Kingdom: Ashin of the North หรือในชื่อภาษาไทย ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด:
อาชินแห่งเผ่าเหนือ เป็นซีรีส์ตอนพิเศษ ที่พาย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง ต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวล ซึ่งจะออกอากาศในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ หลังรอคอยกันมาหนึ่งปีเต็มๆ
THE STANDARD POP ได้เข้าร่วมสัมภาษณ์พิเศษกับ ชอนจีฮยอน พัคบยองอึน นักเขียนคิมอึนฮี ผู้กำกับคิมซองฮุน เพื่อสอบถามทุกสิ่งที่ควรรู้ ทั้งการทำงานเบื้องหลัง การเตรียมตัว บรรยากาศการถ่ายทำ และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสนุกๆ ท่ามกลางฉากหลังของเซ็ตสัมภาษณ์ที่ใช้วิชวลกราฟิกแสดงภาพป่าทึบในแดนเหนือ สถานที่ที่เรื่องราวเริ่มต้น
อยากให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของซีรีส์ตอนพิเศษ Kingdom: Ashin of the North
นักเขียนคิมอึนฮี: ตอนเขียนบทในซีซัน 1 และ 2 ฉันเกิดความคิดให้สมุนไพรคืนชีพมีคุณสมบัติทนทานต่ออากาศหนาว หลังจากนั้นก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับแผ่นดินทางภาคเหนือของโชซอนมากขึ้น อย่างเช่น ชนเผ่าซองจอยาอิน ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณนั้น ฐานทัพด่านนอก 4 แห่งที่ถูกทำลาย และที่ราบสูงแคมา แล้วก็เริ่มเอารายละเอียดเหล่านั้นมาปะติดปะต่อกัน ฉันเลยเกิดไอเดียว่าตัวละครหลักน่าจะมาจากภูมิภาคแถบนี้
ในตอนนั้นฉันไม่คิดว่าตัวละครอาชินจะได้ปรากฏต่อสายตาคนดูทั่วโลกเสียแล้ว แต่พอเธอปรากฏตัวท้ายซีซัน 2 เสียงตอบรับและความสนใจล้นหลาม ทำให้ Netflix เสนอให้สร้างตอนพิเศษนี้ขึ้นมา และฉันก็ตกลงทันที รู้สึกขอบคุณมากที่ได้รับโอกาสนี้
การเขียนบทตอนพิเศษ Kingdom: Ashin of the North ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่า และอาชินเป็นตัวละครที่ฉันอยากเขียนขึ้นมามากๆ ตัวเธอเป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ชายแดนทางตอนเหนือของโชซอน แต่กลับไม่มีที่ยืน ไม่มีรากเหง้า จนต้องตามหาตัวตนของตัวเอง ซึ่งบทตอนพิเศษนี้เป็นเรื่องที่เกิดก่อนเหตุการณ์ต่างๆ ในซีซัน 1
คุณกำกับซีซันแรก และอีพีแรกของซีซัน 2 จากนั้นอยู่ในตำแหน่งโปรดิวเซอร์ อะไรคือเหตุผลที่คุณกลับมากำกับ Kingdom: Ashin of the North อีกครั้ง
ผู้กำกับคิมซองฮุน: ระหว่างที่ทำงานในซีซัน 2 ผมได้อ่านบทตอนพิเศษนี้ มีประมาณ 4-5 แผ่น แต่ผมตื่นเต้นมาก และประทับใจที่นักเขียนคิมอึนฮีแตกแขนงจักรวาล Kingdom ออกไปได้อีก ซึ่งบทก็เขียนออกมาสมบูรณ์แบบมากๆ ผมจึงคิดว่าวิธีไหนที่จะทำให้ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด และได้คำตอบว่ากำกับด้วยตัวเอง น่าจะเป็นวิธีที่เร็วที่สุด
ซึ่งผมดีใจที่ได้กลับมาเจอทีมงานที่คุ้นเคยกันดี รวมถึงตื่นเต้นที่ได้เห็นตัวละครใหม่ๆ ที่ทำให้ผมสนุกกับการทำงานมากครับ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ผมคิดว่าไม่น่าจะมีผู้กำกับคนไหนกล้าปฏิเสธผลงานที่นักแสดงอย่าง ชอนจีฮยอน ร่วมแสดงด้วย
อะไรคือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญที่สุดในการกำกับตอนพิเศษนี้
ผู้กำกับคิมซองฮุน: ต่างจากซีซัน 1 และ 2 ภาคพิเศษนี้จะเล่าเรื่องราวแคว้นทางเหนือของโชซอน ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำอัมนก เป็นโลเคชันที่แปลกใหม่สำหรับเราทุกคน และการสร้างฉากหลังให้ดึงดูดผู้ชมเป็นหน้าที่หลักครับ แม้เราจะไม่สามารถถ่ายทำบริเวณแม่น้ำอัมนกได้จริง แต่ทีมโปรดักชันได้ตระเวนไปยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งโดยหลักๆ อยู่ที่เกาะเชจู เพื่อค้นหาป่าสนที่ให้บรรยากาศสมัยดึกดำบรรพ์ แม่น้ำอัมนก และทุ่งต้นอ้อ รวมถึงพื้นดินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ
ผมตั้งใจจะเซ็ตให้แตกต่างจากสองซีซันแรก ที่เราได้เห็นพระราชวัง ป้อมปราการหัวเมือง ในตอนพิเศษผมเลยอยากให้เห็นความดุร้ายที่ลึกลับในแผ่นดินทางเหนือที่คนไม่เคยค้นพบมาก่อน
เหตุผลอะไรที่อาชิน ต้องเป็นชอนจีฮยอน
นักเขียนคิมอึนฮี: ฉันเป็นแฟนผลงานของเธอมายาวนาน ชอนจีฮยอนแสดงออกมาได้อย่างหลากหลายมิติ ตั้งแต่งานโรแมนติกอย่าง My Sassy Girl และพอได้เห็นการแสดงในงานภาพยนตร์อย่าง The Thieves และ Assassination ฉันมองเห็นอะไรบางอย่างอยู่ลึกๆ ข้างใน ฉันคิดถึงชอนจีฮยอนตอนที่เขียนถึงตัวละครอาชิน และหวังว่าจะได้เห็นเธอมารับบทนี้
ชอนจีฮยอน: ฉันเป็นแฟนตัวยงของนักเขียนและผู้กำกับเหมือนกันนะคะ Kingdom สำหรับฉันไม่ใช่แค่ซีรีส์ซอมบี้ ฉันยังเคยบอกนักเขียนเลยว่าให้ฉันเล่นเป็นซอมบี้ในเรื่องก็ได้ จริงๆ ค่ะ แต่ตอนที่รู้ว่าได้รับบทที่ยิ่งใหญ่ Kingdom: Ashin of the North ฉันก็ดีใจมาก ไม่มีเหตุผลเลยที่ฉันจะไม่รับแสดงเรื่องนี้
ถ้าอย่างนั้น คุณต้องเตรียมตัวอะไรบ้างเพื่อรับบทเป็นอาชิน
ชอนจีฮยอน: อย่างแรกเลย ฉันออกกำลังกายตลอดอยู่แล้ว เรื่องพื้นฐานร่างกายไม่น่าห่วงสำหรับบทแอ็กชันทั่วไป แต่พอรับบทอาชิน ฉันต้องไปฝึกเรื่องการยิงธนูเพิ่มเยอะมากค่ะ เพื่อให้สมบทบาท เพราะอาชินเป็นคนที่จับซอมบี้ได้ด้วยธนูเพียงดอกเดียว ซึ่งการเรียนยิงธนูค่อนข้างยากมากๆ ค่ะ
ส่วนเรื่องการแสดง ตอนที่อ่านบทฉันคิดถึงตัวอาชินตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ ฉันคิดว่ามันยากมาก เพราะต้องการคาแรกเตอร์ที่หลากหลาย ความรู้สึกและอารมณ์ที่หลากหลาย ซึ่งบทของอาชินเป็นการบ้านที่ยากมากสำหรับฉันเหมือนกัน
อยากให้คุณเล่าถึงตัวละครมินชีรกในตอนพิเศษ Kingdom: Ashin of the North
พัคบยองอึน: สวัสดีครับ ผมรับบทมินชีรก เขาเป็นผู้ชายที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องประเทศชาติ ในซีซัน 2 เขาเป็นหัวหน้าแม่ทัพ มีฉากฆ่าซอมบี้และผู้ติดเชื้อมากมาย แต่ในตอนพิเศษจะไม่ค่อยมีฉากแอ็กชันเหล่านี้เท่าไร เพราะ Kingdom: Ashin of the North จะเน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับอาชิน รวมถึงการค้นพบจุดเริ่มต้นของเชื้อโรคร้าย ซึ่งเนื้อเรื่องน่าสนใจมากครับ
ที่ผ่านมาในซีซัน 2 เรื่องการต่อสู้และฉากแอ็กชันผมเตรียมพร้อมไปแล้ว อ้อ ในซีซัน 2 ถ้ายังจำกันได้ คาแรกเตอร์ผมจะมีฉากที่เกี่ยวกับธนู ซึ่งในตอนพิเศษนี้คุณจะเห็นว่าอาชินเก่งเรื่องยิงธนูเหมือนกัน
มีฉากไหนที่คุณประทับใจในตอนพิเศษนี้จนยังจำได้ไม่ลืมไหม
พัคบยองอึน: ฉากที่ผมชอบอยู่ในเทรลเลอร์ด้วย เป็นฉากตอนที่อาชินยังเด็ก มันกลายเป็นความทรงจำสำหรับผมเป็นพิเศษ เพราะคิมชีอา (ผู้รับบทอาชินวัยเด็ก) แสดงได้ประทับใจมากๆ เธอร้องไห้เพื่อขอร้องมินชีรก ฉากนั้นส่งพลังให้กับตัวผมเองด้วย เธอแสดงออกมาได้ดีจนผมทึ่งในฝีมือเลยครับ อยากให้ติดตามครับว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละครนี้จะดำเนินไปอย่างไร
ภาพจากภาพยนตร์ Assassination (2015)
คุณสองคนเคยร่วมงานกันมาแล้วใน Assassination ได้กลับมาแสดงด้วยกันอีกครั้งเป็นอย่างไรบ้าง
ชอนจีฮยอน: ดีใจนะคะ เพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว ตอนนั้นเขาเคยคุยว่าตัวเองตกปลาเก่ง แล้วอวดรูปปลาที่จับได้ พอมาครั้งนี้ได้ทำงานด้วยกันที่เกาะเชจู ก็ได้เห็นว่าเขาตกปลาเก่งจริงๆ พวกเราได้ทานปลาจนอิ่มเลยค่ะ
พัคบยองอึน: ตอนที่ถ่ายภาพยนตร์ Assassination (2015) ได้ร่วมงานกันครั้งแรก ก็ยังไม่สนิทกันมากครับ แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่ามีความสุขตลอดการทำงาน แล้วยังจับปลาได้หลายตัวเลยครับ มีหมึกด้วย ผมเหนื่อยมากเลยครับ ไม่รู้จะโฟกัสกับการแสดงอย่างไร (หัวเราะ) แต่ทุกคนก็ได้ทานปลาและหมึกที่ผมตกได้ที่เกาะเชจูกันจนอิ่ม
กับชอนจีฮยอน เราเคยไปประเทศจีนด้วยกันตอนที่ถ่าย Assassination ตอนนั้นผมเห็นเธออยู่ที่ยิมออกกำลังกายตลอดเวลาเลยครับ ขณะที่คนอื่นๆ ออกไปทานข้าว ไปสังสรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมนับถือมากๆ
ชอนจีฮยอน: การทำงานในฐานะนักแสดง เราต้องดูแลเรื่องร่างกายของตัวเองให้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ แต่ฉันก็ต้องบอกว่ามันไม่ง่ายเลยค่ะ วันที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าบางวัน ฉันก็ยังเป็นคนที่นอนอยู่นิ่งๆ และไม่อยากออกไปทำอะไรเหมือนกัน
เหตุผลที่ฉันเริ่มออกกำลังกายในตอนแรกก็คือ ฉันมองว่ามันเป็นพื้นฐานที่นักแสดงต้องทำ และสำหรับฉันอีกเหตุผลคือฉันเป็นคนชอบกินอาหารค่ะ นี่เป็นเหตุผลสำคัญเลยค่ะ เพราะฉันอยากกิน ก็เลยต้องออกกำลังกายเยอะมาก เพื่อให้ได้กินอาหารอร่อยๆ
พัคบยองอึน: จริงครับ เธอกินเยอะ และออกกำลังกายเยอะมาก อย่างตอนที่ถ่าย Kingdom ผมไปเจอสถานที่น่าสนใจบนเกาะเชจู พอกลับมา เธอรีบออกไปกินตามที่ผมแนะนำเลยครับ
เบื้องหลังการถ่ายทำที่หลายคนอยากรู้คือ พวกคุณกลัวซอมบี้ที่อยู่ในเซ็ตบ้างไหม
ชอนจีฮยอน: ไม่เลยค่ะ ฉันตื่นเต้นและรอคอยที่จะเจอซอมบี้ตั้งแต่ก่อนเริ่มถ่ายทำแล้วค่ะ พอได้เจอจริงๆ ฉันรู้เลยว่านักแสดงที่รับบทซอมบี้ต้องอดทนมากๆ เหนื่อยมากๆ และตั้งใจมากๆ ในการเมกอัพเป็นซอมบี้ ฉันไม่รู้ว่าควรหรือไม่ควร แต่ก็อยากถ่ายรูปกับซอมบี้ให้ได้ รู้ทั้งรู้ว่าพวกเขาเหนื่อยแต่ก็ถ่ายรูปเก็บไว้ และส่งไปอวดเพื่อนๆ ด้วยค่ะ
พัคบยองอึน: ผมมีประสบการณ์ทำงานกับซอมบี้มาแล้วตั้งแต่ซีซัน 2 ส่วนใหญ่เราจะทำงานในป่าตอนกลางคืน แล้วบางทีผมก็เห็นพวกเขาในเมกอัพมีบาดแผลเลือดอาบ นั่งพักรับประทานอาหารอยู่ใต้ต้นไม้ ตอนนั้นก็มีตกใจบ้างเหมือนกัน แต่พอเป็นตอนพิเศษก็เริ่มชินแล้ว ไม่ค่อยตกใจเท่าไร
ส่วนตัวผมเวลาได้เห็นพวกเขาในเมกอัพซอมบี้โทรหาที่บ้าน โทรหาแม่ถามว่ากินข้าวแล้วหรือยัง ก็ทำให้ผมมีความคิดขึ้นมาเหมือนกันว่าซอมบี้อาจจะไม่ใช่ซอมบี้อย่างที่เราคิดกัน เพราะพอเห็นเขาทำสิ่งปกติในชีวิตประจำวันแล้วก็ทำให้ผมคิดว่า ความเป็นกับความตายมีเส้นคั่นบางๆ เท่านั้นเอง