ทิศทางดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ขณะที่นักลงทุนกลับเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ประกอบกับข่าวที่สหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีสินค้า EU และตัวเลข PMI ของสหรัฐฯ และยุโรปที่ปรับตัวลง ส่งผลให้มติการประชุม OPEC+ ที่ให้คงกำลังการผลิตน้ำมัน กลายเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมันและเศรษฐกิจ
นักลงทุนต่างรอคอยการเจรจาการค้ารอบใหม่ของสหรัฐฯ และจีน แม้มีแนวโน้มจะเป็นบวก แต่อีกด้านหนึ่ง การที่สหรัฐฯ เตรียมเรียกเก็บภาษีเพิ่มจาก EU ครอบคลุมมูลค่าการค้า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกยังไม่จางลง กอปรกับตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ของสหรัฐฯ และ EU ที่ออกมาลดลงด้วย
โดยดัชนี PMI สหรัฐฯ ของสถาบัน ISM ลดลงจากระดับ 52.1 เป็น 51.7 จุด ส่วน Markit PMI ของยุโรปก็ปรับลดลงจากระดับ 47.7 เป็น 47.6 จุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลการประชุม OPEC+ ที่คงกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า กลายเป็นข่าวลบต่อทั้งราคาน้ำมันและหุ้นน้ำมัน เพราะมีกระแสกังวลว่าการคงการผลิตน้ำมันไว้จะทำให้ราคาน้ำมันไม่สะท้อนสภาพเศรษฐกิจและดีมานด์ที่กำลังอ่อนแอ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลพวงมาจากสงครามการค้า ส่งผลให้สินทรัพย์ที่เป็น Safe Haven Assets อาทิ ทองคำ และพันธบัตรปรับตัวขึ้น
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ KTBST มองว่า สัญญาณที่จะลดความกังวลของนักลงทุนลง จะเป็นเรื่องที่สหรัฐฯ และจีนกำหนดวันและเงื่อนไขที่จะมีการเจรจารอบใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ส่วนตัวแปรอื่นๆ มีน้ำหนักต่อตลาดค่อนข้างน้อย รวมถึงตลาดลดความกังวลต่อการตั้ง ครม. หลัง ‘สามมิตร’ ยุติการทวงเก้าอี้รัฐมนตรี และวันนี้ให้จับตา Fitch’s ซึ่งจะมีสัมมนา และอาจพูดถึงการปรับอันดับเครดิตของไทย
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในมุมมอง KTBST นั้น ความเชื่อมั่นอยู่ที่ Fund Flow ของนักลงทุนต่างประเทศที่ซื้อหุ้นไทย 4 เดือนติดต่อกันที่ 6 หมื่นล้านบาท แต่แรงขายที่เกิดขึ้นมองเป็นการ Take Profit ช่วงสั้นๆ ส่วนความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก อาจส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมี
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- บริษัทหลักทรัพย์ KTBST