Kill Boksoon ภาพยนตร์ผลงานใหม่ของจอนโดยอน ที่ต้องนับถือน้ำใจในงานแสดงที่ทุ่มเท เพราะไม่ใช่ง่ายๆ ที่นักแสดงคนหนึ่งที่ไม่เคยอยู่ในสายงานแสดงแอ็กชันมาก่อนจะเล่นจริงไม่ใช้สแตนด์อินทั้งเรื่องได้แบบนี้

จอนโดยอน นักแสดงนำยืนหนึ่งของ Kill Boksoon กำลังจะมาเล่าให้ฟังว่าเธอทุ่มเทกับบท คิลบกซุน ขนาดไหน และการเป็นแม่หรือนักฆ่า อะไรมันยากกว่ากัน

เรื่องราวใน Kill Boksoon จอนโดยอน รับบทเป็น คิลบกซุน แม่ของลูกสาวกำลังวัยรุ่น และมีโลกอีกใบที่เธอเป็นนักฆ่าแถวหน้าของวงการ ซึ่งความย้อนแย้งของการเป็นคนที่คร่าชีวิตใครคนหนึ่งขณะเดียวกันก็ต้องเลี้ยงดูคนคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นมา ก็ต้องบอกว่าเป็นประเด็นที่ชัดเจนของภาพยนตร์ว่าตัวละครเลือกทางไหนในการมีชีวิตต่อไปบนโลกทั้งสองใบ และทำอย่างไรให้เธอไม่ต้องปิดบังหรือแยกชีวิตทั้งสองด้านออกจากกัน

ขณะที่คิลบกซุนจะต่อสัญญากับ MK Ent. องค์กรนักฆ่าที่ยิ่งใหญ่ของเกาหลีใต้ เธอก็กำลังประสบปัญหาลูกวัยรุ่นที่ดูเหมือนว่านับวันจะยิ่งห่างเหินกันเข้าไปทุกที จนทำให้คิลบกซุนพูดเปรียบเปรยอยู่หลายครั้งว่า “การฆ่าง่ายกว่าอีกถ้าเทียบกับการเลี้ยงลูก”

จริงๆ แล้ว จอนโดยอนเป็นนักแสดงที่ไม่ได้รับงานซีรีส์มากนัก เพราะนับตั้งแต่ Lovers in Prague ในปี 2005 เธอก็มีผลงานซีรีส์อีกแค่สองเรื่องคือ Lost (2021) และ The Good Wife (2016) ก่อนจะมาโด่งดังสุดๆ กับบท นัมแฮงซอน คุณแม่เจ้าของร้านอาหารใน Crash Course in Romance

“ฉันไม่ได้คิดว่า Kill Boksoon จะเข้าฉายเร็วขนาดนี้เลยค่ะ เพราะคนยังจำฉันจากซีรีส์ Crash Course in Romance อยู่เลย คนยังเล่นมุกตลกว่านี่มันโลกสองใบของนัมแฮงซอนนี่หน่า”

และจากบทนัมแฮงซอน การมีผลงานต่อใน Kill Boksoon ก็ถือว่าเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ เพราะเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันที่ต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายและการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงตลอดทั้งเรื่องที่เธอต้องแสดงด้วยตัวเองแทบทั้งหมด เพราะการถ่ายทำแบบลองเทกนั้นสำคัญ

บทบาทนักฆ่าและแม่ของลูกสาววัย 15 ปี

“คิลบกซุนเป็นนักฆ่าระดับตำนาน ไม่เคยทำงานพลาดเลยสักครั้ง และการเป็นนักฆ่าทั้งยังเป็นแม่ที่เลี้ยงลูก ฉันพนันได้เลยว่ามันดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ไม่ใช่ เพราะเธอต้องทำให้ได้ดีทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน

“ที่ผ่านมาตัวฉันเองอยากที่จะลองการแสดงหลากหลายแนว แต่โอกาสเหล่านั้นก็ใช่ว่าจะมาง่ายๆ เพราะฉะนั้นเลยดีใจมากตอนที่ผู้กำกับเสนอบทภาพยนตร์แอ็กชัน เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่ตัดสินใจรับบทโดยไม่ได้อ่านบทก่อน ฉันแฮปปี้มาก แต่พอได้อ่านบท มันก็เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันจริงๆ ค่ะ ก็เลยเริ่มกลัวขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าจะทำมันได้ดีไหม

“ตอนที่รู้ว่าต้องแสดงเป็นนักฆ่าคิลบกซุน สำหรับตัวฉันเองในชีวิตจริงก็พยายามทำให้ดีทั้งการเป็นแม่และการเป็นนักแสดงอยู่แล้วค่ะ ความหมายของการมีโลกสองใบสำหรับฉันก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรนัก

“แต่เรื่องที่ไม่แน่ใจและทำให้กลัวจริงๆ ก็ตอนที่ฉันต้องคอยบอกตัวเองอยู่ตลอดว่าต้องทำให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องทำให้มันจบให้ได้ ฉันพยายามฝึกฝนอย่างหนัก เพราะมันไม่ใช่แค่ฉันกับทีมแอ็กชัน แต่หมายถึงฉันกับนักแสดงคนอื่นๆ ด้วย บางครั้งนักแสดงเองก็ต้องการอารมณ์ที่เข้าถึงบทบาทที่สุดในการแสดงแต่ละฉาก เราต้องมั่นใจว่าฝึกซ้อมมากพอที่จะไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือมีใครบาดเจ็บอีกด้วยค่ะ

“Kill Boksoon เป็นงานที่ท้าทายมากๆ สำหรับฉัน ต้องเล่าถึงฉากแอ็กชันในเรื่องค่ะ ตัวฉันเองพยายามมากๆ ที่จะทำให้ฉากแอ็กชันออกมาสมบูรณ์แบบ แต่ร่างกายฉันมันไม่ช่วยเหลือกันเลย ฉันอยากจะทำให้ดีมากๆ แทบตาย เพราะอย่างนั้นฉันเลยผลักดันตัวเองมากๆ ไปให้ไกลว่าลิมิตที่ตัวเองมี ซึ่งตอนที่ฉันผลักดันตัวเองไปข้างหน้า ฉันก็ยังคิดถึงบางฉากที่ถ่ายทำไปแล้วว่าฉันน่าจะทำมันได้ดีกว่านี้สิ

“ผู้กำกับบยอนซังฮยุนเองต้องการถ่ายทำแบบลองเทก โดยเฉพาะในฉากแอ็กชัน และมันค่อนข้างเต็มไปด้วยความกังวล แต่พอฉันแสดงฉากเหล่านั้นเสร็จ มันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่แตกต่างตีกันอยู่ข้างในตัวฉันแบบนั้นเลย”

ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของคิลบกซุนและชามินกยู

ซอลคยองกู รับบทเป็น ชามินกยู ซีอีโอของ MK Ent. และ Kill Boksoon เป็นการร่วมงานกันครั้งที่สามระหว่างจอนโดยอนและซอลคยองกู หลังจากผลงานอย่าง I Wish I Had a Wife และ Birthday ซึ่งซอลคยองกูนับเป็นนักแสดงที่มีส่วนช่วยเหลือจอนโดยอนใน Kill Boksoon ไม่ใช่น้อย

“คยองกูเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออกเท่าไร แต่เขาจะคอยอยู่ตรงนั้นให้ฉันเสมอ คอยกันหลังให้เสมอแบบนั้นค่ะ ยิ่งตอนที่ถ่ายทำ Kill Boksoon เขาคอยดูแลอยู่ตลอดเลย”

จอนโดยอนตีความตัวละคร โลกสองใบของคิลบกซุน

จอนโดยอนวิเคราะห์และตีความตัวละครอย่างไรบนโลกสองใบที่เธอยืนอยู่ เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ความแตกต่างระหว่างโลกของการเป็นนักฆ่า หรือตอนที่ฉันเป็นแม่ของลูกสาววัยรุ่น ฉันไม่ได้พยายามนำเสนออะไรที่ให้เห็นความแตกต่างขนาดนั้นนะคะ

“แต่ตัวผู้กำกับเลือกใช้มุมกล้องที่ให้เห็นใบหน้าคนละด้านของฉันอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเทคนิคที่แสดงให้เห็นว่าคาแรกเตอร์ของฉันมีสองด้านที่ซ่อนอยู่ และแตกต่างกันอย่างไร

“หรืออย่างความหมายชื่อของ คิลบกซุน ตอนที่คุณนึกถึงคำว่า บกซุน ตัวละครของฉันใน Kill Boksoon เธอเป็นคนที่ฉลาด เท่ ดูมีการศึกษามากๆ แต่ด้วยชื่อ บกซุน เป็นชื่อที่ค่อนข้างเชยในเกาหลี มันจึงเหมือนเป็นการบอกถึงนัยบางอย่าง แต่บอกเลยว่าชื่อคิลบกซุนสำคัญมากๆ กับภาพยนตร์เรื่องนี้”

การทำงานกับผู้กำกับบยอนซังฮยุน

“ฉันทำงานการแสดงมานานพอสมควร เคยได้รับบทที่แตกต่างกันในหลายโปรเจกต์ แต่ทุกครั้งที่ฉันทำงานโปรเจกต์ใหม่ๆ ฉันก็กระหายที่จะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ เหมือนกันค่ะ ฉันอยากไปที่กองถ่ายและดึงเอาแง่มุมใหม่ๆ ของตัวเอง ที่แม้กระทั่งตัวฉันเองก็ไม่รู้ว่ามีอยู่ออกมา

“ฉันพบว่าผู้กำกับบยอนซังฮยุนปล่อยให้ฉันเป็นตัวฉันเอง แล้วคอยสังเกตว่าอารมณ์อะไรหรือแบบไหนที่ออกมาจากตัวฉัน เขาเป็นคนที่แพลนทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้า และสนใจในรายละเอียดเล็กๆ มากค่ะ กระทั่งวิธีการเคลื่อนไหวของฉัน วิธีที่ฉันเอียงหัว ไปจนถึงอะไรต่างๆ มันเลยสนุกมากที่ได้ทำงานกับเขา บางทีก็เหมือนไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเลย แต่การทำตามสั่งที่ผู้กำกับวางไว้ รวมถึงการเอียงใบหน้า อารมณ์ละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มันทำให้ฉันอยากรู้มากว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

“เอาจริงๆ มันไม่ใช่ง่ายนะคะในช่วงแรกๆ อย่างฉากแรกที่เราถ่ายทำกัน ฉันยังบ่นกับผู้กำกับเลยว่านักแสดงก็มีอารมณ์ของตัวเองนะ ทำไมคุณถึงให้เขาทำในสิ่งที่คุณต้องการ แต่พอได้ทำงานร่วมกัน ได้ปรับสไตล์การทำงานของเขา มันทำให้ฉันสนุกมากๆ ค่ะ ช่วงหลังๆ ของการถ่ายทำฉันเสียอีกที่เป็นฝ่ายถามเขาว่า ผู้กำกับ คุณมาทำอะไรที่นี่”

สุดท้ายจอนโดยอนได้ฝากข้อความถึงแฟนๆ ซีรีส์และภาพยนตร์ของเธอเอาไว้ก่อนที่ Kill Boksoon จะเข้าฉายทาง Netflix ในวันที่ 31 มีนาคมนี้ว่า “ขอบคุณทุกความรักและการสนับสนุน Kill Boksoon ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะดูเกาหลีมากๆ แต่มันเป็นตลกเสียดสีที่คนดูทั่วโลกน่าจะเข้าใจได้ ทั้งอารมณ์ขันและบทพูดที่โดนใจ หวังว่าทุกคนจะสนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้นะคะ”

ตัวอย่างภาพยนตร์ Kill Boksoon

ภาพ: Netflix