วันนี้ (21 มิถุนายน) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ในวาระแรก วันสุดท้าย
กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายถึงการจัดสรรงบประมาณปี 2568 ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้รับงบสูงถึง 3.40 แสนบาท เป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณสูงเป็นลำดับต้นๆ มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนเกี่ยวกับการวางรากฐานการศึกษาให้กับประเทศไทย
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เรามีการลงทุนไป 6.2 ล้านล้านบาท แต่ปัญหาการศึกษาก็ยังคงเป็นเรื่องเดิม ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำ คุณภาพการศึกษา ภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง หรือแม้แต่การขาดแคลนครูในแต่ละโรงเรียน รวมถึงเรื่องหลักสูตรที่ไม่ตอบโจทย์ต่อการเปลี่ยนแปลงของอนาคต
กรวีร์กล่าวว่า ตนเองเห็นถึงความพยายามของกระทรวงศึกษาธิการทุกยุค ทุกสมัย ที่มีการแก้กฎหมาย แก้ระเบียบ หรือแม้แต่การปรับปรุงโครงสร้างปฏิรูปการศึกษา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ พรรคภูมิใจไทยจึงเสนอว่า ต้องเริ่มปฏิวัติการศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหา โดยเสนอ 3 แนวทางไปยังกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจัดงบประมาณแบบพลิกโฉมประเทศไทย
- จัดทำแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ เป็นการรวมคลังปัญญาของชาติ เพื่อสนับสนุนการศึกษาให้ประชาชนเข้าถึงการศึกษาและสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเปิดโอกาสให้ได้เรียนฟรีทุกที่ ทุกเวลา ปลดล็อกระบบการศึกษาที่แข็งตัวและไม่ตอบโจทย์กับตลาดแรงงานที่ตกยุคและไม่ทันกับโลกในศตวรรษที่ 21 ซึ่งไม่ได้เกิดประโยชน์แค่กับนักเรียน แต่จะตอบโจทย์ไปถึงนักศึกษาด้วย
- จัดทำระบบธนาคารหน่วยกิต การสะสมหน่วยกิตไม่ใช่เชื่อมโยงเพียงแค่กระทรวงศึกษาธิการ แต่เชื่อมกับทุกสถาบันของอุดมศึกษา และเชื่อมโยงไปถึงตลาดแรงงาน ซึ่งข้อดีของระบบนี้จะช่วยให้นักเรียนสามารถสะสมหน่วยกิตตามวิชาที่สนใจได้ และยังใช้เทียบโอนเรียนในระดับอุดมศึกษาได้ด้วย
- จัดทำระบบพอร์ตโฟลิโอ เพื่อช่วยให้คนได้เลือกเรียนในสาขาวิชาที่จะตอบโจทย์กับตลาดแรงงานในอนาคต สำหรับตำแหน่งต่างๆ ระบบจะแนะนำแนวทางช่วยให้คนเลือกเรียนในสาขาวิชาที่ตลาดแรงงานต้องการได้
“เมื่อวานผมได้ฟัง พริษฐ์ วัชรสินธุ จากพรรคก้าวไกล ที่มีการอภิปราย ผมดีใจที่ฝ่ายการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลเราเห็นตรงกันเรื่องแนวทางและหลักการที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการเรียนรู้ของการศึกษาไทย และเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้เราจะสามารถทำงานร่วมกันในการติดตามกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ของรัฐสภาแห่งนี้” กรวีร์กล่าว
กรวีร์กล่าวว่า พวกเราพรรคภูมิใจไทยเชื่อว่า หากจะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ ต้องเปลี่ยนแปลงการศึกษา เมื่อเปลี่ยนแปลงการศึกษาได้ เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาคุณภาพของคนในประเทศนี้ได้ และเมื่อเราเปลี่ยนแปลงคนในประเทศได้ เราจึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้ ช่วยกันปฏิวัติการศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาไปพร้อมๆ กัน