‘กอบศักดิ์ ภูตระกูล’ ขอบคุณนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังเลื่อนเก็บ Transaction Tax และส่งให้กระทรวงการคลังพิจารณาใหม่ ส่วน FETCO เตรียมส่งทีมช่วยรัฐบาลศึกษาช่องทางหารายได้อื่นๆ เน้นเพิ่มจำนวน บจ. พร้อมเสริมความแกร่งให้กำไร บจ. เติบโต สร้างรายได้ให้รัฐเพิ่ม ด้าน ‘ไพบูลย์’ ชูจุดยืนเดิมเดินหน้าค้านต่อ ชี้ ‘ภาษีขายหุ้น’ ได้มากกว่าเสีย
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD WEALTH ว่า กรณีที่รัฐบาลจะมีการเลื่อนเก็บภาษีจากธุรกรรมขายหุ้น (Transaction Tax) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยส่งเรื่องกลับมาให้กระทรวงการคลังพิจารณานั้น ทาง FETCO ต้องขอบคุณ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เข้าใจถึงประเด็นปัญหาของตลาดทุนในปัจจุบันที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่กำลังมีปัญหาในหลายๆ ประเด็น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- วิเคราะห์ ‘ข้อดี-ข้อเสีย’ การจัดเก็บ ‘ภาษีขายหุ้น’ พร้อมเปิด 10 แนวทางพัฒนาตลาดทุนไทย
- FETCO ค้านเก็บภาษีขายหุ้น ย้ำไม่ใช่สถานการณ์ที่เหมาะสม ชี้เป็นปัจจัยซ้ำเติมสภาพคล่องตลาดหุ้นไทย เสี่ยงวอลุ่มหาย 30-40%
- ครม. ไฟเขียวเก็บภาษีขายหุ้น 0.10% แล้ว หลังเว้นใช้มา 30 ปี
สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังจะตั้งทีมงานมาวิเคราะห์และนำข้อเสนอแนะของ FETCO มาประกอบการพิจารณาอีกครั้ง โดยในส่วนของ FETCO พร้อมส่งทีมงานที่เป็นสมาชิกซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เข้ามาช่วยทำงานแบบใกล้ชิด เพื่อดำเนินการศึกษาหาแนวทางการจัดเก็บรายได้จากภาษีในด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนที่ไม่ใช่ Transaction Tax ซึ่งยังมีช่องทางอีกจำนวนมาก เช่น การเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกทั้งสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่จะช่วยให้กำไรของ บจ. เติบโต รวมถึงช่องอื่นๆ ที่จะมีการศึกษาร่วมกัน โดยจะช่วยให้รัฐบาลมีโอกาสมีรายได้เพิ่มตามเป้าหมาย
“ทีม FETCO จะเข้าไปช่วยศึกษาหาช่องทางอื่นในการหารายได้เพิ่มกับกระทรวงการคลัง นอกจากภาษีขายหุ้น ตัวอย่างเช่น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT ก่อนเข้าตลาดหุ้นก็เป็นบริษัทไม่ใหญ่ แต่พอเข้ามาแล้วสามารถใช้เครื่องมือในตลาดทุนขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตของธุรกิจไปทั่วโลก ซึ่งก็ยังมีอีกหลายบริษัทในไทยที่มีลักษณะนี้ที่มีโอกาสจะยกระดับขยายกิจการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้จากทั้งภาษีบุคคลธรรมดากับนิติบุคคล ภาษีการค้าต่างๆ รวมถึงช่วยสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้น ทำให้ภาคตลาดทุนสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
“ขณะที่ในปีนี้เป็นปีที่ไม่ง่ายสำหรับตลาดทุนไทย ยังมีปัญหาอีกเยอะที่จะมากระทบ ทั้งจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนและไม่จบลงง่ายๆ ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ซึ่งเราต้องประคับประคองตลาดทุนให้ผ่านปีนี้ไป แม้ตลาดหุ้นไทยช่วงปลายปีที่แล้วดูดีมาก แต่ถึงตอนนี้ก็พร้อมจะลงได้ทุกเมื่อจากความไม่แน่นอน ดังนั้นการที่เราทำให้ตัวเองแข็งแรงและมีปัญหาน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ก็จะช่วยให้ตลาดทุนสามารถผ่านพ้นปัญหาเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ไปได้”
จุดยืนชัด ค้านเก็บ ‘ภาษีขายหุ้น’
ด้านไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ และกรรมการ FETCO กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า เมื่อปลายปี 2565 FETCO ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกไปยังนายกรัฐมนตรีโดยตรง เพื่อคัดค้านการเก็บภาษี Transaction Tax รวมถึงชี้แจงผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตลาดทุนและภาคเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ FETCO ได้สื่อสารออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ จึงเชื่อว่าทำให้นายกรัฐมนตรีเข้าใจประเด็นปัญหาและผลกระทบที่จะตามมา จึงส่งเรื่องกลับมาให้กระทรวงการคลังศึกษาอีกครั้ง
ทั้งผลกระทบที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรวมในตลาดหุ้นเสี่ยงจะลดลงประมาณ 50% ซ้ำเติมให้สภาพคล่องการซื้อขายยิ่งลดลงไปอีก เนื่องจากจะส่งผลให้นักลงทุนมีภาระต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังไม่เหมาะสม เพราะสถานการณ์ตลาดหุ้นในช่วงนี้ยังถูกกดดันจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน
อย่างไรก็ดี กรณีที่รัฐบาลจะส่งเรื่องการเก็บภาษี Transaction Tax กลับมาให้ทางกระทรวงการคลังพิจาณาอีกครั้งถึงความเหมาะสม ในส่วนของ FETCO ยังคงมีจุดยืนเดิมคือคัดค้านการจัดเก็บภาษีส่วนนี้ ด้วยเหตุผลว่าจะมีผลกระทบเชิงลบมากกว่าเชิงบวกที่เคยให้ข้อมูลไปแล้ว
นอกจากนี้ หากได้มีโอกาสส่งทีมทำงานของ FETCO ไปร่วมศึกษากับกระทรวงการคลัง ก็จะพยายามนำเสนอข้อมูลของผลกระทบที่จะตามมาจากการเก็บ Transaction Tax พร้อมทั้งยังขอคัดค้านเรื่องนี้ต่อ เพื่อให้กระทรวงการคลังมีข้อมูลที่ครบถ้วนในการพิจารณา