วันนี้ (26 มกราคม) เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนและมวลชนกลุ่มราษฎรบางส่วนรวมตัวบริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ก่อนที่จะย้ายมาข้างรั้วทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องเงินเยียวยาตามสิทธิผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จากการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมอ่านแถลงการณ์เปิดผนึกถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐไม่มีความชัดเจนในการเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ซึ่งตนก็อยู่ในส่วนนี้เช่นกัน ทั้งที่เราเพียงนำเงินที่กองทุนประกันสังคมนำไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ มาเยียวยาก็เหลือเฟือ แต่เงินส่วนต่างๆ กลับถูกนำไปใช้กับการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์กว่า 1 แสนล้านบาท รวมถึงเงินเดือนตำแหน่งนายพลในกองทัพที่มีมากเกินไป แต่กลับไม่ทำงานใดๆ และงบประมาณที่ไม่จำเป็นอีกมากมาย
ด้านตัวแทนกลุ่มฯ อ่านแถลงการณ์ที่ระบุว่า โครงการเราชนะเพื่อเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา จะจ่ายเงินเยียวยา 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รวมเป็น 7,000 บาทต่อคน หรือทั้งหมด 31.1 ล้านคน โดยเน้นอาชีพอิสระ เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย คล้ายกับโครงการเราไม่ทิ้งกัน แต่กลับไม่ให้เป็นเงินสด และจะโอนผ่านแอปพลิเคชันสัปดาห์ละครั้งจนครบ แต่ประชาชนบางคนยังไม่เข้าถึงเทคโนโลยี
อีกทั้ง สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เหตุผลว่า ที่ไม่อยากให้ประชาชนสัมผัสตัวเงินเพราะโควิด-19 เข้ามาปะปนได้ และต้องการให้ประชาชนปรับตัวเป็นสังคมไร้เงินสด ถ้าให้เป็นเงินสดก็จะหายไปกับสุรา การพนัน และการจ่ายเงินสัปดาห์ละ 1,000 บาท ก็เพื่อให้ประชาชนได้วางแผนการใช้เงินที่จำเป็น แต่ประชาชนล้วนมีความจำเป็นในการใช้จ่ายต่างกันไป
ตัวแทนกล่าวต่อว่า การกำหนดนโยบายเยียวยารอบ 2 ของรัฐบาล ยังทิ้งแรงงานในระบบประกันสังคม มาตรา 33 กว่า 11 ล้านคน รวมถึงแรงงานข้ามชาติที่เข้าระบบประกันสังคม กว่า 1.5 ล้านคนไว้ข้างหลัง รัฐต้องช่วยเหลือแรงงานในระบบนี้ ด้วยการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน
โดยขอเสนอแนวทางแก้ปัญหาด้วยการปฏิรูประบบภาษี ให้จัดเก็บภาษีคนรวย ซึ่งถือเป็นคน 1 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ และลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น เพื่อนำมาสร้างสวัสดิการถ้วนหน้าให้แก่ประชาชน ในที่นี้ รวมถึงการแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม รัฐสามารถใช้ข้อมูลกรมการปกครองหรือทะเบียนราษฎรที่มีในมือมาเยียวยาประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดยไม่ต้องใช้แอปพลิเคชันพิสูจน์ความจน เพราะคน 99 เปอร์เซ็นต์ก็ได้รับผลกระทบ จากนี้พวกเราก็จะกลับมาทวงถามเงินเยียวยาอีกครั้ง หลังได้ติดตามทวงคืนมาตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาดรอบแรกเมื่อปี 2563
ในช่วงท้ายมี ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง เดินทางมาร่วมปราศรัย โดยกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการคลัง ให้พิจารณาลดงบประมาณกองทัพ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามสิทธิผู้ประกันตนประกันสังคม มาตรา 33 ที่กลับกลายเป็นการแย่งชิง
“หากรัฐจริงใจที่จะแก้ปัญหาจริงๆ เราไม่จำเป็นต้องมารับเศษเงินเช่นนี้เลย ขอบอกว่าเงินเยียวยา 3,500 บาท ตีเป็นเงินวันละ 100 บาท ไม่เพียงพอต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งค่าเรียนออนไลน์ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ หากยังเห็นหัวประชาชน ขอให้สวัสดิการถ้วนหน้าแก่ประชาชน” ภาณุพงศ์กล่าว
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
