วันที่ 2-30 พฤศจิกายน 2560 รัฐบาลกำหนดเปิดให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ในวันนี้ (1 พ.ย.) มีการทดสอบการนำประชาชนเข้าชมนิทรรศการ โดยมีตัวแทนผู้นำศาสนา นักเรียน และเครือข่ายวัฒนธรรม มาทดสอบระบบคัดกรองการนำชมพระเมรุมาศและนิทรรศการในแต่ละอาคารภายในพระเมรุมาศ การอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ ทางลาดของผู้พิการ และพระภิกษุสงฆ์ โดยมีทั้งหมด 3 รอบ รอบละ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
ผู้เข้าชมจะได้รับแผ่นพับนำชมนิทรรศการ ซึ่งสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกนเพื่อรับชมพระเมรุมาศแบบสามมิติ รวมถึงมีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้คอยให้ข้อมูลในทุกจุด ส่วนการอำนวยความสะดวก มีการประสานกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้บริการน้ำดื่ม รถสุขาเคลื่อนที่ และทีมแพทย์พยาบาลดูแลรอบสนามหลวง
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพเปิดเผยว่า ประชาชนจะสามารถเข้าชมพระเมรุมาศได้บริเวณชั้น 1 และชั้น 2 รวมถึงเข้าชมนิทรรศการและถ่ายรูปได้ทุกจุด แต่ขอให้มีความสำรวม ขอความร่วมมืองดเซลฟี่และงดการไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย ขณะที่เจ้าหน้าที่จะคอยย้ำเตือนว่าห้ามสัมผัสพระเมรุมาศและนิทรรศการอื่นๆ
โดยหลังจากทดสอบระบบในวันนี้จะมีการปรับเพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น จะมีการเตรียมร่มแขวนบริการในช่วงเวลากลางวันหรือบ่าย แต่ก็ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมมาด้วยตัวเองในเบื้องต้นก่อน
ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะมีการประเมินจำนวนผู้เข้าชมทุกวัน โดยแต่ละวันคาดว่าจะสามารถรองรับผู้เข้าชมได้ประมาณรอบละ 5,500 คน เฉลี่ยวันละ 100,000 คน รวมตลอดทั้งเดือนที่จัดนิทรรศการคาดว่า 3 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม หากประเมินแล้วว่าประชาชนมีการเข้าชมจำนวนมากก็จะเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อกราบทูลขอพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการขยายเวลารับชมนิทรรศการอาจเป็นทั้งการขยายเวลาจาก 7.00-22.00 น. เป็น 6.00-24.00 น. หรืออาจขยายวันเพิ่มเติมจากวันที่ 30 พฤศจิกายนออกไป
สำหรับจุดคัดกรองมีทั้งหมด 5 จุดคือ หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์, บริเวณท่าช้าง, หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน, หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบริเวณด้านหลังกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้สำหรับผู้พิการ ขอให้มาเข้าที่จุดคัดกรองพิเศษบริเวณหน้าศาลฎีกา และพระสงฆ์บริเวณหน้าธรรมศาสตร์
นิทรรศการเนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ประกอบด้วย
- นิทรรศการพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศที่ใช้ใพระราชพิธี
- บริเวณพระที่นั่งทรงธรรม เป็นนิทรรศการพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และจิตรกรรมฝาผนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- บริเวณศาลาลูกขุน 6 หลัง เป็นนิทรรศการพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างประกอบ และงานบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ
- บริเวณทับเกษตร เป็นนิทรรศการเพื่อผู้พิการทางสายตา
- ภูมิทัศน์บริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศ แสดงพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9
นอกจากนี้ยังมีเวทีมหรสพด้านนอกฝั่งทิศเหนือที่จัดแสดง 2 ช่วงคือ 18.00-19.30 น. และ 20.00-22.00 น.
โดยทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 19.00-20.00 น. จะจัดแสดงโขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรม เริ่มครั้งแรกวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้
ส่วนการเดินทาง ได้ประสาน ขสมก. จัดรถเมล์ฟรีจากจุดต่างๆ มายังสนามหลวง 6 เส้นทางคือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สถานีรถไฟหัวลำโพง, วงกลมรอบเกาะรัตนโกสินทร์, สถานีขนส่งเอกมัย, สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ และสถานีขนส่งหมอชิต พร้อมกับประสานกองทัพเรือให้บริการเดินเรือตั้งแต่เวลา 6.00-22.00 น. ที่ท่านิเวศน์วรดิฐ และท่าราชนาวิกสภา และประสานกรมเจ้าท่า ขอความร่วมมือผู้ให้บริการเรือด่วน เรือเมล์ ขยายเวลาให้สอดคล้องกับการจัดนิทรรศการในช่วงเวลา 5.00-22.30 น.