุ่มคนตาบอด ณ โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพและศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอดผ่านงานวิจัยเกี่ยวกับการสื่อสารชิ้นหนึ่ง งานชิ้นนั้นทำให้ผู้เขียนได้สัมผัสและเข้าถึงวิถีชีวิตของพี่ๆ เพื่อนๆ และอาจารย์ที่เป็นคนตาบอดมากขึ้น ได้เห็นศักยภาพของพวกเขาที่แตกต่างไปจากมุมมองเดิมของตัวเอง 

 

หรืออาจกล่าวได้ว่า จริงๆ แล้วคนตาบอดนั้นไม่ได้แตกต่างไปจากคนตาดีแบบเราๆ เท่าไรนัก เขามีความฝัน มีไลฟ์สไตล์ เขายังอยากมีโอกาสไปเที่ยวในที่ใหม่ๆ ยังชอบเล่นโซเชียลมีเดีย ถ่ายรูปลงอินสตาแกรม ยังชอบฟังวิทยุที่เล่าเรื่องผี แล้วก็กลัวผีแบบที่เราๆ เป็น แต่สิ่งที่พวกเขาขาดไปคงจะเป็นโอกาส ความเข้าใจจากสังคม และบริการพื้นฐานบางอย่างจากภาครัฐ เช่น ทางเท้า ขนส่งสาธารณะ แหล่งการเรียนรู้ ฯลฯ เสียมากกว่า

 

แน่นอนว่าในฐานะคนตาดี เราเองไม่มีทางจะเข้าใจหัวอกของคนตาบอดได้ทั้งหมด เพราะสุดท้ายแล้วประสบการณ์ของเราและเขาต่างกัน ความกังวลและสิ่งที่ต้องเจอก็ต่างกัน แต่สิ่งที่เราสามารถหยิบยื่นให้กันได้คงเป็นโอกาสทางสังคม คำพูดที่น่าฟัง การปฏิบัติต่อกัน และยอมรับกันในฐานะมนุษย์ 

 

 

ถึงแม้ว่าการทำความเข้าใจกับกลุ่มคนตาบอดหรือผู้พิการกลุ่มอื่นๆ จะยังไม่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายมากนักในตอนนี้ แต่ผู้เขียนเชื่อว่า Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม จะเป็นซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราเข้าใจกลุ่มคนตาบอดได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน แถมยังได้ดูจิมมี่-ซีในลุคที่หล่อขึ้น โตขึ้น และเก่งขึ้นอีกด้วย

 

ติดตาม Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และรับชมพร้อมกันทั่วโลกทาง YouTube: GMMTV Official  

 

ชมตัวอย่าง Last Twilight ภาพนายไม่เคยลืม ได้ทาง

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising