ในยุคที่เราสามารถแต่งรถ แต่งบ้าน แต่งเสื้อผ้าให้เป็นในแบบที่ต้องการ กระทั่งมีชื่อของเราแปะหราไม่มีใครซ้ำ แล้วไหงเราจะทำกับขนมหวานบ้างไม่ได้ล่ะ
แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วกับช็อกโกแลต KitKat โดยบริษัทเนสท์เล่เปิดร้าน KitKat สั่งทำช็อกโกแลตที่สถานีรถไฟนัมบะบนเกาะฮอนชูในญี่ปุ่น มีจุดเด่นที่ นี่ไม่ใช่ร้านขายช็อกโกแลตที่คุณอาจคุ้นเคยดี เพราะข้างในนั้นคุณสามารถทำ KitKat ในฝันได้ด้วยตัวเอง ก่อนจะทำให้แข็งด้วยไนโตรเจนเหลว ให้เห็นเป็นช็อกโกแลตพร้อมหม่ำได้กับตา
จะว่าไปก็ไม่ต่างกับโรงงานขนมหวานของ Willie Wonka ในเรื่อง Charlie and the Chocolate Factory (2005) ที่แขกสามารถกดหน้าจอเลือกขนมหวานชนิดโปรดได้ โดยที่นี่ถึงกับให้คนรักขนมหวานได้เลือกประเภทของช็อกโกแลตที่เป็นเบสกันถึง 5 ชนิดด้วยกัน อาทิ ช็อกโกแลตใส่นม ใส่ชาเขียว รสสตรอว์เบอร์รี หรือไวต์ช็อกโกแลต เป็นต้น
ส่วนท็อปปิ้งที่มีให้เลือก มีตั้งแต่มาร์ชเมลโล, สับปะรด, แครนเบอร์รี, มะม่วง, ลูกเกด, อัลมอนด์, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, แมคาเดเมีย หรือกระทั่งเนื้อมะพร้าว โดยราคาช็อกโกแลต DIY นี้ตกอยู่ที่แท่งละ 6-9 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 200-296 บาท)
ส่วนคนหลายใจเลือกไม่ถูก จริงๆ ก็สามารถเลือกแบบมีท็อปปิ้งแบบลักชัวรีที่ใส่รวด 9 ท็อปปิ้งสำหรับคนไม่อยากเลือก ซึ่งสนนราคาที่ 18 เหรียญ (590 บาท) หรือจะแบบที่เชฟขนมหวานเลือกมาให้แล้วว่าเข้ากันได้ดีที่สุดกับเบสที่เลือกได้ คล้ายๆ กับการเลือกไวน์ในร้านหรูไหมล่ะ!
ถ้า ‘คิดจะพัก’ จากการทำช็อกโกแลต DIY ของตัวเอง คิดถึง KitKat ที่มีให้เลือกเอ็นจอยไปเพลินๆ กันได้อีกด้วย
KitKat ก่อตั้งขึ้นในปี 1935 ในกรุงลอนดอน จากการเป็นขนมเวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลต และปัจจุบันบริษัทเนสท์เล่จากสวิตเซอร์แลนด์เป็นผู้ดูแลในสหราชอาณาจักร และ H.B. Reese Candy Company ที่ผลิตขนมพีนัตบัตเตอร์ Reese ดูในส่วนการผลิตของสหรัฐอเมริกา
และหนึ่งในเหตุผลที่ KitKat เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นก็เพราะ ชื่อของแบรนด์ฟังดูใกล้เคียงกับคำว่า ‘kito kato’ ที่แปลว่า ‘ชนะแน่นอน’ นั่นเอง
ภาพ: Courtesy of Nestle Japan
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
