อากาศร้อนกว่า 30 องศาเซลเซียส ตลอดการทดสอบรถวันแรกที่ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวานนี้ (12 กุมภาพันธ์) โดยในช่วงที่อากาศร้อนที่สุด อุณหภูมิพุ่งไปกว่า 35 องศาเซลเซียส
นั่นไม่ใช่ภาพที่คุ้นชินนักของการแข่งขันโมโตจีพีที่มักจะมาแข่งขันที่ประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังที่จะเจอกับฝนมากกว่าแดด
แต่ ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ยอมรับว่าเขารู้สึกมีความสุขกับแดดที่ร้อนแรงในการซ้อมวันแรกที่ผ่านพ้นไปมากว่า แม้ว่าเขาจะทำเวลาในวันแรกตามหลังผู้นำอยู่กว่า 2 วินาทีก็ตาม
โดยในการทดสอบรถเมื่อวานนี้ ก้องลงเทสต์ในช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ด้วยรถ RC213V ทำเวลาช่วงบ่าย ซึ่งเป็นเวลาที่ดีที่สุดของตัวเองในวันแรกที่ 1 นาที 31.208 วินาที จบอันดับที่ 20 จากรถทั้งหมด 21 คัน
แม้การดูจากเวลาและอันดับแล้วอาจจะไม่ใช่ตัวเลขที่สวยงามนัก แต่สำหรับก้อง เขาพอใจกับการทดสอบที่เกิดขึ้น
เพราะเขาลงทำการทดสอบด้วยจำนวนรอบที่ไม่มากนัก และพยายามเก็บรายละเอียดมากกว่าทำเวลาให้ดี
“วันนี้ในช่วงตอนเช้าก็พยายามเก็บเกี่ยวรายละเอียด ส่วนในช่วงบ่ายก็มีการเปลี่ยนเซ็ตติ้งใหญ่ ทำให้ใช้เวลาเยอะ ทำให้วันนี้ต้องขี่น้อย” สมเกียรติเปิดเผยหลังการทดสอบวันแรกจบลง
“วันนี้ก็พยายามเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับรถ และก็พยายามหาจุดเบรกของตัวรถในสนามช้าง สำหรับวันนี้เราค่อนข้างดี เราได้ลองของที่ทีม HRC ให้มาด้วย
“เราพยายามทำงานในเซ็ตติ้งนี้ที่ทางทีม HRC ได้ยื่นมาให้ ก็เป็นผลค่อนข้างดี เพราะว่าในช่วงตอนบ่ายที่เราได้ลงไปพยายามที่จะกดเวลาและเช็กเซ็ตติ้งรถให้ละเอียดมากที่สุดก่อนที่จะถึงวันพรุ่งนี้ วันนี้ถือเป็นเซ็ตติ้งที่ค่อนข้างลงตัวมากๆ พร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ ที่จะทำเวลาในช่วงเช้าและขี่ Long Run ในช่วงบ่าย
“ฟีลลิ่งโดยรวมดีมากๆ ต้องการให้รถพร้อม 100% มากที่สุดก่อนที่จะเริ่มแข่งในไทยกรังด์ปรีซ์
หนึ่งในคำถามที่ THE STANDARD SPORT ถามก้องคือ ถ้าเทียบกับการทดสอบรถที่เซปัง ประเทศมาเลเซีย เขาประเมินตัวเองว่าคืบหน้าขึ้นประมาณเท่าไรแล้ว
“ผมให้ 60%”
นี่นับเป็นตัวเลขที่มากทีเดียวเมื่อมองจากการที่ก้องเพิ่งขึ้นมาขับรถในศึกโมโตจีพีเป็นปีแรก และต้องปรับตัวกับสิ่งใหม่ในหลายๆ อย่าง โดยเขายังให้รายละเอียดต่อไปว่า
“นี่คือการลงแข่งโมโตจีพีครั้งแรกของผมที่บุรีรัมย์ จึงจำเป็นต้องพยายามหาจุดเบรกและเรซซิงไลน์ที่แตกต่างออกไป โดยในวันพรุ่งนี้เราจะทดสอบการจำลองการแข่งขันระยะยาวว่าจะสามารถรักษาความคงที่ได้มากแค่ไหน รวมถึงทดลองวิ่งโหมดไล่ล่าเวลาต่อรอบเพื่อหาเวลาที่ดีที่สุด”
ก่อนที่เขาจะทิ้งท้ายเป็นการสรุปผลงานการทดสอบรถในวันแรกของเขาว่า
“โดยรวมพอใจมากๆ ครับกับเวลาที่วิ่งได้ในวันนี้ รวมถึงการยืนระยะที่คงที่ด้วย”
ขณะที่นักบิดที่ทำผลงานดีที่สุดคือ มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกรุ่นโมโตจีพี 6 สมัย จากทีมดูคาติ ที่ใช้เวลาในช่วงชั่วโมงสุดท้ายของการทดสอบทำเวลาดีที่สุดแซงหน้าทุกคน ด้วยเวลา 1 นาที 29.184 วินาที
มาร์คทำเวลาแซงหน้า อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายของเขาจากทีมเกรซินี เรซซิง ที่ครองตำแหน่งผู้นำ ซึ่งทำเวลาได้ดีที่สุดมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ 1 นาที 29.649 วินาที
ขณะที่อันดับ 3 ตกเป็นของ ฟรังโก มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาลีจากเปอร์ตามินา เอ็นดูโร วีอาร์46 เรซซิง ทำเวลาดีที่สุด 1 นาที 29.683 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.499 วินาที
โดยในวันนี้ (13 กุมภาพันธ์) นักบิดทุกคนจะยังคงมีคิวลงสนามทดสอบต่อเนื่องไปอีก 1 วัน ซึ่งการทดสอบจะเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 10.00 น. ก่อนไปจบที่เวลา 18.00 น. เหมือนเดิม
