กระแสเรื่องของนักกีฬากับการไม่เข้ารับวัคซีนเป็นเรื่องกระฉ่อนโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกับกรณีของ โนวัค ยอโควิช ที่ถูกห้ามไม่ให้เข้าประเทศออสเตรเลียเพื่อลงแข่งเทนนิสรายการออสเตรเลียนโอเพน ไม่สามารถเปลี่ยนใจของ ไครี เออร์วิง การ์ดทีมบรูกลิน เน็ตส์ ที่ยังคงสงวนจุดยืนเดิมที่จะไม่ขอรับวัคซีนโควิดเด็ดขาด แม้ว่าทีมจะประสบปัญหาหนัก เมื่อ เควิน ดูแรนต์ บาดเจ็บต้องพักการเล่นยาวก็ตาม
เออร์วิงเป็นหนึ่งในนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ของวงการบาสเกตบอล NBA ที่ประกาศจุดยืนที่แน่วแน่ในการจะไม่ขอรับวัคซีนโควิด ด้วยเหตุผลส่วนบุคคล แม้ว่านั่นจะหมายถึงการที่ไม่สามารถลงเล่นให้ต้นสังกัดเน็ตส์ได้ โดยเฉพาะเกมในบ้าน เนื่องจากมีกฎหมายที่นักกีฬาจะลงแข่งขันได้ต่อเมื่อเข้ารับวัคซีนแล้วเท่านั้น
แต่สถานการณ์ของเน็ตส์เริ่มลำบาก เมื่ออีกหนึ่งสตาร์อย่างดูแรนต์เกิดได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าจากการแข่งขันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และอาจจะต้องพักการเล่นถึง 1 เดือนหรือมากกว่า ทำให้เริ่มมีแรงกดดันให้เออร์วิง การ์ดระดับออลสตาร์ 7 สมัย ยอมเข้ารับวัคซีนเพื่อช่วยทีม
ด้านเออร์วิงยังยืนยันในจุดยืนเดิม “นี่คือการตัดสินใจที่ผมได้เลือกแล้วและผมก็พร้อมยืนหยัดกับมัน” ก่อนจะบอกว่า “นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดว่ามันมีอิทธิพลมากในวัฒนธรรมและในบาสเกตบอล รวมถึงกีฬาและความบันเทิง คุณเอาทีมเข้ามา คุณนำสถานการณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เคฟ (ดูแรนต์) ต้องรับการรักษาและเขาก็จะโอเค ซึ่งในฐานะเพื่อนร่วมทีม เราทุกคนจะต้องรับมือกับเรื่องนี้
“แต่ในส่วนชีวิตของผมนอกเหนือจากนี้ ผมยืนหยัดในการตัดสินใจของผมก็แค่นั้น มันจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเพียงเพราะเรื่องเดียวว่านี่คือชีวิตแบบ NBA ที่บางคราวมันก็ทำให้เรารู้สึกสนใจมันมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกของความจริง แต่มันไม่เกิดขึ้นกับผมก็เท่านั้น”
สตาร์วัย 29 ปี ซึ่งเพิ่งกลับมาลงช่วยทีมได้แค่ 4 เกม หลังจากที่พักการเล่นมาตลอดยังกล่าวต่อว่า “ผมเคารพการตัดสินใจของทุกคน ผมจะไม่โน้มน้าวใคร และสิ่งที่เราต้องรับมือในเวลานี้ก็คือเรื่องของเคฟ ผมก็เพิ่งรู้ว่าผมได้รับการปกป้องโดยองค์กร ผมได้รับการปกป้องโดยเพื่อนร่วมทีม และผมได้รับการปกป้องจากแพทย์ทุกคนที่ผมได้คุยด้วย ซึ่งทำให้ผมยังยืนยันเหมือนเดิม
“ผมใช้ชีวิตส่วนใหญ่นอกสนามบาสเกตบอล ดังนั้นเมื่อผมบอกว่าผมจะไม่รับวัคซีน มันคือสิ่งที่ผมเลือกให้กับชีวิตของผม และบางครั้งมันก็อาจจะปนเปกับคำถามว่าแล้วเรื่องบาสเกตบอลล่ะ? ความจริงก็คือมันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน เราอาศัยอยู่ในโลกของความจริง การที่สามารถทำเช่นนั้นได้ถือเป็นสิ่งที่ดีแล้ว ผมรู้สึกดีกับโอกาสที่ได้รับ ผมรักการที่ได้อยู่กับเพื่อนร่วมทีม ผมรักการเล่นให้เน็ตส์ แต่ผมก็ใช้เวลานานมากพอเพื่อคิดถึงเรื่องนี้ เพื่อประมวลและตัดสินใจอย่างหนักแน่นแน่วแน่”
ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่าบริษัทใหญ่หลายแห่งใช้มาตรการเข้มงวดกับลูกจ้างหากไม่เข้ารับวัคซีนจะถูกไล่ออกจากงานทันที ซึ่งเออร์วิงยังแสดงความกังวลและเห็นใจคนที่ไม่เข้ารับวัคซีนเหมือนกันว่า “ผมเข้าใจคนที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ผมภาวนาว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลง เราสามารถทำในสิ่งที่แตกต่างได้ และนั่นไม่ใช่เฉพาะสำหรับผม แต่สำหรับคนที่กำลังรับมือกับการที่ไม่ได้เข้ารับวัคซีนและถูกไล่ออกจากงานที่มีทุกวัน มันไม่ใช่แค่เรื่องของผมแล้ว และนี่คือสิ่งที่ผมพยายามสื่อสารมาโดยตลอด”
อ้างอิง: